เห็นตุ่มในมะเดื่ออบแห้ง สงสัยเป็นเชื้อราแน่ ๆ ด้าน อ.เจษฎา ตอบแล้ว มันคืออะไร อาจไม่ใช่สิ่งที่คิด
![ชูการ์บลูม ชูการ์บลูม]()
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Loupe Troae
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพมะเดื่ออบแห้งในกล่อง หลังจากมีตุ่ม ๆ ขึ้นมา มันคืออะไร ใช่เชื้อราหรือไม่ เพราะตอนซื้อใหม่ ๆ ยังไม่มีอะไรเลย
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 เฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ โพสต์ชี้แจงเรื่องนี้ว่า มันไม่ใช่เชื้อรา แต่เป็นชูการ์บลูม มีรายละเอียดดังนี้
เวลาที่เราพบ คราบขาวๆ บนขนมหวานที่มีไขมันสูง อย่างเช่น บนช็อกโกแลต (ที่มักเรียกกันว่า ช็อกโกแลตบลูม Chocolate bloom) นั้น คราบดังกล่าว มักจะเกิดได้ 2 ประเภท คือ คราบของไขมัน (หรือ แฟตบลูม fat bloom) ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของผลึกไขมันในช็อกโกแลต และ คราบของน้ำตาล (ชูการ์บลูม sugar bloom) ซึ่งเกิดจากผลึกที่ก่อตัวขึ้นจากการกระทำของความชื้นต่อน้ำตาล
คราบไขมันและคราบน้ำตาล ทำให้รูปลักษณ์ของช็อกโกแลตเสียหาย แต่ไม่ได้จำกัดอายุการเก็บรักษา ช็อกโกแลตที่มี "คราบขาว" ยังคงปลอดภัยที่จะรับประทานได้ (เนื่องจากเป็นอาหารที่ไม่เน่าเสียง่ายเพราะมีปริมาณน้ำตาลสูง) แต่อาจมีรูปลักษณ์และเนื้อสัมผัสที่ไม่น่ารับประทาน
ส่วนที่เราพบคราบขาว หรือตุ่มสีขาว ๆ บนผลไม้แห้ง เช่น กล้วยตาก หรือ มะเดื่ออบแห้ง นั้น มักจะเป็น "ชูการ์บลูม" ข้อสังเกตคือ เวลาสัมผัส ชูการ์บลูม จะรู้สึกเป็นผงแห้ง แต่ถ้าเป็น แฟตบลูม จะรู้สึกเป็นมันลื่น
ถ้าหยดน้ำลงไปบนชูการ์บลูม หยดน้ำจะสามารถละลายอนุภาคน้ำตาลขนาดเล็กบนพื้นผิวได้ แต่ถ้าใช้วิธีอุ่นพื้นผิวอาหาร เช่น เป่าด้วยเครื่องเป่าผมเบาๆ ชูการ์บลูมจะยังคงอยู่ ขณะที่ผลึกของแฟตนบลูม จะละลายหายไปได้
ชูการ์บลูม บนผิวของช็อกโกแลตหรือผลไม้แห้งนั้น เกิดจากการที่ได้รับความชื้น และทำให้น้ำตาลในช็อกโกแลตดูดซับความชื้นนั้นไว้ ก่อนที่จะละลายออกมา .. และเมื่อต่อมา ความชื้นได้ระเหยออกไป น้ำตาลจะก่อตัวเป็นผลึกขนาดใหญ่ขึ้น
ดังนั้น จึงควรเก็บรักษาอาหาร โดยควบคุมระดับของอุณหภูมิในการเก็บรักษาให้เหมาะสม ไม่ควรเก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงและมีความชื้นสูงด้วย
![ชูการ์บลูม ชูการ์บลูม]()
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jesada Denduangboripant

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Loupe Troae
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพมะเดื่ออบแห้งในกล่อง หลังจากมีตุ่ม ๆ ขึ้นมา มันคืออะไร ใช่เชื้อราหรือไม่ เพราะตอนซื้อใหม่ ๆ ยังไม่มีอะไรเลย
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 เฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ โพสต์ชี้แจงเรื่องนี้ว่า มันไม่ใช่เชื้อรา แต่เป็นชูการ์บลูม มีรายละเอียดดังนี้
เวลาที่เราพบ คราบขาวๆ บนขนมหวานที่มีไขมันสูง อย่างเช่น บนช็อกโกแลต (ที่มักเรียกกันว่า ช็อกโกแลตบลูม Chocolate bloom) นั้น คราบดังกล่าว มักจะเกิดได้ 2 ประเภท คือ คราบของไขมัน (หรือ แฟตบลูม fat bloom) ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของผลึกไขมันในช็อกโกแลต และ คราบของน้ำตาล (ชูการ์บลูม sugar bloom) ซึ่งเกิดจากผลึกที่ก่อตัวขึ้นจากการกระทำของความชื้นต่อน้ำตาล
คราบไขมันและคราบน้ำตาล ทำให้รูปลักษณ์ของช็อกโกแลตเสียหาย แต่ไม่ได้จำกัดอายุการเก็บรักษา ช็อกโกแลตที่มี "คราบขาว" ยังคงปลอดภัยที่จะรับประทานได้ (เนื่องจากเป็นอาหารที่ไม่เน่าเสียง่ายเพราะมีปริมาณน้ำตาลสูง) แต่อาจมีรูปลักษณ์และเนื้อสัมผัสที่ไม่น่ารับประทาน
ส่วนที่เราพบคราบขาว หรือตุ่มสีขาว ๆ บนผลไม้แห้ง เช่น กล้วยตาก หรือ มะเดื่ออบแห้ง นั้น มักจะเป็น "ชูการ์บลูม" ข้อสังเกตคือ เวลาสัมผัส ชูการ์บลูม จะรู้สึกเป็นผงแห้ง แต่ถ้าเป็น แฟตบลูม จะรู้สึกเป็นมันลื่น
ถ้าหยดน้ำลงไปบนชูการ์บลูม หยดน้ำจะสามารถละลายอนุภาคน้ำตาลขนาดเล็กบนพื้นผิวได้ แต่ถ้าใช้วิธีอุ่นพื้นผิวอาหาร เช่น เป่าด้วยเครื่องเป่าผมเบาๆ ชูการ์บลูมจะยังคงอยู่ ขณะที่ผลึกของแฟตนบลูม จะละลายหายไปได้
ชูการ์บลูม บนผิวของช็อกโกแลตหรือผลไม้แห้งนั้น เกิดจากการที่ได้รับความชื้น และทำให้น้ำตาลในช็อกโกแลตดูดซับความชื้นนั้นไว้ ก่อนที่จะละลายออกมา .. และเมื่อต่อมา ความชื้นได้ระเหยออกไป น้ำตาลจะก่อตัวเป็นผลึกขนาดใหญ่ขึ้น
ดังนั้น จึงควรเก็บรักษาอาหาร โดยควบคุมระดับของอุณหภูมิในการเก็บรักษาให้เหมาะสม ไม่ควรเก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงและมีความชื้นสูงด้วย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jesada Denduangboripant






