สรยุทธ ลั่นไม่เห็นด้วยกับวิธีแบล็กเมล ชี้เหมือนวางแผนมาแล้ว เปิดข้อกฎหมาย อาจจะไม่จบแค่ 20 ล้าน ค่าแหกสัญญา เข้าข่าย 2 ข้อหาทางอาญา

ภาพจาก กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
ล่าสุด (6 มีนาคม 2568) รายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ โดย สรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งสรยุทธ กล่าวว่า ตนรู้สึกว่าเราไม่สามารถจะไปยอมรับการวิธีการแบล็กเมล คือการรีดเอาทรัพย์นี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
สำหรับการรีดเอาทรัพย์นั้นมีข้อกฎหมายอยู่ โดยตามข้อมูลประมวลกฎหมายอาญา จากสำนักงานกิจการยุติธรรม ถ้าโดนขู่ว่าจะเอาภาพลับส่วนตัวของเราไปปล่อยบนโลกออนไลน์ โดยเรียกเป็นเงินเพื่อแลกกับการที่จะไม่ทำตามคำขู่ จะนำไปประจานถ้าไม่ยอมทำตาม ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องอาย สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้เลย

ภาพจาก โหนกระแส
โดยเมื่อถูกแบล็กเมล มีสิ่งที่ควรทำ ดังนี้
- เก็บหลักฐานที่มีคนโพสต์หรือแชร์ : ผู้เสียหายที่ถูกปล่อยภาพลับออกไป ให้รวบรวมพยานหลักฐานที่พบการกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์ใดก็ตาม ให้เก็บเอาไว้ว่าใครเป็นคนโพสต์ ใครเป็นคนเผยแพร่ให้ปรากฏชัดเจน และใครเอาไปแชร์ต่อ ให้เก็บหลักฐานไว้ทั้งหมด เพราะมันผิดทั้งคนโพสต์ และคนแชร์
- เก็บหลักฐานการข่มขู่ : กรณีมีการแบล็กเมล ข่มขู่ เรียกทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ ให้บันทึกเสียงไว้ตอนที่เขาพูดข่มขู่ หรือหากพูดกันตัวต่อตัวให้หาพยาน จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.338 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่น ได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์ โดยขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับ ซึ่งการเปิดเผยนั้นจะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามเสียหาย จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท
และยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ว่าด้วยการเอาข้อมูลลักษณะลามก หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้ ซึ่งคนที่แชร์ต่อก็มีความผิดเช่นกัน
กล่าวคือในทางแพ่ง มีการละเมิดข้อตกลง ตามที่ทำข้อตกลงจ่าย 2 ล้าน ซึ่งหากกระทำการผิดจากข้อตกลงต้องถูกปรับ 20 ล้าน และในทางอาญา ก็ไม่สามารถลบล้างความผิดในทางอาญา ก็คือข้อหารีดเอาทรัพย์ กับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
สรยุทธ ระบุว่า ถ้าถามตนซึ่งไม่ได้มีความรู้ด้านกฎหมาย ลักษณะการไปรับเงินเอามาก็เข้าองค์ประกอบทันทีถ้าเขาจะเอาเรื่อง ทางแพ่งคือ..รับเงินไปแล้ว ยุตินะ ไม่เอาคลิปต่าง ๆ ไปเผยแพร่ต่อ ต้องทำลายและไม่ไปพูดอะไร ถ้าไปละเมิดเช่นมาออกรายการโหนกระแส หรือมีการส่งคลิป ส่งภาพ ไปที่ใครอย่างไร อันนี้คือละเมิดข้อตกลง เป็นเรื่องทางแพ่งคือที่จะโดนฟ้อง 20 ล้าน แต่ก็ยังมีเรื่องทางอาญาด้วยตามที่บอกไป
ตอนนี้พบว่าคู่กรณีไล่ลบโพสต์ต่าง ๆ แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเพราะถือว่าความผิดได้สำเร็จแล้ว การประทุษร้ายต่อชื่อเสียงก็เข้าข้อหารีดเอาทรัพย์ โดนฟ้องได้ทั้งอาญาและแพ่ง

