ลูกพาแม่มาอยู่ด้วย เต็มใจดูแล-อยู่บ้านใหญ่ แม่เผยเหตุผลจุกใจ ทำไมอยากกลับบ้านนอก

          แม่มาอยู่บ้านลูก เจอบ้านใหญ่ทันสมัย แต่ทำไมอยากกลับบ้านนอก ฟังเหตุผลจุกใจ แต่ลูกกลับมองต่าง ทิ้งคำถามชวนคิด ควรเลือกแบบไหน

ลูกพาแม่มาอยู่ด้วย
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          หลายครอบครัวที่ลูกหลานย้ายออกจากบ้านเกิดมาอยู่เมืองใหญ่ เมื่อเวลาผ่านไปก็อยากจะรับพ่อแม่ที่แก่เฒ่ามาอยู่ร่วมกัน เพื่อให้สามารถดูได้อย่างใกล้ชิด ไม่ให้พ่อแม่ต้องเหงา แต่ด้วยวิธีชีวิตที่แตกต่าง บางครั้งอาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้สูงวัย และคำบอกเล่าจากใจของหญิงสูงวัยรายหนึ่งที่บอกกับลูกว่าอยากกลับบ้านนอก ก็เป็นเรื่องสะเทือนใจคนฟังไม่น้อย

          โดยวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ SOHA รายงานเรื่องราวของ นางเถียน อายุ 67 ปี จากเวียดนาม ที่เกิดและเติบโตอยู่ในชนบท ชีวิตของเธอรายล้อมด้วยสวนผัก เลี้ยงไก่ ก่อฟืนหุงข้าว ซึ่งนับตั้งแต่สามีตายจากเธอก็ใช้ชีวิตตัวคนเดียวในบ้านเก่า ๆ แม้จะเศร้าแต่ก็ชินแล้ว

          แต่ละวันเธอจะออกไปเก็บผักที่สวนในตอนเช้าและค่ำ ไปซื้อของอย่างอื่นที่ตลาด เมื่อใดก็ตามที่หลานของเพื่อนบ้านแวะมาเยี่ยมเยียน ก็จะรู้สึกอบอุ่นใจ

          แต่ไม่กี่เดือนก่อน ลูกชายคนโตกับสะใภ้มาขอให้เธอไปอยู่ด้วยกันในเมือง ได้ยินแบบนั้นเธอก็ดีใจแต่ก็กังวล เพราะตัวเองเป็นคนบ้านนอก และเคยได้ยินมาว่าสะใภ้ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองที่มีแต่ความทันสมัย การอยู่ร่วมกันคงไม่ง่าย แต่เมื่อลูกชายยืนกรานเธอก็จำต้องยอมไปด้วย เพราะลูกห่วงกลัวว่าเธออยู่ที่บ้านนอกคนเดียว หากหกล้มหรือเป็นอะไรไปแล้วใครจะมาช่วย

          แต่ไม่คิดว่าการมาอยู่บ้านหลังใหญ่จะทำให้เธออึดอัดมาก แค่วันแรกที่มาถึงก็พบว่าบ้านใหญ่เหมือนเข้าบริษัท ที่อยู่ของลูกมีลิฟต์ ใช้คีย์การ์ดเปิดประตู ในครัวมีแต่ปุ่มที่ส่งเสียงปี๊บ ๆ แค่กดเบา ๆ เธอไม่รู้จะใช้งานของต่าง ๆ ยังไง จึงต้มน้ำไม่ได้ด้วยซ้ำ
 
          เมื่อถามสะใภ้ว่าจะใช้งานหม้อต้มยังไง เธอก็บอกว่า "แม่แค่กดปุ่มเปิด แล้วกดเครื่องหมาย + กับ - เพื่อเพิ่มหรือลดอุณหภูมิตามต้องการ"

          เธอถามซ้ำอีกครั้งอย่างงุนงง ว่ามันหมายถึงอะไร สะใภ้ก็ยิ้มออกมา แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนการดูแคลนเล็กน้อย บางทีเธออาจจะคิดมากเกินไป แต่นับจากนั้นเธอก็เริ่มเกร็งไปหมด กลัวจะทำอะไรผิดพลาด

          วันต่อมาเธอเห็นตะกร้าใส่ผ้าสกปรกในห้องน้ำ เลยช่วยเอามาซักให้ เธอเคยชินกับการซักมือ แต่เมื่อสะใภ้กลับบ้านมาเห็นเสื้อผ้าเปียก ๆ ที่แขวนอยู่เต็มระเบียง เธอก็ตกใจแล้วถามว่า "แม่คะ มีเครื่องซักผ้าอยู่ทำไมไม่ใช่ ทำไมต้องเหนื่อยซักมือด้วย"


          แม่สามีหัวเราะไม่เต็มเสียง บอกเพียงว่าตัวเองเคยชินแบบนี้ และคิดว่าการซักมือสะอาดกว่า สะใภ้ได้ยินก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เธอเห็นสะใภ้ขมวดคิ้วแล้วเดินไปเก็บผ้าเงียบ ๆ เอาลงไปอบแห้งในเครื่องซักผ้า
 
          อาหารวันนั้นเธอต้มผักบุ้งและปลา ลูกชายกินอย่างอร่อย แต่สะใภ้เดินไปหยิบสลัดมากิน แล้วบอกว่ากำลังควบคุมอาหาร โดยไม่แตะต้องอาหารที่เธอทำเลย มันทำให้เธอรู้สึกแย่มาก คิดว่าสะใภ้คงมองว่าเธอทำครัวสกปรกและอาหารเหม็นคาว
 
          ครั้งหนึ่งเธออยู่บ้านคนเดียวจึงเปิดทีวีดู แต่ปุ่มต่าง ๆ นั้นชวนสับสน กดแล้วก็เห็นแต่ตัวอักษรวิ่งไปวิ่งมา ไม่มีคน แต่มีเสียงคนพูดภาษาต่างชาติไม่หยุด เธอจึงโทร. หาสะใภ้ เมื่อสะใภ้กลับมาบ้าน เห็นเธอถือรีโมตกดไปทั่วก็ดุ บอกว่าควรโทร. ถามวิธีใช้จากตัวเอง "อย่ากดสุ่มสี่สุ่มห้า เดี๋ยวก็พังหรอก"
 
          แม่สามีได้ยินก็อึ้งไป นับจากวันนั้นเธอก็ยิ่งเหมือนตัวหดลีบ ทำอะไรก็ต้องคอยระวัง แม้แต่เทน้ำปลาใส่ถ้วยก็ยังต้องมองซ้ายมองขวา กลัวสะใภ้จะคิดว่าเป็นคนล้าสมัย แม้สะใภ้จะไม่เคยพูดจาแรง ๆ ใส่ แต่ทุกคำที่พูดมาทำให้เธอแปลความหมายในแบบตัวเอง และรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินที่แปลกแยก
 
          กระทั่งคืนหนึ่ง เธอบอกกับลูกชายว่า "แม่อยากกลับบ้านนอก แม่อยู่ที่นี่แล้วรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก"

          อย่างไรก็ตาม แม้จะรู้ว่าแม่อึดอัด ลูกชายกลับบอกไม่ให้แม่คิดมาก เพราะอาจจะแค่ยังไม่ชิน ยืนยันว่าภรรยาของเขารักแม่ แค่พูดไม่เก่ง และบอกว่าเดี๋ยวแม่ก็ค่อย ๆ ชินไปเอง

          แม่ก็คิดว่าลูกชายพูดถูก แต่เธอยังคงรู้สึกเศร้า คิดถึงเตาไฟที่บ้านนอก คิดถึงลานบ้านที่มีแสงแดด คิดถึงการปลูกผัก เพราะที่บ้านของลูก เธอเหมือนคนแก่ที่ทำอะไรไม่เป็น ต้องกลัวตลอดว่าจะจับอะไรแล้วพัง เธอไม่รู้จริง ๆ เลยว่าควรพยายามปรับตัว หรือควรจะโน้มน้าวลูกชายให้ยอมปล่อยเธอกลับบ้านนอกไป แต่หากกลับไปก็คงต้องอยู่อย่างเดียวดาย เจ็บป่วยก็ไม่มีใครรู้

          สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าคนสูงวัยอย่างเธอควรเลือกอยู่ในที่ที่คุ้นเคยแต่เดียวดาย หรืออยู่ในบ้านทันสมัยแต่รู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน
 

ขอบคุณข้อมูลจาก SOHA

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลูกพาแม่มาอยู่ด้วย เต็มใจดูแล-อยู่บ้านใหญ่ แม่เผยเหตุผลจุกใจ ทำไมอยากกลับบ้านนอก อัปเดตล่าสุด 8 พฤษภาคม 2568 เวลา 15:51:51 20,878 อ่าน
TOP
x close