ทริปแสนสุขสู่โศกนาฏกรรม ครอบครัว 4 คนไปเที่ยวต่างแดน ถูกหามเข้า รพ. ดับสลดทีละคน เร่งสืบต้นตอจากอาหารเป็นพิษ หรือสารพิษในโรงแรม
![พ่อแม่พาลูกเที่ยว ช็อกถูกหามส่ง รพ. ดับ 4 ชีวิต พ่อแม่พาลูกเที่ยว ช็อกถูกหามส่ง รพ. ดับ 4 ชีวิต]()

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 เว็บไซต์ The New Zealand Herald อ้างอิงข้อมูลจากสำนักข่าว AFP รายงานกรณีสลดของครอบครัวนักท่องเที่ยว 4 ชีวิต ที่ต้องสงสัยว่าถูกสารพิษขณะอยู่ในอิสตันบูล ประเทศตุรกี เป็นผลให้ทั้งหมดเสียชีวิต โดยล่าสุดมีผู้ที่เกี่ยวข้องถูกจับกุมแล้ว 11 ราย
รายงานเผยว่า ครอบครัวนักท่องเที่ยว 4 คน จากเยอรมนี เดินทางมากพักผ่อนกันที่อิสตันบูล ก่อนที่จะล้มป่วยลงในวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หลังกินอาหารสตรีฟู้ดหลายเมนูบริเวณริมน้ำ ใกล้เชิงสะพานข้ามช่องแคบบอสฟอรัส ที่แบ่งโซนทวีปยุโรปและเอเชียของเมืองดังกล่าว
ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ลูกชายวัย 6 ขวบ และลูกสาววัย 3 ขวบ เสียชีวิตในวันต่อมา ขณะที่แม่เด็กเสียชีวิตในวันที่ 14 พฤศจิกายน ส่วน เซอร์เวต โบเชก ผู้เป็นพ่อนั้น มีรายงานว่าอาการสาหัส นอนรักษาตัวอยู่ใน ICU นานหลายวัน ก่อนเสียชีวิตในวันที่ 17 พฤศจิกายน
เดิมการสืบสวนโฟกัสไปกับข้อสงสัยเรื่องอาหารเป็นพิษ แต่จากนั้นกลับมีหลักฐานปรากฏว่าครอบครัวดังกล่าวอาจได้รับสารพิษจากยาฆ่าแมลงในโรงแรมที่เข้าพัก
โดยสื่อท้องถิ่นของตุรกี ระบุว่า มีการพ่นยาฆ่าแมลงในห้องพักบริเวณชั้น G ของโรงแรม เพื่อควบคุมการระบาดของตัวเรือด และยาฆ่าแมลงอาจแพร่กระจายไปถึงห้องพักของครอบครัวนี้ที่อยู่บนชั้น 1 ผ่านช่องระบายอากาศในห้องน้ำ
โรงแรมที่ไม่เผยชื่อตั้งอยู่ในย่านฟาติห์ ได้อพยพคนออกในวันเสาร์ (15 พฤศจิกายน) หลังมีแขกอีก 2 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการที่คล้ายกัน ซึ่งในวันต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดโรงแรมดังกล่าวแล้ว
รายงานระบุว่า ในบรรดาคนที่ถูกจับประกอบด้วย คนขายอาหาร 5 ราย เจ้าของโรงแรมและพนักงาน 2 ราย รวมถึงคนจากบริษัทกำจัดแมลง 3 ราย แม้ไม่ได้ระบุเวลาว่าทั้งหมดถูกควบคุมตัวเมื่อไร
ทั้งนี้ รายงานผลการตรวจพิษวิทยาที่จัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ คาดว่าจะทราบผลในเวลาต่อมา และจะมีรายงานการตรวจสอบตัวอย่างอาหารจากผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงเกษตรด้วย ขณะที่ประธานาธิบดีตุรกีย้ำว่ากองกำลังรักษาความปลอดภัยและอัยการ จะเป็นผู้นำการสืบสวนที่จำเป็นเพื่อระบุหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก The New Zealand Herald






