ทนายรักษ์ ลั่นมีแฟนอยู่แล้ว 12 ไม่ใช่แค่ 6 ชี้ฝ่ายหญิงก็รู้ ฟังคำตอบเรื่องที่ยืมไป

         ทนายรักษ์ โฟนอินโหนกระแส โบ้ยผู้หญิงเจาะมือถือ พิมพ์แชตข่มขู่ตัวเอง ลั่นฝ่ายหญิงรู้ตั้งแต่แรก ตนมีแฟนแล้ว 12 คน พร้อมเปิดหลักฐานคืนเงิน แต่กลับถูกซัด คนเขากินข้าว !
         วานนี้ (17 มีนาคม 2568) รายการโหนกระแส ทางช่อง 3 นำเสนอเรื่องราวของ คุณเอ้ (นามสมมติ) ซึ่งร้องเรียนกับ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง หลังถูกอดีตแฟนซึ่งเป็นทนายความ ตามคุกคามอย่างต่อเนื่อง ทั้งทำร้ายร่างกายและจ้างคนอื่นมาทำร้าย จนสร้างความหวาดกลัว ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ นอกจากนี้ทางฝ่ายทนายยังยืมเงินเธอ 8 แสนบาท และ 4 แสนบาท รวมเป็น 1.2 ล้านบาท

         จนเมื่อเธอจับได้ว่าอีกฝ่ายมีเรื่องผู้หญิง เลยพยายามจะเลิก แต่กลับถูกตามล่าตามรังควาน จึงต้องการเงินคืน แต่ฝั่งทนายกลับบอกว่าเป็นเงินที่ให้ด้วยความสเน่หา หากอยากได้ให้ไปฟ้องคืน แถมยังบอกว่าตัวเองไม่เคยขอเงินฝ่ายหญิง มีแต่เป็นคนให้ หากพูดแบบนี้เดี๋ยวต้องไปเจอกันในชั้นศาล
 
         ปรากฏว่าระหว่างรายการ ทนายอนันตรักษ์ เพ็ชรหิน ซึ่งเป็นทนายที่ถูกกล่าวหา ได้โฟนอินเข้ามา ยืนยันว่าตนไม่ได้ทำผิดอะไร และเรื่องที่ถูกกล่าวหาก็ไม่เป็นความจริง โดยเขามีหลักฐานเป็นภาพถ่ายและการโอนเงินให้ฝ่ายหญิงหลายครั้ง รวมถึงภาพที่เขานั่งมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์กับเธอ ในปี 2567-2568 


         ส่วนสาเหตุที่เลิกกัน เกิดจากเขาจับได้ว่าเป็นชู้กับรองผู้กำกับการตำรวจ จึงยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังตำรวจภูธรภาค 8 และขอยืนยันว่าตอนที่ผู้หญิงคนนี้เข้ามาในชีวิตเขา เธอก็รู้ตั้งแต่แรกว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว 12 คน ส่วนเธอเป็นคนที่ 13
 
         ด้าน คุณเอ้ ยืนยันว่าเลิกกับทนายความตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 และไม่เคยรู้จักเมียคนอื่นของเขา นอกจากนี้เธอยังเคยสืบจนรู้ว่าทนายโกหก บอกว่าไปต่างจังหวัดคนเดียวทั้งที่ไปกับเธอ และยังมีคลิปเสียง ยืนยันว่าเขามีสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นโดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย

         ต่อมา วุฒิ อดีตลูกน้องที่ทนายจ้างวานไปอุ้มทำร้ายคุณเอ้ ได้โฟนอินเข้ามาแฉเพิ่มว่า คุณเอ้ไม่ได้มีชู้ตามที่ถูกกล่าวหา แต่ทนายแค้นที่อีกฝ่ายเลิกรากันไป ตอนนี้ตนตัดสินใจออกมาพูดความจริงเพื่อให้คนรู้ว่าทนายชอบจ้างคนไปตามข่มขู่คุกคามคนอื่นจริง ๆ รวมถึงตนที่ถูกจ้างให้ไปอุ้มคุณเอ้




