ศ. ดร.พิรงรอง รามสูต ประวัตินักวิชาการหญิงผู้มีบทบาทสำคัญในวงการสื่อสาร และ กสทช. กับเส้นทางชีวิตที่เต็มไปด้วยความท้าทายและความมุ่งมั่น
ประวัติ ศ. ดร.พิรงรอง รามสูต คือใคร
ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต หรือ อาจารย์ขวัญ เป็นนักวิชาการที่มีความสำคัญในวงการสื่อสารและเทคโนโลยีของประเทศไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ ด้วยผลงานที่หลากหลาย ทั้งการกำกับดูแลสื่อ การพัฒนานโยบายด้านการสื่อสาร รวมถึงการแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในกรณีสำคัญต่าง ๆ เช่น การคัดค้านการควบรวมกิจการ "ทรู-ดีแทค" เพื่อปกป้องการแข่งขันทางการตลาดและสิทธิผู้บริโภค ซึ่งชื่อเสียงของ "พิรงรอง รามสูต" เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง และยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อมีประเด็นศาลสั่งจำคุก 2 ปี เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568
ศาลสั่งจำคุก ศ. ดร.พิรงรอง รามสูต 2 ปี
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2566 มีผู้บริโภคร้องเรียนว่าแอปพลิเคชัน True ID มีโฆษณาแทรกในช่องทีวีดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ทางบริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ผู้ให้บริการแอปฯ True ID ได้นำสัญญาณรายการทีวีดังกล่าวมาเผยแพร่ในแพลตฟอร์มของตน สำนักงาน กสทช. พิจารณาเรื่องนี้ผ่านคณะอนุกรรมการด้านกิจการโทรทัศน์ และได้ออกหนังสือเตือนไปยังผู้ประกอบการ ต่อมาศาลพิจารณาว่าแพลตฟอร์ม True ID จัดอยู่ในบริการ OTT (Over-The-Top) ซึ่งยังไม่มีข้อกฎหมายกำหนดให้ต้องขออนุญาตจาก กสทช. และล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ศาลได้ตัดสินว่า ศ. ดร.พิรงรอง รามสูต เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ออกหนังสือเตือนในลักษณะที่อาจมีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ ส่งผลให้บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ได้รับความเสียหาย จึงพิพากษาให้จำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ศาลมีคำตัดสินดังกล่าวก็เป็นประเด็นให้มีการกล่าวถึงกันอย่างมาก และชื่อของ ศ. ดร.พิรงรอง รามสูต ก็ถูกค้นหากันอย่างล้นหลาม รวมถึงมีการติดแฮชแท็ก #Saveพิรงรอง ในโซเชียล ทำให้คนอยากรู้ว่า พิรงรอง รามสูต ประวัติคือใคร
ครอบครัว ศ. ดร.พิรงรอง รามสูต
ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต ประวัติเกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2510 ในครอบครัวนักวิชาการที่มีชื่อเสียง คุณพ่อคือ ศาสตราจารย์พิเศษ นพ.ธีระ รามสูต อดีตอธิบดีกรมควบคุมโรค และรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ส่วนคุณแม่คือ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.พันธุ์ทิพย์ รามสูต ข้าราชการบำนาญ ผู้เป็นแบบอย่างด้านวิชาการและการทำงาน
สำหรับพี่น้องของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต มีทั้งหมด 3 คน โดยมีพี่ชายคนโตคือ ศาสตราจารย์ ดร.พงศ์ราม รามสูต หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์สังคมและสิ่งแวดล้อม และหัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางแอนติบอดี คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ส่วนพี่ชายคนกลางคือ นพ.พชร รามสูต แพทย์อิสระด้านโรคผิวหนังและเลเซอร์ผิวหนัง
ประวัติและการศึกษา ศ. ดร.พิรงรอง รามสูต
ประวัติด้านการศึกษานั้น ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต จบการศึกษาจากเตรียมอุดมศึกษา และจบระดับปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับ 1 คณะอักษรศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ส่วนปริญญาโทจบ M.A. (Communication) University of Hawaii at Manoa ประเทศสหรัฐอเมริกา และปริญญาเอกจบ Ph.D. (Communication) Simon Fraser University ประเทศแคนาดา
เส้นทางอาชีพที่โดดเด่นของ ศ. ดร.พิรงรอง รามสูต
เส้นทางการทำงานในบทบาทสื่อมวลชนของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต เริ่มต้นจากการเป็นนักข่าวและผู้เรียบเรียงข่าวของหนังสือพิมพ์ The Nation ก่อนไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เมื่อสำเร็จการศึกษา ปี 2535 ก็กลับมารับตำแหน่งอาจารย์ประจําภาควิชาวารสารสนเทศ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และก้าวสู่บทบาทสำคัญในด้านการบริหาร ด้วยการเป็นรองอธิการบดีด้านการสื่อสารบริการสังคมและพันธกิจสากล
ผลงานของ ศ. ดร.พิรงรอง รามสูต ในฐานะกรรมการ กสทช.
ผลงานที่สำคัญของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต เช่น การพัฒนาระบบ Social Credit เพื่อส่งเสริมเนื้อหาสร้างสรรค์สำหรับกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ผลักดันให้สื่อท้องถิ่นและสื่อชุมชนตอบสนองความต้องการของคนในพื้นที่ที่สำคัญ เพื่อเป็นกลไกการกำกับดูแลกันเองตามมาตรฐานจริยธรรมของสื่อมวลชน และการกำกับดูแลสื่อที่มีปัญหา เช่น เนื้อหาไม่เหมาะสมหรือโฆษณาแฝง แต่ท่านยังแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในกรณีที่มีผลกระทบต่อสังคม เช่น การคัดค้านการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคมที่อาจลดการแข่งขันและสร้างความไม่เป็นธรรม
ล่าสุด ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต ถูกศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในข้อหามีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ กรณีการออกหนังสือเตือนเรื่องโฆษณาแทรกในสัญญาณทีวีดิจิทัลที่ขัดต่อกฎ Must Carry อย่างไรก็ตาม ศาลอนุญาตให้ประกันตัว ทำให้ท่านยังคงปฏิบัติหน้าที่กรรมการ กสทช. ต่อไป
และนี่คือประวัติศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต อีกหนึ่งบุคคลที่น่าสนใจในวงการสื่อสารของไทย ด้วยประสบการณ์และความสามารถที่หลากหลาย ทำให้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและทิศทางของสื่อในประเทศ
ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ๊ก Pirongrong Ramasoota
