ฉาว สื่ออังกฤษตีข่าว นทท. เที่ยวไทยแต่ถูกทำร้าย-ปล้น ซ้ำติดคุก ยกเป็นฝันร้าย

          สื่ออังกฤษ ตีข่าวฉาว นักท่องเที่ยวเล่าประสบการณ์เลวร้ายในไทย ถูกปล้น-ติดคุก 2 ครั้ง ซ้ำถูกตำรวจทำร้าย มองคนเป็นมิตรเฉพาะตอนที่จ่ายเงิน
นักท่องเที่ยว เที่ยวไทยโดนทำร้าย
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

         
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานเรื่องราวของ แอนดรูว์ ฮอปกินส์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษวัย 55 ปี ซึ่งออกมาเปิดเผยประสบการณ์ฝันร้ายขณะมาเที่ยวประเทศไทย หลังจากที่เขาถูกทำร้ายร่างกาย ติดคุก 2 ครั้ง ถูกริบข้าวของ โดยอ้างว่าเรื่องทั้งหมดเกิดเพราะเขาไปทำป้ายเสียหายโดยไม่ตั้งใจ

          แอนดรูว์ ระบุว่า เขาพักอยู่ที่ Airbnb ในพัทยา และออกไปเดินเล่นในละแวกช่วงกลางดึก ตอนนั้นเองที่เขาดันไปชนป้ายทางเข้าของที่พักแห่งอื่นโดยไม่ตั้งใจ ด้วยความที่เขาเป็นคนร่างใหญ่ หนัก 136 กิโลกรัม ทำให้ป้ายเสียหายจากการถูกชน และก่อนที่เขาจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ดูฉุนเฉียว 2 คน ก็มาถึงและตะโกนใส่เขาเป็นภาษาไทย

          เพราะฟังไม่รู้เรื่อง เขาแสดงท่าทางเหมือนยอมรับผิด ขอโทษ และเสนอจะชดใช้ค่าเสียหายได้ แต่นั่นไม่เพียงพอ เพียงไม่กี่นาทีต่อมา ตำรวจมาถึงและจับเขาขึ้นรถไปขัง เขาติดคุกอยู่ราว 36 ชั่วโมง

          "มีชายชาวอังกฤษคนหนึ่งที่นั่นบอกผมให้ทำตามที่พวกเขาบอก และพวกนั้นก็ปล่อยผม แต่ในที่สุดก็มีชายอิตาลีมาถึง และบอกว่าถ้าจะให้ปล่อยตัว ผมต้องจ่าย 15,000 บาท เป็นเงินสด" แอนดรูว์ กล่าว

          จากนั้นเขาถูกพาไปที่ตู้ ATM โดยมีเจ้าหน้าที่คอยจับตาดูขณะที่เขาถอนเงิน จากนั้นเขาก็ถูกนำตัวไปสถานีตำรวจ ที่ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 คนเอาเงินไป ก่อนจะปล่อยเขาเป็นอิสระ

          แต่เหตุการณ์ไม่จบเท่านั้น แอนดรูว์อ้างว่าเมื่อกลับมาถึงที่พัก Airbnb เขากลับพบกับความไม่เป็นมิตร ภรรยาของโฮสต์รอเขาอยู่แล้ว เธอโบกกุญแจใส่เขาอย่างฉุนเฉียว ตะโกนบอกว่าเขาต้องออกไป การจองของเขาถูกยกเลิกแล้ว และเขาต้องย้ายออกไปทันที

          "ผมอึ้งมาก แต่ก็ถามว่าจะขออาบน้ำและเก็บของหน่อยได้ไหม พวกเขาก็ตกลง" แอนดรูว์ ระบุ

          แต่เมื่อก้าวเข้าไปในห้อง เขาสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ มีกลิ่นสารเคมีแปลก ๆ ซึ่งเขามั่นใจว่าพวกนั้นพยายามวางยาเขา มีบางคนเข้ามาในห้อง รื้อเตียง โยนสัมภาระของเขาลงกระเป๋าเดินทาง แต่ที่แย่กว่านั้นคือ เงินและของมีค่าของเขาหายไป

          เขาอ้างว่าบัตรเดบิต บัตรเครดิต ที่ชาร์จโทรศัพท์ และเงินสด 1,230 ปอนด์ (ราว 51,700 บาท) ที่เขาซ่อนไว้ ล้วนถูกขโมยไปจนหมด

          การมาเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนเดิม ยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก เธอเริ่มตะโกนด่าเขาเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ที่ระเบียง ทั้งที่มีที่เขี่ยบุหรี่อยู่ด้านนอกนั่น เขามีวิดีโอพิสูจน์ด้วย

          ไม่นานตำรวจก็มาอีกครั้ง และโหดร้ายยิ่งกว่าเดิม แอนดรูว์อ้างว่าเขาถูกตำรวจทำร้าย จับใส่กุญแจมือ โยนใส่หลังรถกระบะ และจับเขาไปเข้าคุกอีกครั้ง รอบนี้เขาถูกยึดข้าวของไปจนหมด และถูกล่ามกุญแจมือไว้กับลูกกรงห้องขัง

          เขาต้องนอนจมฉี่ตัวเองขณะที่นอนอยู่บนพื้นสกปรก แขนที่ถูกมัดอยู่กับลูกกรงถูกยกขึ้น และต้องนอนหงายอยู่บนน้ำที่เจิ่งนองบนพื้น เขาอยากเข้าห้องน้ำ และพยายามตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีใครมา สุดท้ายเขาก็ต้องฉี่ใส่น้ำที่ตัวเองนอนทับอยู่ ซึ่งเขามองว่าเป็นเรื่องน่ารังเกียจ และไม่ใช่วิธีที่ปฏิบัติกับมนุษย์

          เมื่อนึกถึงประสบการณ์นั้น แอนดรูว์บอกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่น่าสยองและไร้มนุษยธรรมที่สุดเท่าที่เคยเจอในชีวิต ทั้งการถูกพรากศักดิ์ศรีไป ต้องนอนจมฉี่ตัวเอง และถูกทำร้ายโดยไม่มีเหตุผล เพียงเพราะตั้งคำถามว่าเงินกับของมีค่าของเขาอยู่ที่ไหน

          ในที่สุดตำรวจก็ปล่อยตัวเขาไป แต่ฝันร้ายของเขายังไม่จบ โทรศัพท์มือถือของเขา บัตรธนาคาร เงินสดทั้งหมดหายไป แถมบัตรเดบิตของเขายังถูกนำไปรูด 450 ปอนด์ (ราว 18,900 บาท) โดยที่ธนาคารปฏิเสธจะคืนเงินให้เขา

          ตอนที่เขาบอกให้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากร้านสะดวกซื้อ ที่บัตรถูกรูด ก็ได้รับคำตอบว่าทำไม่ได้ เขาจึงต้องสูญเงินไปเปล่า ๆ ที่แย่คือเงินที่เขาซ่อนไว้หายไป ที่ชาร์จมือถือก็หายไปทั้งหมด แม้แต่รองเท้าผ้าใบกับรองเท้าแตะก็หายไปด้วย เขาต้องอยู่ในสภาพเท้าเปล่า จนตำรวจต้องเอารองเท้าแตะมาให้ใช้ แม้มันจะไม่สะดวกและน่าเกลียด แต่เขาก็เลือกไม่ได้

          สุดท้ายเขาได้รับเงินสดมา 120 ปอนด์ (ราว 5,000 บาท) มาอย่างแปลก ๆ ก่อนที่จะถูกไล่ออกไปในคืนนั้น

          ขณะนี้แอนดรูว์กลับมาถึงอังกฤษแล้ว และยังทนทุกข์ทรมานจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาต้องจองตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจเพื่อกลับบ้าน ในราคา 1,800 ปอนด์ (ราว 75,000 บาท) เพราะเจ็บปวดมากมายกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขายังมีการติดเชื้อ ปวดกล้ามเนื้อ และเป็น PTSD จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

          ตอนนี้เขาอยู่ระหว่างดำเนินการเรียกร้องสินไหมทดแทน จากบริษัทประกันของ Airbnb และบริษัทประกันเดินทางของเขา ขณะที่ทางการอังกฤษได้ยื่นข้อร้องเรียนอย่างเป็นทางการต่อเจ้าหน้าที่ไทย

          ทั้งนี้ แอนดรูว์ ยังกล่าวว่า "พวกเขาเรียกที่นั่นว่าดินแดนแห่งรอยยิ้ม แต่จากประสบการณ์ของผม พวกเขาเป็นมิตรเฉพาะตอนที่คุณจ่ายเงินให้ นักท่องเที่ยวถูกมองเป็นเป้าหมายง่าย ๆ สำหรับการถูกหลอกและปล้น หากคุณพบว่าตัวเองมีปัญหาที่นั่น ให้สงบสติอารมณ์ อย่าตะโกน และอย่าได้ตั้งคำถามถึงอำนาจของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม"

ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ฉาว สื่ออังกฤษตีข่าว นทท. เที่ยวไทยแต่ถูกทำร้าย-ปล้น ซ้ำติดคุก ยกเป็นฝันร้าย อัปเดตล่าสุด 4 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 17:41:03 5,946 อ่าน
TOP
x close