ไฮโดรเจน คืออะไร
ทำความรู้จักพลังงานสะอาดแห่งโลกอนาคต
2. ไฮโดรเจนสีเทา (Grey Hydrogen) : ผลิตจากก๊าซธรรมชาติ ผ่านกระบวนการปฏิรูปมีเทนด้วยไอน้ำ (Steam Methane Reforming : SMR) และยังคงปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์รองลงมา
3. ไฮโดรเจนสีฟ้า (Blue Hydrogen) : ผลิตจากก๊าซธรรมชาติเช่นกัน แต่มีการดักจับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยี Carbon Capture and Storage : CCS เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
4. ไฮโดรเจนสีชมพู (Pink Hydrogen) : ผลิตผ่านกระบวนการแยกไฮโดรเจนออกจากน้ำ (Water Electrolysis) และพลังงานไฟฟ้าที่ใช้มีต้นกำเนิดมาจากพลังงานนิวเคลียร์
5. ไฮโดรเจนสีเขียว (Green Hydrogen) : รูปแบบที่สะอาดที่สุด ผลิตจากการแยกไฮโดรเจนออกจากน้ำ โดยใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% (เช่น แสงอาทิตย์, ลม) กระบวนการนี้ไม่มีมลพิษเลย อีกทั้งยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายภาคส่วน เช่น อุตสาหกรรม พลังงานขนส่ง และการผลิตไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม แม้ไฮโดรเจนจะมีศักยภาพสูงแต่ก็มีความท้าทาย เช่น ต้นทุนการผลิตสูง โดยเฉพาะไฮโดรเจนสีเขียวและสีฟ้า, ความยุ่งยากในการจัดเก็บและขนส่ง เนื่องจากเป็นก๊าซเบา จึงต้องใช้พื้นที่มากในการจัดเก็บ หรือต้องอัดความดันหรือลดอุณหภูมิให้ต่ำมากเพื่อลดพื้นที่ในการจัดเก็บ และความจำเป็นด้านความปลอดภัย ที่ต้องมีการควบคุมเข้มงวด
บทบาทของไฮโดรเจน
กับการช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ไฮโดรเจนถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยคุณสมบัติที่นำไปใช้งานได้หลากหลายในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ ปัจจุบันกว่า 30 ประเทศทั่วโลกมีการใช้เทคโนโลยีไฮโดรเจน และหลายประเทศได้ออกมาตรการส่งเสริมเพื่อเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมไฮโดรเจนในประเทศของตนเอง โดยเฉพาะในยุโรป สหรัฐอเมริกา และตะวันออกกลาง
ตัวอย่างการใช้พลังงานไฮโดรเจนในต่างประเทศ
- ประเทศเยอรมนี (Net Zero 2045) เปิดให้บริการรถไฟพลังงานไฮโดรเจนทดแทนรถไฟดีเซล วิ่งได้ราว 1,000 กม./ถัง
- ประเทศฝรั่งเศส (Net Zero 2050) บริษัท Pragma Industries ผลิตจักรยานพลังงานไฮโดรเจน และ Compagnie Fluvial de Transport ใช้เรือพลังงานไฮโดรเจนในการขนส่งสินค้า
- ประเทศญี่ปุ่น (Net Zero 2050) บริษัท Honda ทดสอบ Data Center พลังงานไฮโดรเจน และ ISUZU นำรถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจน (ISUZU GIGA FUEL CELL) มาทดลองวิ่ง เตรียมวางขายในปี 2027
2. ภาคการผลิตไฟฟ้า : ใช้เป็นเชื้อเพลิงโดยตรง หรือผสมกับก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าด้วยกังหันก๊าซไฮโดรเจน หรือผลิตไฟฟ้าจากเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิง
3. ภาคการขนส่ง : ใช้ในการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันปิโตรเลียมสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine : ICE) หรือใช้เป็นเชื้อเพลิงโดยตรงในรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle : FCEV) รวมถึงรถโดยสารและรถบรรทุก (Heavy Duty Long-Haul Vehicle)
นโยบายภาครัฐกับการส่งเสริมการใช้พลังงานไฮโดรเจน
ประเทศไทยมีแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการใช้ไฮโดรเจนที่สอดคล้องกับ 4 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ พัฒนาตลาดและสร้างแรงจูงใจ, ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา, พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และปรับปรุงกฎระเบียบและมาตรฐาน โดยแบ่งการดำเนินงานเป็น 3 ระยะ
- ระยะสั้น (2025-2030) : เตรียมความพร้อม เช่น พัฒนาโครงการนำร่อง, จัดทำมาตรฐานความปลอดภัย, ศึกษาโมเดลธุรกิจใหม่, ทดสอบและปรับปรุงระบบจัดเก็บและขนส่ง
- ระยะกลาง (2031-2040) : พัฒนาไฮโดรเจนเชิงพาณิชย์ในภาคพลังงาน เช่น ผสมไฮโดรเจน 5-10% ในท่อส่งก๊าซธรรมชาติเพื่อผลิตไฟฟ้า, ส่งเสริมการลงทุน และขยายสถานีไฮโดรเจน
- ระยะยาว (2041-2050) : มุ่งสู่ Carbon Neutrality และ Net Zero Emission เช่น ผสมไฮโดรเจน 10-20% ในท่อส่งก๊าซธรรมชาติ, พัฒนากลไกติดตามและประเมินผล, พิจารณาภาษีคาร์บอน และกำหนดมาตรฐานการขนส่ง FCEV และสถานีเติมไฮโดรเจน
กลุ่ม ปตท. กับความมุ่งมั่นในพลังงานไฮโดรเจน
ก้าวสำคัญสู่ Net Zero
กลุ่ม ปตท. มีความมุ่งมั่นผลักดันพลังงานไฮโดรเจนเพื่อเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสู่เป้าหมาย Net Zero และความมั่นคงทางพลังงานอย่างยั่งยืน โดยมีการติดตามและพัฒนาเทคโนโลยีนี้อย่างต่อเนื่องผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร
- ปี 2562 : จัดตั้ง Hydrogen Thailand Club โดยความร่วมมือระหว่างกลุ่ม ปตท. ภาครัฐ และเอกชน เพื่อเตรียมพร้อมและผลักดันการใช้ไฮโดรเจนในไทย ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 54 บริษัท
- ปี 2565 : กลุ่ม ปตท., OR, TOYOTA และ BIG ติดตั้งสถานีนำร่อง Hydrogen Station แห่งแรกของไทย ที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อศึกษาการใช้ไฮโดรเจนในภาคขนส่งของประเทศ
- ปี 2566 : ปตท.สผ. ชนะประมูลโครงการไฮโดรเจนสีเขียวในประเทศโอมาน และกลุ่ม ปตท. ร่วมกับ RINA พัฒนาการเผาไหม้ไฮโดรเจนในก๊าซธรรมชาติ พร้อมจัดตั้งห้องปฏิบัติการภายใต้สถาบันนวัตกรรม ปตท.
- ปี 2567 : ปตท., โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย และบีไอจี ร่วมยกระดับ Hydrogen Thailand Club เป็น สมาคมไฮโดรเจนแห่งประเทศไทย (Hydrogen Thailand Association) โดยอยู่ระหว่างกระบวนการถ่ายโอนสมาชิกจากคลับเข้าสู่สมาคมอย่างเป็นทางการ
- ปี 2568 : กลุ่ม ปตท. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาธุรกิจ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำ เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions
แนวทางการดำเนินงานในอนาคต (Way Forward)
- สนับสนุนข้อมูลแก่ภาครัฐ เพื่อพิจารณาการบรรจุไฮโดรเจนและแอมโมเนียไว้ใน พระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิง
- ศึกษาและประเมินผลกระทบ จากการผสมไฮโดรเจนในระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เพื่อเสนอข้อมูลทางเทคนิคสนับสนุนนโยบายพลังงาน
- ให้ข้อเสนอแนะด้านกฎหมายและความปลอดภัย ในการผลิตและใช้งานไฮโดรเจนอย่างเป็นระบบ
- ศึกษาความเป็นไปได้ ในการนำไฮโดรเจนมาใช้ภายในกลุ่ม ปตท. เพื่อส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างความมั่นคงด้านพลังงานอย่างยั่งยืน






