คดีช็อกญี่ปุ่น นศ. สาวแจ้งตำรวจ 9 ครั้งถูกเมิน ก่อนหายตัว สุดท้ายเหลือแต่โครงกระดูกในกระเป๋า

          คดีช็อกญี่ปุ่น นักศึกษาสาววัย 20 แจ้งตำรวจ 9 ครั้งถูกเมิน ก่อนหายตัวไป 4 เดือน สุดท้ายสภาพสุดเวทนา เหลือแต่โครงกระดูกในกระเป๋า 

          วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ ETtoday รายงานคดีช็อกสะเทือนใจที่กำลังเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดในญี่ปุ่น กรณี อายะ โอกาซากิ หญิงสาววัย 20 ปี ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่ตำรวจไม่ได้ดำเนินการตามหาอย่างจริงจัง จนผ่านไปประมาณ 4 เดือน ในที่สุดเธอถูกพบว่าเสียชีวิต ในสภาพเหลือแต่โครงกระดูกในกระเป๋าที่บ้านของอดีตแฟนหนุ่มของเธอ และก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องราวทั้งหมด เธอเคยโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจมากถึง 9 ครั้ง แต่กลับถูกเพิกเฉย
          โอกาซากิ อาศัยในเมืองคาวาซากิ จังหวัดคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น เธอถูกฮิเดยูกิ ชิไร วัย 27 ปี หนุ่มแฟนเก่า คอยติดตามคุกคามมาเป็นเวลานานกว่า 1 ปี และเธอได้โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจหลายครั้ง จนในวันที่ 20 ธันวาคม ปีที่ผ่านมา เธอได้หายตัวไป ทางครอบครัวพยายามตามหาแต่ก็ไม่พบ กระทั่งเมื่อวันที่ 30 เมษายน เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเพิ่งเข้าค้นบ้านของชิไร ในที่สุดก็พบโครงกระดูกของมนุษย์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นของโอกาซากิ อยู่ในกระเป๋าในช่องเก็บของใต้พื้นบ้าน แต่ในขณะนั้นเขาไม่ได้อยู่ที่บ้าน

          จากนั้นวันที่ 3 พฤษภาคม เวลา 13.30 น. ตำรวจได้ขอให้ชิไรซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากสหรัฐอเมริกาไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจ ก่อนที่จะพบความน่าสงสัยว่าเขาจะเป็นผู้ทิ้งศพของเหยื่อสาว จนกระทั่งในเวลา 21.10 น. ทางตำรวจจึงจับกุมเขาในที่สุด


          เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความโกรธแค้นให้กับทางครอบครัว ญาติ เพื่อน ๆ และประชาชนที่ทราบเรื่อง จึงพากันไปรวมตัวประท้วงที่สถานีตำรวจมากกว่า 50 คน จนเกิดเป็นความโกลาหล โดยในจำนวนนี้มีพ่อของโอกาซากิที่เข้ามาติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วยความไม่พอใจ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดเป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะจัดทีมเฉพาะกิจเข้ามาดูแลความสงบ

          พ่อของโอกาซากิ เปิดเผยอย่างเศร้าใจว่า ลูกสาวของเขาโทร. ไปที่หมายเลข 110 ทั้งหมด 9 ครั้ง ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม ก่อนที่เธอจะหายตัวไป โดยเธอบอกว่าชีวิตของเธอตกอยู่ในอันตราย แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ อย่างจริงจัง เขาตำหนิตำรวจว่านิ่งเฉย ในขณะที่เขาเป็นคนพบบันทึกการโทร. แจ้งตำรวจนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งทางตำรวจไม่เคยแจ้งให้เขาทราบแต่อย่างใด สิ่งที่เขารับไม่ได้เป็นอย่างยิ่งคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจตอบรับเพียงครั้งเดียว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อ้างว่าปลายสายโทรศัพท์มาแจ้งว่าจักรยานถูกขโมย

          "ลูกสาวของผมโทร. หาตำรวจเวลา 04.00 น. และ 07.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่ปกติเลย ก่อนจะโทร. แจ้งตำรวจ ลูกสาวได้ร้องไห้กับคุณยายซึ่งอาศัยอยู่กับเธอ และบอกว่าเธอเกรงว่าจะถูกฆ่า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เธอจะแจ้งความอาชญากรรมเพียงเพราะจักรยานได้อย่างไร" พ่อของโอกาซากิ กล่าวอย่างใจสลาย

          ทั้งนี้ พ่อของโอกาซากิยังกล่าวหาตำรวจว่าไม่ดำเนินการค้นหาลูกสาวของเขาอย่างจริงจัง หลังจากที่เธอหายตัวไป ทำให้ครอบครัวต้องพึ่งพาโซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อหาเบาะแสและติดต่อกับเพื่อนของลูกสาวด้วยตนเอง ทางตำรวจไม่ได้ออกติดตามไปที่บ้านของผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด จนกระทั่งสุดท้ายลูกสาวของเขากลายเป็นศพในสภาพสุดเวทนาที่เหลือเพียงแต่โครงกระดูก

          อย่างไรก็ดี ทางตำรวจแจ้งว่า ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ทราบว่าแฟนเก่าของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ไหน และพวกเขาได้ดำเนินการตามมาตรการที่จำเป็นแล้ว โดยยอมรับว่าผู้เสียชีวิตได้แจ้งว่าเธอถูกแฟนเก่าสะกดรอยตาม แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้าตักเตือนฝ่ายชายหรือแจ้งข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเนื่องจากเป็นความต้องการของเธอที่ไม่ต้องการให้ตำรวจไปจัดการ

          โดยตำรวจกล่าวว่า "เราได้พิจารณาความต้องการของเหยื่อแล้ว และเราตัดสินใจว่าเธอไม่ต้องการให้ตำรวจจัดการกับสถานการณ์นี้" โดยขณะนั้นตำรวจขอให้โอกาซากิมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่เธอตอบกลับว่า "ไม่อยากให้ตำรวจคุยกับชิไรตอนนี้ และฉันจะไม่ไปที่สถานีตำรวจด้วย" ดังนั้น ตำรวจจึงพิจารณาว่า "กรณีนี้ผู้เสียหายไม่ได้แจ้งความ"

          ส่วนในวันที่ 30 เมษายน ที่เจ้าหน้าได้เข้าค้นบ้านของแฟนเก่าผู้เสียชีวิต เกิดจากหลักฐานที่รวบรวมได้เพิ่มมากขึ้น กระทั่งมีการสืบสวนจนสามารถยืนยันได้ว่าเขาได้ไปที่บ้านของฝ่ายหญิงในวันที่เธอหายตัวไปจริง ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าดำเนินการตามขั้นตอน

ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday, FNN, Yahoo Japan