หญิงวัย 56 กินถั่วลิสงต้ม 1 กำมือทุกวัน ผ่านไป 6 เดือนเห็นผลลัพธ์ หมอยังประหลาดใจ บอกเลยมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ไม่ใช่จะเหมาะกับทุกคน

โดยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เว็บไซต์ Soha รายงานเรื่องราวของ นางหวัง หญิงวัย 56 ปี ซึ่งเป็นแม่บ้านที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการดูแลครอบครัว แต่เธอยังคงใส่ใจสุขภาพของตัวเองอยู่เสมอ มักติดตามข่าวสารต่าง ๆ ทางโซเชียลเพื่อเรียนรู้วิธีดูแลตัวเอง จนเมื่อครึ่งปีก่อนเธอได้อ่านข้อมูลเจอว่าการกินถั่วลิสงต้มนั้นดีต่อสุขภาพ จึงเริ่มกินถั่วลิสงในปริมาณเล็ก ๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เป็นเวลานาน 6 เดือน ที่นางหวังกินถั่วลิสงต้ม 1 กำมือทุกวัน จนไม่นานมานี้เธอเพิ่งไปตรวจสุขภาพประจำปี ผลลัพธ์ที่ปรากฏนั้นทำให้หมอประหลาดใจ เพราะทั้งค่าความดัน ไขมันในเลือด และระดับน้ำตาลในเลือด ล้วนออกมาดีมาก จนหมอยังบอกว่าผลเลือดของเธอดียิ่งกว่าคนวัยเดียวกัน
เมื่อสอบถามถึงวิธีการดูแลสุขภาพ ก็พบว่าหญิงรายนี้มักจะกินถั่วลิสง 1 กำมือทุกวัน ซึ่งหมอชี้ว่านิสัยเล็ก ๆ นี้เอง มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเธอ โดยหมออธิบายว่า ถั่วลิสงเป็นหนึ่งในถั่วที่มีสารอาหารมากที่สุด ทั้งมีโปรตีนสูง ไขมันดี วิตามินและเกลือแร่ ซึ่งไม่เพียงแค่จะช่วยให้ร่างกายเต็มไปด้วยพลังงาน แต่ยังดีต่อหัวใจและหลอดเลือด ระบบประสาท รวมถึงช่วยในเรื่องผิวพรรณ
"โปรตีนคุณภาพสูงในถั่วลิสงมีบทบาทสำคัญในการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ กับการฟื้นฟูระดับเซลล์ นอกจากนี้ กรดไขมันไม่อิ่มตัวในถั่วลิสงยังช่วยในเรื่องการชะลอวัยของผิวด้วย" แพทย์กล่าว
หมอระบุว่า ถั่วลิสงยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ เพราะอุดมไปด้วยแมงกานีส จึงช่วยเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ดูดซึมแคลเซียม และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ช่วยป้องกันโรคเบาหวานประเภท 2 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ถั่วลิสงยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถลดการอักเสบ ปรับปรุงการไหลเวียนเลือด เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันหัวใจและหลอดเลือด
อย่างไรก็ตาม แม้การกินถั่วลิสงเป็นประจำจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่หมอก็มีคำแนะนำในการกินที่ต้องระวัง ดังนี้
- อย่ากินถั่วลิสงมากเกินไป ควรกินแค่กำมือเล็ก ๆ ทุกวัน เพราะหากกินอย่างไม่ระวัง หรือหวังพึ่งถั่วลิสงเพื่อเสริมสร้างสุขภาพเพียงอย่างเดียว ทำให้ได้รับแคลอรีมากเกินไป และน้ำหนักขึ้น
- อย่ากินถั่วลิสงขึ้นรา เพราะจะมีสารพิษที่ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งตับ
- คนที่แพ้ถั่วลิสง ควรหลีกเลี่ยงการกิน
ขอบคุณข้อมูลจาก Soha






