แม่ค้าคลองถม ทุ่มซื้อทองกว่า 1 ล้าน แต่สุดท้ายเอาไปเผาไฟ กลายเป็นพลาสติก !

 

            เจ๊เจี๊ยบ เจ้าของร้านย่านสำเพ็ง ลมแทบจับ ซื้อทองร้านดังการันตีแท้ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท แต่พอเผาไฟกลายเป็นพลาสติกไหม้สีดำ โร่แจ้งความเอาผิด
            โดยนางวรนิดา เปิดเผยว่า ตนมีธุรกิจค้าขายสินค้าหลากหลายประเภท เช่น เครื่องสำอาง น้ำหอม และอาหารเสริม ในย่านคลองถม ก่อนหน้านี้เธอได้ซื้อกรอบรูปทองคำประเภท "ทองคำ FINE GOLD 99.9" จากร้านทองชื่อดังแห่งหนึ่งเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มักจะซื้อไม่ต่ำกว่า 20 ชิ้น เพื่อมอบเป็นของขวัญ

            ที่ผ่านมาทองรูปพรรณที่ซื้อจากร้านดังกล่าว สามารถนำไปขายต่อได้โดยไม่มีปัญหา แต่กรอบรูปสัตว์มงคลที่สะสมไว้ เช่น รูปเสือ ปลามังกร มังกร และม้า จำนวน 4 ภาพ ซึ่งเป็นภาพโปรดของเธอ กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา

            นางวรนิดา เล่าว่า กรอบรูปเสือที่ร้านติดป้ายราคา 750,000 บาท ลดราคาเหลือ 450,000 บาท ส่วนกรอบมังกรจาก 450,000 เหลือ 250,000 บาท ขณะที่ปลามังกรและรูปม้า ราคาเดียวกันจาก 250,000 เหลือ 150,000 บาท เธอซื้อทั้งหมดด้วยเงินสด รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
            จนกระทั่งมีข่าวแม่ตั๊กขายทองปลอมเผยแพร่ออกมา ทำให้เธอเริ่มสงสัยและติดต่อสอบถามกับร้านเดิม แต่ก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นทองแท้ 99.9% และเป็นงานทำมือโดยช่างทองของร้านเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอให้ญาตินำรูปม้าออกมาเผา กลับได้กลิ่นคล้ายพลาสติก จึงนำไปให้ร้านทองตรวจสอบ ซึ่งได้รับการยืนยันอีกว่าเป็นวัสดุพลาสติก

            จากนั้น นางวรนิดา ได้นำภาพไปสอบถามที่ร้านเดิม กลับได้รับคำปฏิเสธการรับซื้อคืน โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพียงของตกแต่งบ้าน ไม่ใช่ทองแท้ แม้ภายหลังร้านจะเสนอขอใบเสร็จเพื่อพิจารณารับคืน แต่เธอระบุว่าซื้อมานานกว่า 8 ปี ไม่มีหลักฐานการซื้อเหลืออยู่แล้ว แต่ขณะเดียวกัน ทางร้านก็ยอมรับว่าภาพมีทองผสมอยู่ในปริมาณเล็กน้อย ซึ่งต้องนำไปตรวจสอบในห้องแล็บเท่านั้นจึงจะยืนยันได้

            ต่อมาร้านดังกล่าวได้ให้ทนายเข้ามาเจรจา และมีท่าทีเลี่ยงที่จะคืนเงิน โดยยืนยันว่าต้องใช้ใบเสร็จเป็นหลักฐาน พร้อมอ้างว่ารูปดังกล่าวไม่ได้ผลิตเอง แต่รับมาจากแหล่งอื่น

            เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.จักรวรรดิ ได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว พร้อมเตรียมประสานงานกับ สน.พระราชวัง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


 ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์ 3PlusNews