รวบตัว เจ้าหน้าที่อาวุโสธนาคาร แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพทำไปเพราะมีภาระเยอะ เอาไปซื้อบ้าน ซื้อรถ ส่งลูกเรียนต่อเมืองนอก
วันที่ 10 มีนาคม 2568 โหนกระแส รายงานว่า ผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่ง สาขา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต. จเร พูลแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.ท่าศาลา เพื่อแจ้งเหตุว่ามีการถอนเงินจากบัญชีลูกค้าจำนวนมากอย่างผิดปกติ
กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มีนาคม เวลา 10.30 น. พบว่าบัญชีของลูกค้ารายหนึ่ง ถูกถอนเงินออกไป 2 ครั้ง ครั้งแรกจำนวน 4,002,212.33 บาท และครั้งที่สองจำนวน 4,002,212.33 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 8,004,424.66 บาท โดยเงินดังกล่าวถูกโอนเข้าบัญชีธนาคาร สาขาอื่น ในนามของผู้รับเงินรายอื่น
ผู้จัดการธนาคารจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้เสียหายไม่ได้มาทำรายการถอนเงินด้วยตนเอง จึงทำการสอบถามผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสของธนาคาร โดยผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพว่า เป็นคนขโมยการ์ดของเพื่อนร่วมงาน เพื่อดำเนินการถอนเงินดังกล่าวจริง
ต่อมา
ตำรวจชุดสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุจากบ้านพักในตัวเมืองนครศรีธรรมราช
และนำตัวมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง
จากการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่อาวุโสธนาคารรายดังกล่าว รับสารภาพว่า ครอบครัวอยู่ในสถานะแตกแยก มีภาระค่าใช้จ่ายสูง เงินที่ได้มาครั้งนี้ นำไปซื้อบ้านและรถ รวมถึงส่งเสียให้ลูกเรียนที่ต่างประเทศ โดยลูกไม่รู้ว่าได้เงินมาจากการก่อเหตุเช่นนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวขออำนาจศาลฝากขัง และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส, สวพ.FM91

ภาพจาก โหนกระแส
วันที่ 10 มีนาคม 2568 โหนกระแส รายงานว่า ผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่ง สาขา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต. จเร พูลแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.ท่าศาลา เพื่อแจ้งเหตุว่ามีการถอนเงินจากบัญชีลูกค้าจำนวนมากอย่างผิดปกติ
กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มีนาคม เวลา 10.30 น. พบว่าบัญชีของลูกค้ารายหนึ่ง ถูกถอนเงินออกไป 2 ครั้ง ครั้งแรกจำนวน 4,002,212.33 บาท และครั้งที่สองจำนวน 4,002,212.33 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 8,004,424.66 บาท โดยเงินดังกล่าวถูกโอนเข้าบัญชีธนาคาร สาขาอื่น ในนามของผู้รับเงินรายอื่น
ผู้จัดการธนาคารจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้เสียหายไม่ได้มาทำรายการถอนเงินด้วยตนเอง จึงทำการสอบถามผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสของธนาคาร โดยผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพว่า เป็นคนขโมยการ์ดของเพื่อนร่วมงาน เพื่อดำเนินการถอนเงินดังกล่าวจริง
จากการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่อาวุโสธนาคารรายดังกล่าว รับสารภาพว่า ครอบครัวอยู่ในสถานะแตกแยก มีภาระค่าใช้จ่ายสูง เงินที่ได้มาครั้งนี้ นำไปซื้อบ้านและรถ รวมถึงส่งเสียให้ลูกเรียนที่ต่างประเทศ โดยลูกไม่รู้ว่าได้เงินมาจากการก่อเหตุเช่นนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวขออำนาจศาลฝากขัง และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส, สวพ.FM91