แฉประกันสังคมซื้อตึกแพงเกินจริงหรือไม่ พร้อมจับตาสูตรคำนวณบำนาญชราภาพใหม่ !

 

          พร้อมกันนี้ รักชนก ศรีนอก ยังตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของกองทุนประกันสังคมในการลงทุนนอกตลาดเช่นนี้ว่าสอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาลหรือไม่ พร้อมเรียกร้องให้สื่อมวลชนตรวจสอบประวัติความเป็นเจ้าของของอาคารดังกล่าว ว่ามีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองหรือไม่ รวมถึงยังตั้งข้อสังเกตว่าส่วนต่างราคา 4,000 ล้านบาทนั้นตกไปอยู่ที่ใคร และมีการนำเงินไปใช้เป็นทุนในการเลือกตั้งหรือไม่ เนื่องจากช่วงเวลาการซื้อขายอยู่ใกล้กับช่วงการเลือกตั้ง

 

          ด้านสหัสวัต คุ้มคง ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในปี 2565 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานขณะนั้นได้แต่งตั้งผู้ช่วยส่วนตัวให้เข้าไปอยู่ในกลุ่มงานบริหารความเสี่ยงและกำกับการลงทุน รวมถึงอนุกรรมการลงทุนนอกตลาด นอกจากนี้ยังมีที่ปรึกษารัฐมนตรีเข้าร่วมเป็นอนุกรรมการด้วย ทำให้บุคคลเหล่านี้มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติการซื้อตึกดังกล่าว

          นอกจากนี้ในการแถลงยังมีประเด็นอื่น ๆ เกี่ยวกับประกันสังคม เช่น

          1. ความไม่ชอบมาพากลในการใช้งบประมาณบริหาร สำนักงาน ปีละ 6,000 ล้าน และอาจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต

          2. การได้มาซึ่งโครงการต่าง ๆ ที่อาจเข้าข่ายล็อกสเปก เอื้อประโยชน์ให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

          3. ความไม่โปร่งใส ไม่ยินยอมเปิดเผยข้อมูล แม้แต่สิ่งที่กฎหมายบังคับให้เปิดเผยได้ก็ยังไม่ยินยอมให้เปิด

          4. สิทธิประโยชน์การรักษาที่เหลื่อมล้ำกันอย่างมาก ระหว่างสิทธิกองทุนประกันสังคมกับกองทุน สปสช. อันเนื่องจากการตัดสินใจของ ‘บอร์ดแพทย์’ ที่ไม่เคยเปิดเผยตัว

          5. สูตรคำนวณบำนาญชราภาพ ที่ทำให้ผู้ประกันตนเสียเปรียบ และควรต้องถูกปรับปรุงแก้ไขให้เป็นธรรม