ภาพจาก โหนกระแส
บอสรู้แก่ใจ เข้าข่ายสนับสนุนด้วยหรือไม่ ?
และถ้าฟังดูในมุมของบอส ก็รับรู้นี่ ว่าจะไปเอาเงินเขา 10 ล้าน แม้ว่าในทางปฏิบัติบอกว่าจะรับผิดชอบเอง แต่ที่สุดสัญญาก็เกิดขึ้นระหว่างค่ายกับโม มันก็น่าคิดว่าเข้าข่ายสนับสนุน หรือร่วมกันรีดเอาทรัพย์
คดีแบบนี้ในสังคมมีเยอะมาก เราสามารถมีความคิดเห็นได้ บางคนสงสัยว่าบอสจะถ่ายภาพทำไม คือหากเป็นเรื่องของคน 2 คน จะถ่ายกันก็เป็นเรื่องของเขา ตราบใดที่ไม่หลุดรอดออกมา คราวนี้อาจจะเป็นประเด็นเพราะโมมีรหัสเปิดไอแพด บอสก็ควรรู้ว่าแฟนมีรหัสเปิด เราก็ไม่รู้ว่ารูปมันไปทางไหนใช่ไหม คดีลักษณะรีดเอาทรัพย์หรือแบล็กเมลนี่มีเยอะมาก บังเอิญเรื่องนี้มันดังเพราะเป็น ลำไย ไหทองคำ
สำหรับคนที่มองว่าสมควรแล้ว สรยุทธชี้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่สมควรมีใครหยิบเอากรณีแบบนี้มีแบล็กเมลใคร เราไม่สามารถเอารสนิยมของใครมาตัดสิน ว่าจะถ่ายทำไม เพราะมันเป็นเรื่องของเขา แต่คุณถ่ายแล้วก็ต้องปกปิดให้ได้ บอสก็ควรจะรู้ไหมว่าแฟนตัวเองมีรหัสเข้าไอแพด แล้วมีรูปในนั้นหรือเปล่า แต่สุดท้ายคนที่มีรสนิยมแบบนี้ทั้งหลายควรเก็บเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์
ส่วนที่มีคนคอมเมนต์ว่า ทำไมไม่เล่นในมุมว่าไปแอบแซ่บกันบ้าง ขอให้วินิจฉัยว่าลำไย รู้อยู่แล้ว แล้วไปแย่งเขามาอย่างนั้นใช่ไหม ? ซึ่งจริง ๆ แล้วทั้งบอสและลำไยพูดตรงกัน ว่าบอสเป็นคนบอกลำไยเองว่าโสด คือหากเราเอาบรรทัดฐานแบบคุณธรรมมาใช้ มันผิดแน่ ต่ถ้าอยู่ในสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ดูในกลุ่มเพื่อนเรา เผลอ ๆ มันก็มี มันคือความเป็นจริงของชีวิต เพราะฉะนั้นเกณฑ์ในการวินิจฉัย ส่วนตัวสรยุทธมองว่าให้โฟกัสที่เรื่องกฎหมาย

ภาพจาก โหนกระแส
สรยุทธ รับไม่ได้เรื่องแบล็กเมล ชี้เหมือนมีการวางแผน
สรยุทธ ย้ำว่า วิธีการที่ยอมรับไม่ได้ก็คือ แบล็กเมล รีดเอาทรัพย์ ยิ่งฟังดูเหมือนมีการวางแผนกัน
น้องไบรท์ ยังเสริมต่อให้เห็นภาพ โดยยกตัวอย่าง "ว่าเธอ... ตอนนั้นคือโมยังไม่ได้คิดจะเลิกไง เดี๋ยวเรานะรับเงินมาใช่ปะ แล้วเราก็บอกค่ายว่าเราเลิกกัน แต่จริง ๆ เดี๋ยวเราไปอยู่ด้วยกัน แล้วเดี๋ยวเราค่อยเอาข้อมูลต่าง ๆ แฉเขาอีกที"

ภาพจาก กรรมกรข่าวคุยนอกจอ