สำนักวาติกัน เผยอาการประชวร สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เกิดภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน 2 ครั้ง เหตุเสมหะสะสมในหลอดลม
ภาพจาก ALBERTO PIZZOLI / AFP
วันที่ 3 มีนาคม 2568 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส วัย 88 พรรษา มีอาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน 2 ครั้ง และต้องกลับไปใช้เครื่องช่วยหายใจอีกครั้ง โดยสำนักวาติกัน เผยว่าพระองค์ยังทรงตื่นตัว และให้ความร่วมมือในการรักษาเป็นอย่างดี หลังพระองค์เข้ารับการรักษาตัวมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
แถลงการณ์จากวาติกัน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 มีนาคม สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสประสบภาวะการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน 2 ครั้ง เนื่องจากมีเสมหะสะสมในหลอดลม ส่งผลให้ทางเดินหายใจแคบลง ซึ่งช่วงเช้า สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเข้ารับการตรวจส่องกล้องหลอดลม ซึ่งแพทย์ทำการดูดสารคัดหลั่งที่ก่อตัวสะสมออกไป
จากนั้น วาติกัน นิยามว่า "เป็นช่วงบ่ายอันซับซ้อน"
การสะสมของเสมหะอันเป็นผลจากโรคปอดบวม ทำให้เกิดอาการไอและการหดเกร็ง
เนื่องจากหลอดลมพยายามขับเสมหะที่ทำให้ระคายเคืองออกไป
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ได้รับการดูแลด้วยการใส่หน้ากากออกซิเจนและเครื่องช่วยหายใจ โดยวิกฤตทางเดินหายใจเฉียบพลันนั้นกินระยะเวลาช่วงหนึ่งของตอนบ่ายได้ยุติลงแล้ว พระองค์ทรงกำลังพักผ่อน ส่วนผลการตรวจเลือดยังคงเดิม และยังไม่ได้มีการทำนายโรคจากแพทย์เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงโรม ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ หลังพระองค์มีอาการปอดบวมทั้ง 2 ข้าง โดยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พระองค์มีอาการทางระบบทางเดินหายใจอย่างกะทันหัน ซึ่งจำเป็นต้องใส่หน้ากากออกซิเจน โดยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม แหล่งข่าวจากวาติกันเปิดเผยว่า ภาพรวมยังคงมีความซับซ้อนและความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤต ยังคงมีอยู่
ขอบคุณข้อมูลจาก CNN
![พระสันตะปาปาฟรานซิส ประชวร พระสันตะปาปาฟรานซิส ประชวร]()

วันที่ 3 มีนาคม 2568 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส วัย 88 พรรษา มีอาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน 2 ครั้ง และต้องกลับไปใช้เครื่องช่วยหายใจอีกครั้ง โดยสำนักวาติกัน เผยว่าพระองค์ยังทรงตื่นตัว และให้ความร่วมมือในการรักษาเป็นอย่างดี หลังพระองค์เข้ารับการรักษาตัวมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
แถลงการณ์จากวาติกัน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 มีนาคม สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสประสบภาวะการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน 2 ครั้ง เนื่องจากมีเสมหะสะสมในหลอดลม ส่งผลให้ทางเดินหายใจแคบลง ซึ่งช่วงเช้า สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเข้ารับการตรวจส่องกล้องหลอดลม ซึ่งแพทย์ทำการดูดสารคัดหลั่งที่ก่อตัวสะสมออกไป
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ได้รับการดูแลด้วยการใส่หน้ากากออกซิเจนและเครื่องช่วยหายใจ โดยวิกฤตทางเดินหายใจเฉียบพลันนั้นกินระยะเวลาช่วงหนึ่งของตอนบ่ายได้ยุติลงแล้ว พระองค์ทรงกำลังพักผ่อน ส่วนผลการตรวจเลือดยังคงเดิม และยังไม่ได้มีการทำนายโรคจากแพทย์เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงโรม ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ หลังพระองค์มีอาการปอดบวมทั้ง 2 ข้าง โดยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พระองค์มีอาการทางระบบทางเดินหายใจอย่างกะทันหัน ซึ่งจำเป็นต้องใส่หน้ากากออกซิเจน โดยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม แหล่งข่าวจากวาติกันเปิดเผยว่า ภาพรวมยังคงมีความซับซ้อนและความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤต ยังคงมีอยู่
ขอบคุณข้อมูลจาก CNN
