รถสปอร์ตหรู 17 ล้าน เสียหลักชนยับริมทาง แทบกลายเป็นเศษซาก คนขับรอดปาฏิหาริย์ แค่บาดเจ็บเล็กน้อย เร่งสอบสวนสาเหตุ
![รถหรู 17 ล้าน กลายเป็นซาก รถหรู 17 ล้าน กลายเป็นซาก]()
ภาพจาก ETtoday
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า ในเวลาประมาณ 08.00 น. เกิดอุบัติเหตุรถสปอร์ตหรูมูลค่ากว่า 17 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 17.5 ล้านบาท) เสียหลักชนบ้านและร้านค้าของประชาชนที่อยู่ข้างทาง แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงคนขับรถหรูเท่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนทางหลวงเชื่อมระหว่างจังหวัด ในเทศมณฑลเหมียวลี่ ของไต้หวัน ส่วนรถคันที่เกิดอุบัติเหตุนั้น ทราบว่าคือรถสปอร์ตคาร์ แมคลาเรน 720เอส (McLaren 720S) สำหรับสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่เบื้องต้นไม่พบว่าผู้ขับขี่มีอาการมึนเมาแต่อย่างใด
![รถหรู 17 ล้าน กลายเป็นซาก รถหรู 17 ล้าน กลายเป็นซาก]()
ภาพจาก ETtoday
จากภาพที่เกิดเหตุ จะเห็นว่าสภาพของรถหรูที่เสียหลักชนบ้านซึ่งอยู่ริมถนนนั้น ได้รับความเสียหายหนัก รถทั้งคันแทบจะกลายสภาพเป็นเศษเหล็ก ขณะที่ผู้ขับขี่คือ ชายแซ่เฉิน วัย 58 ปี ยังมีสติดี พบว่ามีอาการบาดเจ็บที่มือและเท้า ซึ่งขณะนี้ได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจและกู้ภัย และปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday

ภาพจาก ETtoday
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า ในเวลาประมาณ 08.00 น. เกิดอุบัติเหตุรถสปอร์ตหรูมูลค่ากว่า 17 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 17.5 ล้านบาท) เสียหลักชนบ้านและร้านค้าของประชาชนที่อยู่ข้างทาง แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงคนขับรถหรูเท่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนทางหลวงเชื่อมระหว่างจังหวัด ในเทศมณฑลเหมียวลี่ ของไต้หวัน ส่วนรถคันที่เกิดอุบัติเหตุนั้น ทราบว่าคือรถสปอร์ตคาร์ แมคลาเรน 720เอส (McLaren 720S) สำหรับสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่เบื้องต้นไม่พบว่าผู้ขับขี่มีอาการมึนเมาแต่อย่างใด

ภาพจาก ETtoday
จากภาพที่เกิดเหตุ จะเห็นว่าสภาพของรถหรูที่เสียหลักชนบ้านซึ่งอยู่ริมถนนนั้น ได้รับความเสียหายหนัก รถทั้งคันแทบจะกลายสภาพเป็นเศษเหล็ก ขณะที่ผู้ขับขี่คือ ชายแซ่เฉิน วัย 58 ปี ยังมีสติดี พบว่ามีอาการบาดเจ็บที่มือและเท้า ซึ่งขณะนี้ได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจและกู้ภัย และปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday