พ่อทิ้งมรดก 4.6 แสน แต่ลูกถอนไม่ได้ สุดวุ่นวายจนต้องยื่นฟ้องย่า แม้ไร้ปัญหาแย่งเงิน

          พ่อทิ้งมรดก 4.6 แสน แต่ลูกสาวถอนไม่ได้ ธนาคารให้พิสูจน์ความสัมพันธ์ แม้มีใบรับรองบุตร สุดวุ่นวายจนสุดท้ายต้องฟ้องย่าตัวเอง แม้ไร้ปัญหาแย่งเงิน
พ่อทิ้งมรดก 4.6 แสน แต่ลูกถอนไม่ได้ สุดวุ่นวายจนต้องยื่นฟ้องย่า

          วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ CTWANT รายงานว่า หญิงคนหนึ่งต้องพบกับความวุ่นวายชวนปวดหัว ในตอนที่ไปธนาคารเพื่อจะถอนเงินมรดกที่พ่อของเธอทิ้งไว้ก่อนเสียชีวิต เมื่อทางธนาคารร้องขอให้เธอแสดงหลักฐานว่ามีความสัมพันธ์โดยตรงกับพ่อ แม้เธอจะมีหลักฐานอย่างใบทะเบียนสมรสของพ่อกับแม่ รวมถึงใบรับรองบุตรของตัวเอง มาแสดงก็ตาม จนสุดท้ายต้องตัดสินใจฟ้องย่าแท้ ๆ ของตัวเอง แม้จะไม่มีปัญหาเรื่องการแย่งมรดก

          รายงานเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับหญิงนามสกุลจาง ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน พ่อของเธอเสียชีวิตเมื่อปี 2567 โดยในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเขาอยู่ในสภาพหลับใหลและไม่ได้สติเกือบตลอดเวลา จึงไม่ได้สั่งเสียเรื่องต่าง ๆ ไว้ กระทั่งเมื่อพิธีศพผ่านไปหลายเดือน จางจึงนึกขึ้นได้ว่า พ่อเคยพูดว่ามีเงินฝากก้อนใหญ่อยู่ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ประมาณ 100,000 หยวน (ราว 460,000 บาท) แต่เขาไม่เคยบอกรหัสผ่านสำหรับบัญชีนั้น
          เมื่อจางไปที่ธนาคารเพื่อจะถอนเงินจำนวนดังกล่าว โดยนำใบมรณบัตรของพ่อ ทะเบียนบ้าน และเอกสารยืนยันตัวตนไปแสดงเพื่อดำเนินการ แต่กลับพบปัญหา เนื่องจากในครอบครัวของเธอมีชื่อสมาชิก 3 รุ่นอยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกัน ดังนั้นแม้ว่าจะมีใบทะเบียนสมรสของพ่อกับแม่ และมีใบรับรองบุตรของเธอ ทางธนาคารยังปฏิเสธการถอนเงิน  

          พนักงานธนาคารแจ้งว่า เธอต้องมีเอกสารที่รับรองโดยโนตารี เพื่อพิสูจน์ว่ามีความสัมพันธ์โดยตรงกับผู้เสียชีวิต และรับรองสถานะทายาทโดยธรรม ดังนั้นเธอจึงไปยังสำนักงานเพื่อเดินเรื่อง แต่ก็ติดปัญหาอีก เมื่อปรากฏว่าทั้งตัวเธอและคุณย่าต่างก็เป็นทายาทโดยธรรม ในการยื่นเอกสาร เธอต้องยื่นเอกสารส่วนบุคคลของคุณย่าด้วย แต่เนื่องจากคุณย่ามีอายุเกือบ 90 ปีแล้ว และบริษัทที่คุณย่าเคยทำงานก็ปิดกิจการไปกว่า 30 ปี แล้ว จึงไม่สามารถหาเอกสารที่เกี่ยวข้องได้ สุดท้ายสำนักงานจึงไม่สามารถทำการรับรองได้
 
          จางเผยว่า เนื่องจากงานประจำของเธอยุ่งมาก เธอจึงมอบหมายให้ทนายความรับเรื่องนี้ไปจัดการ จากนั้นทางธนาคารแจ้งว่า เธอจะถอนเงินจำนวนนั้นออกไปได้ก็ต่อเมื่อแสดงเอกสารที่ผ่านการรับรองโดยโนตารี หรือมีคำพิพากษาของศาล (เอกสารไกล่เกลี่ย) มาแสดงเท่านั้น ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือก จำต้องฟ้องคุณย่าที่แก่ชรา เพื่อขอให้ศาลยืนยันการรับมรดก

          จนกระทั่งผู้สูงวัยแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าจะสละสิทธิ์ในการรับมรดก ผู้พิพากษาจึงจัดให้มีการไกล่เกลี่ยกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อย่นเวลาในการดำเนินคดี ท้ายที่สุดภายใต้ข้อตกลงร่วมกันของ 2 ฝ่าย ศาลจึงออกคำสั่งไกล่เกลี่ย ยืนยันว่าเงินในบัญชีธนาคารของผู้เป็นพ่อ จะตกเป็นมรดกของลูกสาว จางจึงนำเอกสารไกล่เกลี่ยไปที่ธนาคาร และสามารถถอนเงินมรดกได้ในที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT


เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พ่อทิ้งมรดก 4.6 แสน แต่ลูกถอนไม่ได้ สุดวุ่นวายจนต้องยื่นฟ้องย่า แม้ไร้ปัญหาแย่งเงิน อัปเดตล่าสุด 14 พฤษภาคม 2568 เวลา 10:47:53 5,530 อ่าน
TOP
x close