แอดมินเพจดัง รับไฮโซเก๊เคยพาไปเลี้ยง เปย์สาวไม่อั้น - เหยื่อแฉหลอกคนตั้งแต่เป็นเยาวชน

          แอดมินเพจดัง รับไฮโซเก๊เคยพาไปเลี้ยงข้าว เปย์ไม่อั้นให้สาว ๆ ล่าสุดพบเหยื่ออีกรายโผล่ แฉหลอกคนตั้งแต่เป็นเยาวชน ท่าทางการพูดดูดี จนหลงเชื่อใจ



        แอดมินเพจดัง เผยไฮโซเก๊เคยพาไปเที่ยวจัดเต็ม สั่งเหล้าแพงฉ่ำ ท่าทางดูรวย-มีรถนำขบวน มุ่งเป้าไปที่ผู้หญิง ตกใจหลังเห็นข่าว อยากฟังเจ้าตัวชี้แจง

        จากกระแสข่าวเกี่ยวกับไฮโซเก๊ ที่แอบอ้างเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี มีการแอบอ้างบุคคลระดับสูง คนดัง สร้างภาพตัวเองให้ดูน่าเชื่อถือ ก่อนหลอกคบหากับดาราสาว คะน้า ริญญารัตน์ แถมยังพบว่ามีพฤติกรรมหลอกผู้หญิงคนอื่น ๆ ด้วยนั้น

        ล่าสุด (9 เมษายน 2568) โหนกระแส รายงานข้อมูลจาก นายมาร์ก อายุ 30 ปี แอดมินเพจ "หาเพื่อนเที่ยวหาเพื่อนกิน" และเจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งออกมาเล่าว่า ตนไม่เคยรู้จักไฮโซเก๊รายนี้เป็นการส่วนตัว เคยเจอเพียงครั้งเดียวตอนที่อีกฝ่ายพยายามขอโพสต์ในเพจให้ดูน่าเชื่อถือ แถมยังทำท่าเหมือนมีบุญคุณที่ได้อนุมัติโพสต์ให้ เพราะทำให้เขาได้พบกับผู้หญิงที่ต้องการ

 
        จากนั้นไฮโซเก๊ก็พาตนไปเลี้ยงอาหารตั้งแต่เที่ยงวัน โดยสั่งเหล้าให้ดื่มตามความชอบของตน ต่อมามีผู้หญิงคนหนึ่งมาร่วมโต๊ะและสั่งไวน์ 8,000 บาท มาดื่มด้วย กระทั่งตกเย็นไฮโซเก๊ก็สั่งเหล้านอกราคาแพงมาเพิ่มอีก ตกประมาณ 4 ขวด
 
        ช่วงนั้นยอมรับว่าตนมองว่าผู้ชายคนนี้มีฐานะดี เพราะมีรถนำขบวน มีรถหรูจอดหน้าร้าน และมีการ์ดดูแลรถอีก 2 คน จึงไม่คิดว่าจะเป็นมิจฉาชีพ และเท่าที่ทราบมาอีกฝ่ายมักพุ่งเป้าไปที่ผู้หญิง แต่ยังไม่เคยได้ยินว่าหลอกเอาเงินจากใคร

        ทั้งนี้ ตนก็ตกใจเมื่อเห็นเป็นข่าว เช่นเดียวกับสมาชิกในกลุ่มหลายคนที่รู้สึกสับสนเช่นกัน เพราะเคยเห็นชายคนนี้โด่งดังในเพจมาก่อน ซึ่งพวกตนก็อยากฟังคำชี้แจงจากตัวไฮโซเก๊เช่นกัน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


        อึ้งหลอกคนมานาน ทำตั้งแต่ยังเป็นเยาวชน

        ขณะเดียวกันมีหญิงอีกรายส่งข้อมูลมายังโหนกระแส เผยว่า ไฮโซเก๊มีพฤติกรรมหลอกลวงตั้งแต่ยังเป็นเยาวชน โดยย้อนกลับไปเมื่อปี 2554 ตอนที่อายุประมาณ 18-19 ปี ไฮโซเก๊มาเข้าค่ายจิตอาสา ซึ่งก็ดูเป็นคนพูดเก่ง มีความเป็นผู้นำ ทำให้ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากหลาย ๆ คน อีกทั้งตอนนั้นชายคนนี้ยังใช้นามสกุลดังกล่าว อ้างว่าลุงเป็นผู้ว่าฯ มีครอบครัวเป็นเจ้าของโรงเรียนดัง

        จนเมื่อจบค่ายตนก็ยังมีการติดต่อพูดคุยกับเด็ก ๆ อยู่ แต่วันหนึ่งชายคนนี้ก็กล่าวอ้างกับตนว่าสถานทูตจะมีการรับคนเข้าทำงาน เขาสามารถฝากลูกสาวตนเข้าไปทำงานได้ แต่เมื่อตนนำไปบอกลูกสาว ลูกก็บอกว่าไม่มีหรอก เพราะลูกก็ทำงานเกี่ยวกับการทำวีซ่าต่างประเทศอยู่แล้ว ต้องไปประสานงานกับทางสถานทูตตลอด

        แต่ด้วยโปรไฟล์และการพูดของชายคนนี้ รวมถึงไม่คิดว่าเด็กจะกล้าโกหกขนาดนี้ ทำให้ตนหลงเชื่อ ยอมโอนค่าดำเนินการไปให้ 500 บาท แต่เมื่อทวงถามเขาก็มักจะอ้างไปเรื่อย จนผ่านไปหลายอาทิตย์ตนก็มั่นใจว่าโดนหลอกแน่นอน

        ทั้งนี้ ตอนที่ตนเห็นข่าวก็ยังรู้สึกคุ้น ๆ จนเมื่อไปเจอรูปต่าง ๆ ในเฟซบุ๊กและเมสเซนเจอร์ จึงมั่นใจว่าเป็นคนเดียวกัน ซึ่งส่วนตัวอโหสิกรรมให้อีกฝ่ายไปแล้ว เพียงอยากเล่าเป็นอุทาหรณ์เท่านั้น

ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส, โหนกระแส