อินเดีย-ปากีสถาน ระอุ อินเดียโจมตีทางอากาศใส่ปากีสถาน 9 จุด โต้ตอบเหตุสังหารนักท่องเที่ยวที่แคชเมียร์ ฝั่งปากีสถานยิงตอบโต้ สอยเครื่องบินร่วง 5 ลำ
![อินเดีย ยิงมิสไซล์ถล่ม 9 จุดปากีสถาน อินเดีย ยิงมิสไซล์ถล่ม 9 จุดปากีสถาน]()
ภาพจาก PUNIT PARANJPE / AFP
วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า อินเดียเปิดฉากโจมตีทางอากาศถล่มปากีสถาน และดินแดนแคชเมียร์ฝั่งปากีสถาน ในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้เหตุสังหารนักท่องเที่ยวในแคชเมียร์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 8 ราย บาดเจ็บ 35 ราย ขณะที่ปากีสถานเรียกการโจมตีนี้ว่าเป็นการประกาศสงคราม ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดที่สุดในรอบกว่า 2 ทศวรรษของทั้ง 2 ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์
อินเดียเรียกปฏิบัติการนี้ว่า "ปฏิบัติการซินดูร์" โดยชี้ว่าได้มีการโจมตีเป้าหมาย 9 แห่งในปากีสถาน และดินแดนแคชเมียร์ฝั่งปากีสถาน ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของผู้ก่อการร้าย
ด้านแหล่งข่าวทางกลาโหมของอินเดียเผยกับรอยเตอร์ว่า กองกำลังอินเดียโจมตีสำนักงานใหญ่ของกลุ่มนักรบอิสลาม ได้แก่ กลุ่มไจช์-อี-โมฮัมเหม็ด และลัชการ์-อี-ไทบา ซึ่งแถลงการณ์จากอินเดียระบุว่า "อินเดียได้แสดงความยับยั้งชั่งใจอย่างมากในการเลือกเป้าหมายและวิธีการปฏิบัติการ"
ปากีสถานระบุว่า อินเดียใช้มิสไซล์ในการยิงถล่มเป้าหมาย 3 แห่ง ขณะที่ทางปากีสถานได้ยิงอากาศยานของอินเดียแล้ว 5 ลำ แม้ทางอินเดียจะยังไม่ยืนยันข้อมูลดังกล่าว
กองทัพของทั้ง 2 ประเทศยังแลกเปลี่ยนการยิงปืนใหญ่และอาวุธหนักตลอดแนวพรมแดนในภูมิภาคหิมาลัยของแคชเมียร์ ด้านกระทรวงการต่างประเทศปากีสถาน ระบุว่า ในการกระทำที่เป็นการประกาศสงครามนี้ เครื่องบินรบอินเดียยังคงอยู่ในน่านฟ้าอินเดีย แต่มีการละเมิดอธิปไตยของปากีสถานโดยใช้อาวุธโจมตีระยะไกล เล็งเป้าไปที่ประชากรพลเรือน
ด้านโฆษกทหารปากีสถาน เปิดเผยว่า นอกจาก 8 คนที่ถูกสังหาร ยังมีผู้บาดเจ็บ 35 คนและสูญหาย 2 คน ขณะที่ทางสถานีโทรทัศน์ CNN News-18 ของอินเดีย รายงานอ้างว่าการโจมตีของอินเดียได้สังหารผู้ก่อการร้ายแล้ว 12 ราย และทำให้บาดเจ็บอย่างน้อย 55 ราย
ท่ามกลางความตึงเครียดและการสู้รบที่ดำเนินอยู่ สายการบินหลายแห่ง เช่น อินดิโก (IndiGo), แอร์อินเดีย (Air India) และกาตาร์ แอร์เวย์ส (Qatar Airways) ได้ยกเลิกเที่ยวบินในพื้นที่ของอินเดียและปากีสถานแล้ว เนื่องจากการปิดสนามบินและน่านฟ้า
ทั้งนี้ จังหวัดปัญจาบของปากีสถานได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว โดยที่โรงพยาบาลกับหน่วยงานฉุกเฉินอยู่ในสถานะเตรียมความพร้อมสูงสุด ขณะที่ฝั่งอินเดีย พบว่าในวันนี้ (7 พฤษภาคม) ทางการยังคงประกาศปิดโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษาทุกแห่งในภูมิภาคชัมมู, ซัมบา, คาธูอา, ราชอรี และพุนช์ ของแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย
ขอบคุณข้อมูลจาก REUTERS, BBC

ภาพจาก PUNIT PARANJPE / AFP
วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า อินเดียเปิดฉากโจมตีทางอากาศถล่มปากีสถาน และดินแดนแคชเมียร์ฝั่งปากีสถาน ในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้เหตุสังหารนักท่องเที่ยวในแคชเมียร์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 8 ราย บาดเจ็บ 35 ราย ขณะที่ปากีสถานเรียกการโจมตีนี้ว่าเป็นการประกาศสงคราม ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดที่สุดในรอบกว่า 2 ทศวรรษของทั้ง 2 ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์
อินเดียเรียกปฏิบัติการนี้ว่า "ปฏิบัติการซินดูร์" โดยชี้ว่าได้มีการโจมตีเป้าหมาย 9 แห่งในปากีสถาน และดินแดนแคชเมียร์ฝั่งปากีสถาน ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของผู้ก่อการร้าย
ด้านแหล่งข่าวทางกลาโหมของอินเดียเผยกับรอยเตอร์ว่า กองกำลังอินเดียโจมตีสำนักงานใหญ่ของกลุ่มนักรบอิสลาม ได้แก่ กลุ่มไจช์-อี-โมฮัมเหม็ด และลัชการ์-อี-ไทบา ซึ่งแถลงการณ์จากอินเดียระบุว่า "อินเดียได้แสดงความยับยั้งชั่งใจอย่างมากในการเลือกเป้าหมายและวิธีการปฏิบัติการ"
ปากีสถานระบุว่า อินเดียใช้มิสไซล์ในการยิงถล่มเป้าหมาย 3 แห่ง ขณะที่ทางปากีสถานได้ยิงอากาศยานของอินเดียแล้ว 5 ลำ แม้ทางอินเดียจะยังไม่ยืนยันข้อมูลดังกล่าว
กองทัพของทั้ง 2 ประเทศยังแลกเปลี่ยนการยิงปืนใหญ่และอาวุธหนักตลอดแนวพรมแดนในภูมิภาคหิมาลัยของแคชเมียร์ ด้านกระทรวงการต่างประเทศปากีสถาน ระบุว่า ในการกระทำที่เป็นการประกาศสงครามนี้ เครื่องบินรบอินเดียยังคงอยู่ในน่านฟ้าอินเดีย แต่มีการละเมิดอธิปไตยของปากีสถานโดยใช้อาวุธโจมตีระยะไกล เล็งเป้าไปที่ประชากรพลเรือน
ด้านโฆษกทหารปากีสถาน เปิดเผยว่า นอกจาก 8 คนที่ถูกสังหาร ยังมีผู้บาดเจ็บ 35 คนและสูญหาย 2 คน ขณะที่ทางสถานีโทรทัศน์ CNN News-18 ของอินเดีย รายงานอ้างว่าการโจมตีของอินเดียได้สังหารผู้ก่อการร้ายแล้ว 12 ราย และทำให้บาดเจ็บอย่างน้อย 55 ราย
ท่ามกลางความตึงเครียดและการสู้รบที่ดำเนินอยู่ สายการบินหลายแห่ง เช่น อินดิโก (IndiGo), แอร์อินเดีย (Air India) และกาตาร์ แอร์เวย์ส (Qatar Airways) ได้ยกเลิกเที่ยวบินในพื้นที่ของอินเดียและปากีสถานแล้ว เนื่องจากการปิดสนามบินและน่านฟ้า
ทั้งนี้ จังหวัดปัญจาบของปากีสถานได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว โดยที่โรงพยาบาลกับหน่วยงานฉุกเฉินอยู่ในสถานะเตรียมความพร้อมสูงสุด ขณะที่ฝั่งอินเดีย พบว่าในวันนี้ (7 พฤษภาคม) ทางการยังคงประกาศปิดโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษาทุกแห่งในภูมิภาคชัมมู, ซัมบา, คาธูอา, ราชอรี และพุนช์ ของแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย
ขอบคุณข้อมูลจาก REUTERS, BBC