"จักรภพ" แถลงลาออกแล้ว ยันไม่เกี่ยว "ทักษิณ" อ้างถอดตัวเองเพื่อรัฐบาลรอด จวก ปชป.-พันธมิตร ทำตัวเป็นพระเจ้าชี้นำประเทศ ติดต่อมอบตัวกองปราบฯ บ่าย 1 มิ.ย. ด้าน "สมพงษ์" บอกดีแล้วที่แสดงสปิริต หลังไม่เหมาะสม "บุญสร้าง" ดีใจ "เพ็ญ" ไปแล้ว เชื่อ "แม้ว" คุย "ป๋า" บรรยากาศดีขึ้น แนะม็อบสลาย "คนสนิทป๋าเปรม" ยันทักษิณพบป๋าเป็นเรื่องบังเอิญ ไม่มีการนัดแนะ งงถูกโยงเป็นเรื่องบ้านเมือง
หลังจากนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีถูกกล่าวหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ล่าสุดเมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 30 พฤษภาคม ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายจักรภพได้แถลงข่าวลาออกต่อสื่อมวลชนแล้ว โดยมี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นั่งขนาบข้างซ้ายขวา และมีสมาชิกจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) กว่า 20 คนมาให้กำลังใจ ระหว่างการแถลงข่าว ท่ามกลางกองทัพผู้สื่อข่าวไทยและต่างประเทศจำนวนมาก
นายจักรภพแถลงข่าวว่า ไม่มีเจตนาหมิ่นเบื้องสูง ซึ่งจะพิสูจน์ในกระบวนการทางกฎหมายต่อไป จะต่อสู้ในคดีนี้ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยไม่ได้หวังเพียงความยุติธรรม และความเป็นธรรมสำหรับตัวเอง แต่หวังเป็นบรรทัดฐาน เพื่อให้สังคมที่ทำลายกันด้วยวิชามารได้ยากขึ้น และจะไม่ปล่อยให้พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำตัวเป็นพระเจ้าชี้นำประเทศนี้
"จักรภพ"ลั่นต้องรักษาขุน
นายจักรภพกล่าวว่า ในช่วง 3 วันที่ผ่านมานี้ทุกอย่างกลับไปตกหนักอยู่ที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี อย่างไม่เป็นธรรม เพื่อมุ่งจะโค่นล้มรัฐบาล ทั้งในรัฐสภาและนอกรัฐสภา เสียงร่ำลือในการยึดอำนาจ รัฐประหาร ตามแผนที่วางกันไว้แล้วของคนภายนอก ตนเป็นเพียงเหยื่อ ถูกจับไปโยงกับสถาบันระดับสูง จึงสรุปในใจว่ามีความจำเป็นต้องรักษาขุนไว้ให้รอดเพื่อประชาธิปไตย
"เมื่อเรื่องนี้ไม่เป็นไปตามหลักเหตุผล แต่เป็นเกมอำนาจล้วนๆ และนายกรัฐมนตรีก็เป็นผู้ที่ได้รับผลดังกล่าวนั้น ผมจึงต้องตัดสินใจถอดตนเองออกจากเกมอำนาจนี้ เพื่อรักษาเรือลำใหญ่ไว้ให้รอด ผมจึงขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดนี้ และจะยื่นใบลาออกในวันนี้ มีผลในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อจะได้สะสางงานและเตรียมส่งไม้ให้ผู้รับผิดชอบต่อจากผมด้วยความราบรื่น" นายจักรภพกล่าว
รมต.ประจำสำนักนายกฯ ชี้แจงด้วยว่า การลาออกในครั้งนี้น่าจะส่งผลให้คนหยุดพูดเรื่องการรัฐประหาร และน่าจะมีผลยุติความเคลื่อนไหวของกลุ่มใดๆ ที่อ้างเหตุผลทางการเมืองมาเคลื่อนไหว หากเกมนี้ยังดำเนินต่อไป โดยมุ่งตีเมืองขึ้นไปเรื่อยๆ ก็หวังว่ารัฐบาลจะตัดสินใจอย่างชัดเจนในการพิทักษ์บ้านเมืองให้พ้นจากมือของผู้ที่ไม่ปรารถนาดีเหล่านี้
"ผมขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีที่ท่านมีความเป็นสุภาพบุรุษตั้งแต่ต้นจนนาทีสุดท้าย ผมมีความศรัทธา มีความเคารพในวิถีทางทางการเมืองของท่านนายกรัฐมนตรี และจะยึดหลายอย่างในตัวท่านเป็นแบบอย่างในทางการเมืองต่อไป ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ใหญ่ให้แนวทางที่เป็นสติปัญญา และความสว่างแก่นักการเมืองรุ่นหลัง จะเรียกว่ารุ่นลูก รุ่นหลานก็ไม่ผิดจากความจริง ให้ได้รู้แนวทางที่จะเดินต่อไป ท่านนายกรัฐมนตรีมีความหมาย และมีความสำคัญในการรักษาบ้านเมืองในระยะนี้ ฉะนั้นเหตุใดก็ตามที่จะนำไปสู่ผลกระทบต่อตัวท่านโดยตรง ผมจะยอมไม่ได้" นายจักรภพกล่าว
ชี้ถอยแต่ไม่ถอดใจ
นายจักรภพกล่าวต่อว่า สาเหตุการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อต้องการรักษานายกรัฐมนตรี และรัฐบาลไว้ให้รอดในระยะนี้ เพื่อประชาธิปไตยจะได้รอดในระยะยาว และสุดท้ายต้องขอกล่าวคำว่า "ผมขอโทษ ผู้สนับสนุนที่ทำให้ผิดหวังที่มีวันนี้เกิดขึ้น หวังว่าเมื่อฟังเหตุผลตั้งแต่ต้นมาคงเข้าใจว่าตนไม่ได้มีความคิดที่จะลาออก ไม่ได้ทำอะไรผิด โดยจะพิสูจน์ตนเองในทางกฎหมายต่อไป และเรื่องนี้ไม่ใช่ความอ่อนแอ ท้อ ไม่ใช่การถอยเพื่อที่จะถอดใจ เป็นเพียงขั้นตอนทางการเมือง เราต้องรักษาส่วนรวมไว้ แต่ในระยะยาวจะไม่ผิดหวังแน่นอน
จากนั้นนายจักรภพได้ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนถึงอนาคตทางการเมืองว่า จะให้ความสำคัญกับการสู้คดีเป็นอันดับหนึ่ง ยังไม่มองไปไกลถึงขั้นอนาคตทางการเมือง ส่วนที่ระบุว่าเรื่องนี้คือเกมอำนาจ เพราะที่ผ่านมาคงได้เห็นข่าวอยู่ทุกวัน เพียงแค่นำตัวละครแต่ละตัวมาต่อภาพกันแล้วเขียนเชื่อมโยง ก็จะเห็นว่ามีหลายแฉกและหลายมิติขนาดไหน ประชาชนทั้งประเทศยังไม่รู้ว่าเขาเล่นเกมอย่างไรกัน ประชาธิปไตยเป็นเรื่องง่าย-สั้น-ตรง คือใครได้รับเลือกตั้ง ก็ควรได้รับโอกาสบริหารประเทศ หากมีคนที่ดีกว่าและถึงคราวเลือกตั้ง คนใหม่ก็ได้เข้ามา แต่สิ่งที่จะใช้ในเวลาช่วงนี้กับคดีนี้คือการทำให้คนเห็นขั้นตอนต่างๆ ว่า เขาเข้ามายึดประชาธิปไตยกันอย่างไร ตรงนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น
ไม่ฟื้นเวที นปก.เพื่อชี้แจง
นายจักรภพกล่าวว่า ระหว่างสู้คดีไม่จำเป็นต้องฟื้น นปก.ขึ้นมาเป็นเวทีเพื่อชี้แจง เพราะไม่ใช่ยุทธศาสตร์ทางการต่อสู้ในคดีของตน
นายจักรภพกล่าวต่อว่า ผลสอบสวนของตำรวจไม่มีผลต่อการลาออกของตน การสรุปคดีขั้นต้นของตำรวจเป็นไปตามวิธีพิจารณาความอาญา ตำรวจทำถูกต้องเป็นการแสดงถึงความโปร่งใสในการดำเนินคดี เชื่อว่าจะเป็นเช่นนี้ในอนาคต ประเด็นคือ เรายอมรับกระบวนการยุติธรรม ก็ต้องยอมให้เป็นไปตามขั้นตอนนั้นๆ เรื่องนี้ตัดสินใจด้วยเหตุผลหลักตามที่แถลงไปแล้ว
ส่วนการลาออกนั้นเกิดจากแรงกดดันของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองและคำแนะนำของนายสมัครหรือไม่นั้น นายจักรภพกล่าวว่า ความจริงบอกไปแล้วว่า ง่าย-สั้น-ตรง เมื่อเห็นว่าความกดดันไปผิดที่ แทนที่จะไปสู่คนที่ก่อเรื่อง กลับกลายเป็นนายกฯ จึงยอมรับไม่ได้ เมื่อมาถึงขั้นนี้จึงต้องยกตัวเองออกจากภาระของนายกฯ โดยที่นายกฯ ไม่เคยพูดอะไรแบบนี้เลย เพราะนายกฯ เป็นสุภาพบุรุษทางการเมือง
เมื่อถามว่า ซาบซึ้งใจกับนายกฯ แล้ว จะซาบซึ้งกับผู้ใหญ่คนหนึ่งในพรรคหรือไม่ นายจักรภพกล่าวว่า นายกฯ เป็นคนพิเศษที่แสดงความมั่นคงด้านจิตใจและจุดยืนทางการเมือง นายกฯ ไม่เคยปกป้องตนเป็นการส่วนตัวและไม่เคยส่งสัญญาณแบบนั้นเลย เพียงแต่ถามว่าพร้อมพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ก็ตอบว่าพร้อม นายกฯ จึงพูดไปในแนวนั้น ส่วนความเห็นอื่นๆ นั้นเป็นเรื่องประกอบ ไม่ใช่ความเห็นหลักที่ทำให้ตนตัดสินใจ
แนะจับตากระบวนการยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าคนในพรรคพลังประชาชนปกป้องน้อยไปหรือไม่ นายจักรภพกล่าวว่า ไม่ต้องการความปกป้องจากใคร ยกเว้นกระบวนการยุติธรรม การปกป้องทางการเมืองนั้นทำไม่ได้หากผิด หากว่าเราจะช่วยกันเพื่อจับตามองว่ากระบวนการยุติธรรมนั้นเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นจริงหรือไม่
"ผมไม่ใช่เนื้อร้าย หากแค่เอาคำพูดของคนมาบอกว่าคนนี้กลายเป็นเนื้อร้าย เพราะเขาพูดอย่างนั้นเนี่ย มันก็จะไม่ใช่ประเทศแล้วล่ะ คงจะเป็นกลุ่มก๊วนอะไรบางอย่าง เพราะฉะนั้น ผมเชื่อว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของขั้นตอนทางการเมือง"
ลั่นลาออกไม่เกี่ยวกับทักษิณ
เมื่อถามว่า การลาออกนั้นเกี่ยวข้องกับข้อแนะนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ นายจักรภพกล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกับใครเป็นการเฉพาะ ตัวเองเท่านั้นเองที่ต้องตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรทางการเมือง เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องเล็กๆ ของรัฐมนตรี 1 คนและเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ที่ไม่มีความสำคัญอะไร แต่เหตุการณ์นี้จะบอกอะไรเยอะเกี่ยวกับว่าใครเป็นอย่างไร และจะเป็นเนื้อหาสำคัญของยุทธศาสตร์ในการต่อสู้เพื่อรักษาประชาธิปไตยในปัจจุบัน-อนาคต
ส่วนกระบวนการยุติธรรมถ้าชี้ว่าผิด นายจักรภพกล่าวว่า วันนี้ยังไม่ผิด ตนยังแสดงความรับผิดชอบเลย เพราะรับผิดชอบทางการเมือง ไม่ใช่รับผิดชอบทางกฎหมาย พวกเราต้องทราบว่าความจริงในทางกฎหมายและความจริงทางการเมืองบางครั้งไม่ต้องเหมือนกัน ฉะนั้นวันนี้เราพูดถึงเรื่องการเมืองยังไม่ได้พูดถึงกฎหมายเลย และการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้หารือกับอดีตนายกฯ
นายจักรภพกล่าว่า หากย้อนเวลาได้ก็จะไปทุกที่ที่สามารถจะเล่าและบรรยายข้อเท็จจริงทางวิชาการได้ และจะไปทุกที่ที่จะทำให้สังคมเกิดความสว่างทางความคิดขึ้น เพราะการไม่พูดไม่ใช่คำตอบ แต่การพูดแล้วได้รับการตัดสินอย่างเป็นธรรม ไม่ถูกบิดเบือนให้ร้าย นั่นคือประเด็นของวันนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะงดการพูด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพการพบกันระหว่าง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ มีผลกับการตัดสินใจลาออกหรือไม่ นายจักรภพกล่าวว่า เพิ่งทราบจากข่าวเช้าวันนี้เอง และไม่รู้ว่าทั้งสองคนไปพบกัน ฉะนั้นจึงไม่มีผลเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
"สมัคร"ยังไม่ตั้งใครแทน"จักรภพ"
ความเคลื่อนไหวของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม หลังจากนายจักรภพแถลงข่าวลาออกจากตำแหน่ง โดยกล่าวว่าจะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังการลาออกของนายจักรภพมีผลแล้ว และไม่เคยได้ยินเรื่องการสลับตำแหน่งรัฐมนตรี และไม่ขอตอบว่าได้พิจารณาบุคคลใดเป็นพิเศษ
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