         โดย วุฒิ เผยว่า ตนมีคดีความที่ถูกฟ้องร้องกันอยู่ ทำให้ตนต้องคอยปกป้อง เพราะถ้าคุณเอ้เป็นอะไร ตนก็จะเดือดร้อนเพราะคงตกเป็นผู้ต้องสงสัยแน่นอน

         สำหรับหลักฐานแชตที่คุณเอ้นำมาโชว์ ว่าทนายส่งข้อความาข่มขู่ ว่าจะส่งคลิปลับให้คนนั้นคนนี้ และใช้ถ้อยคำหยาบคายกล่าวหาฝ่ายหญิงว่าเป็นผู้หญิงขายบริการนั้น ทางทนายอนันตรักษ์ชี้ว่าไม่เป็นความจริง และอ้างว่าฝ่ายหญิงแอบล็อกอินเข้ามือถือของตน แล้วพิมพ์ข้อความส่งไปแบบนั้นเพื่อสร้างหลักฐานเท็จ


         ส่วนเรื่องเงิน 8 แสน กับ 4 แสน ที่เอาไปจากคุณเอ้ จะคืนได้ไหมนั้น ทนายอนันตรักษ์ยังส่งหลักฐานเป็นรูปคุณเอ้ถือเงินฟ่อนใหญ่ จำนวนหลายแสนบาท อ้างว่าเป็นภาพที่ตนให้เงินเขาไป แต่ฝ่ายคุณเอ้แย้งว่า จริง ๆ ว่านี่คือรูปที่ตนเอารถไปเข้าไฟแนนซ์ เพื่อนำเงินมาให้ทนายต่างหาก ยังกล้าเอามาอ้าง

         คุณเอ้ ยังพูดถึงเรื่องที่ทนายจะฟ้องยึดบ้าน ขอถามว่าเอาตรงไหนมายึดบ้าน คุณจะยึดทุกอย่าง จะยึดรถที่ตนซื้อมา 7 ปี ตั้งแต่ก่อนเจอเขา จะยึดเอาทุกอย่างไปหมด ทั้งที่ทนายมาแต่ตัว มีมอเตอร์ไซค์คันเดียว ทนายให้ตนออกจากงานมาทำงานเป็นล่ามช่วยงานเขา ช่วยเรียกค่าคดีเขา บอกว่าจะให้เงินครึ่งต่อครึ่ง แต่ก็ไม่เคยแบ่งให้เลย และเอาไปซื้อนั่นซื้อนี่เป็นชื่อตัวเอง ที่ตนเดินออกมาก็ไม่ได้เอาอะไรมากสักอย่าง แต่กลับให้คนตามมาตบตีทำร้ายร่างกายตน ทั้งที่ทนายก็มีผู้หญิงคนอื่นมานานแล้ว เอาเข้าบ้านมานานแล้ว

 
         ด้านทนายแก้ว พยายามช่วยเจรจา ชี้ว่าคุณเป็นทนายความ อันไหนผิดก็ยอมรับผิดไป จะมาอ้างหลักฐานอะไรมากมาย คนอื่นเขากินข้าว เขารู้เรื่อง เขาดูออก จะพยายามบิดเบือนหรือแก้เก้อ หรือจะฟ้องอะไรมากมาย มันไม่ใช่เรื่อง  

         แต่ทนายอนันตรักษ์ ยังคงยืนยันว่าตัวเองไม่ผิด และมีหลักฐานในการฟ้องร้องฝั่งคุณเอ้ทั้งหมด ส่วนเรื่อง 8 แสนนั้นก็ให้คืนไปแล้ว


         อย่างไรก็ตาม หนุ่ม กรรชัย ชี้ว่าจากภาพที่ปรากฏซึ่งอ้างว่า ภาพซ้ายคุณเอ้ไปเบิกเงิน กับภาพขวาที่ทนายอ้างว่าเอาเงินไปคืนคุณเอ้นั้น มันเป็นที่เดียวกัน เสื้อก็ตัวเดียวกัน ซึ่งทนายแก้วก็เห็นด้วย และย้ำว่าไม่อยากให้มาแถกันแบบนี้
 
 ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส