ป้าฟอร์จูนเนอร์ลั่น ไม่ได้คลั่ง ไล่ชนดะ ยันหยุดรถไม่ได้เพราะหวั่นความปลอดภัย อีกฝ่ายหาเรื่องก่อน โต้ปมวางยาเพื่อนบ้าน หลังถูกแฉโปรยยาฆ่าหญ้าใส่อาหาร

ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจ๊ม้อย v+
จากกรณีหญิงอายุ 55 ปี ขับรถยันต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ไล่ชนผู้เสียหายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ 3 ราย บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งต่อมาผู้เสียหายซึ่งเป็นคู่น้าหลาน คือชายวัย 36 และ 23 ปี รวมถึงชายวัย 26 ปีอีกราย ได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ไว้แล้ว
ซึ่งจากการสอบปากคำ ทราบว่าสาเหตุเกิดจากรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายขับมาตามถนน ส่วนเฟอร์จูนเนอร์ขับตามหลัง และบีบแตรใส่เพราะรถจักรยานยนต์ขับช้า แต่ผู้เสียหายไม่หลบให้ คู่กรณีไม่พอใจจึงบีบแตรซ้ำหลายครั้ง ทำให้เกิดการโต้เถียงกัน ผู้เสียหายได้รวมตัวทุบกระจกรถฟอร์จูนเนอร์ จนเกิดเหตุการณ์ตามที่ปรากฏ ซึ่งเบื้องต้นทางตำรวจได้ยึดรถฟอร์จูนเนอร์ไว้แล้ว และจะดำเนินคดีทั้ง 2 ฝ่าย
![เพื่อนบ้านแฉป้าฟอร์จูนเนอร์ วางยาบ้านข้าง ๆ เพื่อนบ้านแฉป้าฟอร์จูนเนอร์ วางยาบ้านข้าง ๆ]()
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจ๊ม้อย v+
เพื่อนบ้านแฉสุดระอา ป้าเคยวางยา - ผัวอ้างเมียป่วย
ต่อมา (15 มีนาคม 2568) เพจ เจ๊ม้อย v+ โพสต์เรื่องราวจากเพื่อนบ้าน ที่ออกมาเปิดเผยพฤติกรรมของหญิงคนขับฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งทำเอาคนในซอยระอาพฤติกรรม โดยเพื่อนบ้านเล่าว่า อยู่บ้านติดกับหญิงรายนี้ช่วงปี 2567 ตอนนั่งกินข้าวกับครอบครัวในบ้าน โต๊ะกับข้าวอยู่ติดกับรั้ว และเปิดหน้าต่างไว้ระบายอากาศ พอลูกเมียกินข้าวเสร็จก็ขึ้นไปบนบ้าน ส่วนตนลุกออกจากโต๊ะกับข้าวไปหยิบน้ำ แต่พอกลับมาที่โต๊ะ กลับเห็นผงสีขาวตามจานข้าว ตามถ้วยกับข้าวที่โต๊ะ และขอบหน้าต่างที่เปิดไว้ เห็นท่าไม่ดีเลยเลิกกิน
หลังจากนั้นเมื่อไปถามคุณหญิงป้าว่าทำไปทำไม อีกฝ่ายย้อนกลับมาว่า แล้วมาเปิดหน้าต่างทำไม ไม่อยากให้ลมที่บ้านคุณเข้าบ้านฉัน
ต่อมาจึงรู้ว่าผงสีขาวนั้นคือ ผงยาฆ่าหญ้า ทำให้แทบพูดไม่ออก ที่ผ่านมาคุณหญิงป้ามีปัญหากับตนและคนในซอยมาตลอด บางครั้งเจอกันหน้าบ้าน เขาก็ยกนิ้วกลางให้ ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร เลยไปคุยกับผัวแก่ ผัวก็บอกเมียป่วย รักษาตัวอยู่ ทุกวันนี้ตนก็อึดอัดกับสภาพแบบนี้มาหลายปี อีกทั้งที่รั้วบ้าน คุณหญิงป้าก็เอาไม้ อิฐบล็อก ฝาหม้อ ไม้ มาแขวนและผูกเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร
![เพื่อนบ้านแฉป้าฟอร์จูนเนอร์ วางยาบ้านข้าง ๆ เพื่อนบ้านแฉป้าฟอร์จูนเนอร์ วางยาบ้านข้าง ๆ]()
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจ๊ม้อย v+
ยันไม่ได้คลุ้มคลั่ง ไม่หยุดรถเพราะห่วงความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด โหนกระแส ได้พูดคุยกับหญิงคนขับฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งเผยว่า วันเกิดเหตุตนกำลังจะไปซื้อของที่ตลาด มีรถจักรยานยนต์ 2 คันขับขี่อยู่ด้านหน้า แต่เขาขับช้ามาก จนจึงบีบแตร 1 ครั้ง และไม่ได้บีบแตรยาวด้วย จากนั้นก็แซงออกขวาและเข้าเลนซ้าย ไม่ได้ปาดหน้าเขาเลย เมื่อถึงโค้งจุดเกิดเหตุตนก็ได้ยินเสียงตุ๊บจากฝั่งซ้าย ตนเข้าใจว่าเป็นเสียงทุบรถ
อีกสักพักก็มีเสียงจากด้านหลัง ไม่รู้ว่าเสียงอะไร พอมองกระจกก็เห็นหมวกกันน็อคอยู่ที่พื้น และมีคนขี่จักรยานยนต์มาฝั่งซ้าย ตะโกนถามว่า "มึงรีบเหรอ" และมีจักรยานยนต์อีกคันขี่มาทางขวาและจอดที่หน้ารถ จากนั้นก็เกิดเรื่องตามคลิป
สาเหตุที่ตนไม่หยุดรถเพราะกลัวจะโดนทำร้าย และตอนที่ตำรวจมาถึงตนก็ไม่หยุด เพราะคิดว่าตำรวจ 2 นายอาจไม่สามารถดูแลความปลอดภัยได้ เนื่องจากตอนนั้นรอบข้างเริ่มมีคนมุงเยอะ มีทั้งวินจักรยานยนต์ที่ขี่รอบคันตน และฝั่งคู่กรณีก็จะเข้ามาหา ตนจึงต้องขับรถวนไปเรื่อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้คู่กรณีเข้าถึงตัวได้ ยืนยันว่าไม่ได้คลุ้มคลั่ง
![เพื่อนบ้านแฉป้าฟอร์จูนเนอร์ วางยาบ้านข้าง ๆ เพื่อนบ้านแฉป้าฟอร์จูนเนอร์ วางยาบ้านข้าง ๆ]()
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจ๊ม้อย v+
โต้ข่าววางยาเพื่อนบ้าน ลั่นแค่ปุ๋ยปลิวไปโดน
ส่วนที่ปรากฏข่าวไปว่าตนวางยาอาหารเพื่อนบ้าน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และเป็นเรื่องเมื่อหลายปีแล้ว คือตอนนั้นบริเวณหลังบ้านของเพื่อนบ้านมีการต่อเติมครัว และเวลาทำอาหารจะเปิดหน้าต่างเพื่อระบายควัน คิดว่าตอนนั้นตนวางปุ๋ยใส่ต้นไม้ที่เป็นผงสีขาวคล้ายแป้งไว้ตรงกำแพงบ้าน เมื่อลมพัดก็เลยปลิวไปหล่นใส่อาหารที่บ้านเขา อีกทั้งตนไม่ค่อยสุงสิงกับใครในหมู่บ้าน เพราะเขาแบ่งพรรคแบ่งพวกกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส, โหนกระแส

ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจ๊ม้อย v+
จากกรณีหญิงอายุ 55 ปี ขับรถยันต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ไล่ชนผู้เสียหายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ 3 ราย บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งต่อมาผู้เสียหายซึ่งเป็นคู่น้าหลาน คือชายวัย 36 และ 23 ปี รวมถึงชายวัย 26 ปีอีกราย ได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ไว้แล้ว
ซึ่งจากการสอบปากคำ ทราบว่าสาเหตุเกิดจากรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายขับมาตามถนน ส่วนเฟอร์จูนเนอร์ขับตามหลัง และบีบแตรใส่เพราะรถจักรยานยนต์ขับช้า แต่ผู้เสียหายไม่หลบให้ คู่กรณีไม่พอใจจึงบีบแตรซ้ำหลายครั้ง ทำให้เกิดการโต้เถียงกัน ผู้เสียหายได้รวมตัวทุบกระจกรถฟอร์จูนเนอร์ จนเกิดเหตุการณ์ตามที่ปรากฏ ซึ่งเบื้องต้นทางตำรวจได้ยึดรถฟอร์จูนเนอร์ไว้แล้ว และจะดำเนินคดีทั้ง 2 ฝ่าย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจ๊ม้อย v+
เพื่อนบ้านแฉสุดระอา ป้าเคยวางยา - ผัวอ้างเมียป่วย
ต่อมา (15 มีนาคม 2568) เพจ เจ๊ม้อย v+ โพสต์เรื่องราวจากเพื่อนบ้าน ที่ออกมาเปิดเผยพฤติกรรมของหญิงคนขับฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งทำเอาคนในซอยระอาพฤติกรรม โดยเพื่อนบ้านเล่าว่า อยู่บ้านติดกับหญิงรายนี้ช่วงปี 2567 ตอนนั่งกินข้าวกับครอบครัวในบ้าน โต๊ะกับข้าวอยู่ติดกับรั้ว และเปิดหน้าต่างไว้ระบายอากาศ พอลูกเมียกินข้าวเสร็จก็ขึ้นไปบนบ้าน ส่วนตนลุกออกจากโต๊ะกับข้าวไปหยิบน้ำ แต่พอกลับมาที่โต๊ะ กลับเห็นผงสีขาวตามจานข้าว ตามถ้วยกับข้าวที่โต๊ะ และขอบหน้าต่างที่เปิดไว้ เห็นท่าไม่ดีเลยเลิกกิน
หลังจากนั้นเมื่อไปถามคุณหญิงป้าว่าทำไปทำไม อีกฝ่ายย้อนกลับมาว่า แล้วมาเปิดหน้าต่างทำไม ไม่อยากให้ลมที่บ้านคุณเข้าบ้านฉัน
ต่อมาจึงรู้ว่าผงสีขาวนั้นคือ ผงยาฆ่าหญ้า ทำให้แทบพูดไม่ออก ที่ผ่านมาคุณหญิงป้ามีปัญหากับตนและคนในซอยมาตลอด บางครั้งเจอกันหน้าบ้าน เขาก็ยกนิ้วกลางให้ ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร เลยไปคุยกับผัวแก่ ผัวก็บอกเมียป่วย รักษาตัวอยู่ ทุกวันนี้ตนก็อึดอัดกับสภาพแบบนี้มาหลายปี อีกทั้งที่รั้วบ้าน คุณหญิงป้าก็เอาไม้ อิฐบล็อก ฝาหม้อ ไม้ มาแขวนและผูกเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร

ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจ๊ม้อย v+
ยันไม่ได้คลุ้มคลั่ง ไม่หยุดรถเพราะห่วงความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด โหนกระแส ได้พูดคุยกับหญิงคนขับฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งเผยว่า วันเกิดเหตุตนกำลังจะไปซื้อของที่ตลาด มีรถจักรยานยนต์ 2 คันขับขี่อยู่ด้านหน้า แต่เขาขับช้ามาก จนจึงบีบแตร 1 ครั้ง และไม่ได้บีบแตรยาวด้วย จากนั้นก็แซงออกขวาและเข้าเลนซ้าย ไม่ได้ปาดหน้าเขาเลย เมื่อถึงโค้งจุดเกิดเหตุตนก็ได้ยินเสียงตุ๊บจากฝั่งซ้าย ตนเข้าใจว่าเป็นเสียงทุบรถ
อีกสักพักก็มีเสียงจากด้านหลัง ไม่รู้ว่าเสียงอะไร พอมองกระจกก็เห็นหมวกกันน็อคอยู่ที่พื้น และมีคนขี่จักรยานยนต์มาฝั่งซ้าย ตะโกนถามว่า "มึงรีบเหรอ" และมีจักรยานยนต์อีกคันขี่มาทางขวาและจอดที่หน้ารถ จากนั้นก็เกิดเรื่องตามคลิป
สาเหตุที่ตนไม่หยุดรถเพราะกลัวจะโดนทำร้าย และตอนที่ตำรวจมาถึงตนก็ไม่หยุด เพราะคิดว่าตำรวจ 2 นายอาจไม่สามารถดูแลความปลอดภัยได้ เนื่องจากตอนนั้นรอบข้างเริ่มมีคนมุงเยอะ มีทั้งวินจักรยานยนต์ที่ขี่รอบคันตน และฝั่งคู่กรณีก็จะเข้ามาหา ตนจึงต้องขับรถวนไปเรื่อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้คู่กรณีเข้าถึงตัวได้ ยืนยันว่าไม่ได้คลุ้มคลั่ง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจ๊ม้อย v+
โต้ข่าววางยาเพื่อนบ้าน ลั่นแค่ปุ๋ยปลิวไปโดน
ส่วนที่ปรากฏข่าวไปว่าตนวางยาอาหารเพื่อนบ้าน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และเป็นเรื่องเมื่อหลายปีแล้ว คือตอนนั้นบริเวณหลังบ้านของเพื่อนบ้านมีการต่อเติมครัว และเวลาทำอาหารจะเปิดหน้าต่างเพื่อระบายควัน คิดว่าตอนนั้นตนวางปุ๋ยใส่ต้นไม้ที่เป็นผงสีขาวคล้ายแป้งไว้ตรงกำแพงบ้าน เมื่อลมพัดก็เลยปลิวไปหล่นใส่อาหารที่บ้านเขา อีกทั้งตนไม่ค่อยสุงสิงกับใครในหมู่บ้าน เพราะเขาแบ่งพรรคแบ่งพวกกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส, โหนกระแส