รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ครบทุกสี - 8 เส้นทาง เตรียมประกาศใช้ 30 กันยายน เช็กดูเลย รับสิทธิ์ยังไง ? เปลี่ยนสายต้องเสียเพิ่มไหม ? คาดปีหน้าอาจจะเปลี่ยนวิธีชำระ

ภาพจาก Settawat Udom / Shutterstock.com
วันที่ 10 เมษายน 2568 สำนักข่าวไทย รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการดำเนินการในโครงการรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เพื่อมุ่งลดภาระค่าครองชีพในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชน และพบว่าได้รับผลตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี
หลังจากนี้จะมีการประกาศใช้นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย สำหรับโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางอื่น ๆ ในวันที่ 30 กันยายน เป็นต้นไป ประกอบด้วย สายสีเขียว สายสีทอง สายสีเหลือง สายสีชมพู สายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ซึ่งจะทำให้มีการดำเนินนโยบายในรถไฟฟ้าครบทุกสี รวม 8 เส้นทาง
รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ใครที่ใช้ได้ ?
- ระยะแรกผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จำกัดเฉพาะผู้ที่มีเลขบัตรประชาชนไทย 13 หลักเท่านั้น
- ต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ทางรัฐ
- คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงเดือนสิงหาคม 2568
รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ชำระเงินทางไหน ?
- หากจะใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สามารถชำระค่าโดยสารผ่านบัตร MRT Plus และบัตร EMV
- หากจะใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีทอง สายสีเหลือง สายสีชมพู จะต้องชำระค่าโดยสารผ่านบัตร Rabbit
- ไม่ว่าจะใช้บริการกี่สายทาง หรือข้ามสายทางทุกระบบ จะมีค่าโดยสารเพียง 20 บาทเท่านั้น
- บัตรโดยสารที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ในช่วงแรกยังคงสามารถใช้บัตรเดิมได้ แต่ต้องลงทะเบียนบัตรนั้น ๆ ผ่านแอปฯ ทางรัฐ ก่อน จึงจะได้รับสิทธิ์ 20 บาทตลอดสาย
- สำหรับเฟส 2 คาดว่าภายในปี 2569 จะมีการเปลี่ยนไปใช้ระบบสแกนชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผ่านช่องทาง QR Code บนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะทำให้ในอนาคตไม่จำเป็นต้องใช้บัตรโดยสารอีกต่อไป
![รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ครบทุกสี - 8 เส้นทาง ดีเดย์ 30 ก.ย. รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ครบทุกสี - 8 เส้นทาง ดีเดย์ 30 ก.ย.]()
ภาพจาก Jayz3t / Shutterstock.com
ทั้งนี้ การชดเชยรายได้ให้เอกชนผู้ประกอบการนั้น ประเมินว่าจะต้องใช้ประมาณปีละ 8,000 ล้านบาท
โดยจะนำเงินรายได้จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
หรือกองทุนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
ที่ในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 16,000 ล้านบาท มาชดเชยรายได้ฯ
ภายใต้การขับเคลื่อนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)
การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ...
ผ่านการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม ที่ในขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการตามกระบวนการ
ซึ่งจะเสนอประกาศกฎหมายลำดับรองภายในเดือนกันยายน 2568 แน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย

ภาพจาก Settawat Udom / Shutterstock.com
วันที่ 10 เมษายน 2568 สำนักข่าวไทย รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการดำเนินการในโครงการรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เพื่อมุ่งลดภาระค่าครองชีพในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชน และพบว่าได้รับผลตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี
หลังจากนี้จะมีการประกาศใช้นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย สำหรับโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางอื่น ๆ ในวันที่ 30 กันยายน เป็นต้นไป ประกอบด้วย สายสีเขียว สายสีทอง สายสีเหลือง สายสีชมพู สายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ซึ่งจะทำให้มีการดำเนินนโยบายในรถไฟฟ้าครบทุกสี รวม 8 เส้นทาง
รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ใครที่ใช้ได้ ?
- ระยะแรกผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จำกัดเฉพาะผู้ที่มีเลขบัตรประชาชนไทย 13 หลักเท่านั้น
- ต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ทางรัฐ
- คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงเดือนสิงหาคม 2568
รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ชำระเงินทางไหน ?
- หากจะใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สามารถชำระค่าโดยสารผ่านบัตร MRT Plus และบัตร EMV
- หากจะใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีทอง สายสีเหลือง สายสีชมพู จะต้องชำระค่าโดยสารผ่านบัตร Rabbit
- ไม่ว่าจะใช้บริการกี่สายทาง หรือข้ามสายทางทุกระบบ จะมีค่าโดยสารเพียง 20 บาทเท่านั้น
- บัตรโดยสารที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ในช่วงแรกยังคงสามารถใช้บัตรเดิมได้ แต่ต้องลงทะเบียนบัตรนั้น ๆ ผ่านแอปฯ ทางรัฐ ก่อน จึงจะได้รับสิทธิ์ 20 บาทตลอดสาย
- สำหรับเฟส 2 คาดว่าภายในปี 2569 จะมีการเปลี่ยนไปใช้ระบบสแกนชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผ่านช่องทาง QR Code บนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะทำให้ในอนาคตไม่จำเป็นต้องใช้บัตรโดยสารอีกต่อไป

ภาพจาก Jayz3t / Shutterstock.com
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย