ไขปริศนา น้ำท่วมหาดใหญ่ หนักสุดรอบ 25 ปี นักวิชาการชี้ชัดเป็นเพราะอะไร ?

          นักวิชาการสิ่งแวดล้อมออกมาอธิบายปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิด น้ำท่วมหาดใหญ่ ครั้งใหญ่สูงสุดในประวัติการณ์ พร้อมชี้ว่าการบริหารจัดการน้ำยังเป็นจุดที่ต้องเร่งแก้ไข

น้ำท่วมหาดใหญ่
ภาพจากเฟซบุ๊ก Sonthi Kotchawat

          สถานการณ์ น้ำท่วมหาดใหญ่ ครั้งนี้ถูกมองว่าวิกฤตที่สุดในรอบหลายสิบปี หลังมีรายงานว่าภาคใต้ได้รับผลกระทบรุนแรงถึง 10 จังหวัด ประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก ล่าสุด นายสนธิ คชวัฒน์ อาจารย์ด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Sonthi Kotchawat โดยระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ น้ำท่วมหาดใหญ่ รุนแรง ครั้งนี้เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งภูมิประเทศที่เอื้อต่อการท่วมขัง ปริมาณฝนที่ผิดปกติจากสภาวะอากาศแปรปรวน และข้อจำกัดในการบริหารจัดการน้ำ ทำให้เกิดความเสียหายหนักกว่าทุกปี และกลายเป็นบทเรียนสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไขในอนาคต 

น้ำท่วมหาดใหญ่
ภาพจากเฟซบุ๊ก Sonthi Kotchawat

น้ำท่วมหาดใหญ่
ภาพจากเฟซบุ๊ก Sonthi Kotchawat

          โดยข้อความมีดังนี้ 

          ภาคใต้วิกฤติหนัก อ.หาดใหญ่ น้ำท่วม สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะอะไร?

     1. ภาคใต้วิกฤตหนักน้ำท่วมหนัก 10 จังหวัด ประชาชนเดือดร้อนถึง 560,000 ครัวเรือน ขณะที่จังหวัดสงขลาน้ำท่วมครบทุก 16 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนจากน้ำท่วมถึง 150,000 ครัวเรือนโดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 25 ปีจากปี 2543 สูญเสียเศรษฐ กิจมากกว่า 500 ล้าน

     2. สาเหตุน้ำท่วมใหญ่ที่อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา

          2.1. สภาพภูมิประเทศ เมืองหาดใหญ่สภาพพื้นที่ค่อนข้างต่ำเป็นพื้นที่ลุ่มลาดลงสู่ทะเลสาบสงขลา ทำให้น้ำไหลลงมารวมกันได้ง่ายและระบายออกได้ยากขึ้นกับน้ำในทะเลสาบสงขลา หากเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนน้ำจะระบายลงได้ยาก 

          นอกจากนี้ยังมีของอู่ตะเภาซึ่งเป็นคลองสายหลักยาว 116 กม. ไหลมาจาก อ.สะเดาผ่าน อ.หาดใหญ่ ไหลไปลงทะเลสาบสงขลาที่ ต.คูเต่า อ.บางกล่ำ และยังมีคลอง ร.1 หรือคลองภูมินาถดำริ ซึ่งเป็นคลองโครงการบรรเทาอุทกภัย สร้างมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวรัชกาลที่ 9 เป็นโครงการผันน้ำจากคลองอู่ตะเภาและน้ำที่ไหลมาท่วมตัว อ.หาดใหญ่ เพื่อให้ระบายลงสู่ทะเล สาบสงขลาโดยเร็ว คลองอู่ตะเภาและคลอง ร.1 ไหลจากทิศใต้ขึ้นไปยังทิศเหนือเพื่อให้น้ำลงสู่ทะเลสาบสงขลา 

          ขณะที่น้ำไหลลงมาจากเขาคอหงส์ อ.นาหม่อม และ อ.จะนะจะ จะไหลลงสู่คลองหวะ ด้านทิศตะวันออกซึ่งไหลต่อลงสู่คลองอู่ตะเภา นอกจากนี้ยังมีน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขานครศรีธรรมราชไหลลงสู่คลองต่ำและไหลไปลงคลองอู่ตะเภาที่ อ.หาดใหญ่ ทางด้านทิศตะวันตกด้วยเช่นกัน จะเห็นได้ว่าน้ำจากทุกทิศไหลลงสู่คลองอู่ตะเภา ซึ่งไหลผ่าน อ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ราบต่ำก่อนลงทะเลสาบสงขลาต่อไป

          2.2. สภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ฝนตกมากกว่าปกติ 

          ขณะนี้มวลความกดอากาศสูงหรืออากาศเย็นจากประเทศจีนได้แผ่ลงมากดร่องมรสุมความกดอากาศต่ำที่พัดพาดผ่านภาคกลางที่ทำให้เกิดฝนตกหนักลงมายังภาคใต้ใกล้ประเทศมาเลเซีย ประกอบกับเป็นช่วงสภาวะลานิญญาที่เพิ่มความชื้นในอากาศมากกว่าปกติ จึงทำให้เกิดฝนตกหนักมากใน 10 จังหวัดภาคใต้ ฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2568 รวมผลสะสม 3 วันได้ถึง 595 มม. ซึ่งมากกว่า ปี 2543 และ 2553 ซึ่งสูงสุดคือ 515 มม. ขณะที่เขาคอหงส์ อ.นาหม่อม ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 มีฝนตกมากถึง 365 มม. และฝนยังตกต่อเนื่อง น้ำทุกสายไหลลงมาสู่คลองอู่ตะเภา และล้นท่วมเมืองหาดใหญ่

          2.3. การบริหารจัดการน้ำ/ การคาดการณ์/การเตรียมการรับมือ/การแจ้งเตือนและการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทำได้ไม่ค่อยดีนัก

          การบริหารจัดการน้ำของประเทศไทยในปีนี้น่าจะอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าปกติมากเพราะเกิดน้ำท่วมหนักทั่วประ เทศครบทุกภาค ตั้งแต่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสานและลงมาภาคใต้ ทั้งที่ ทราบ อยู่ แล้วว่าปีนี้เป็นภาวะลานิญญาและเป็นช่วงที่อากาศแปรปรวนหนัก

น้ำท่วมหาดใหญ่
ภาพจากเฟซบุ๊ก Sonthi Kotchawat

น้ำท่วมหาดใหญ่
ภาพจากเฟซบุ๊ก Sonthi Kotchawat

          การแจ้งเตือนภัยพิบัติ ทำได้ล่วงหน้า 1-2 วันซึ่งได้มีการแจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcastได้ดีพอสมควร ทุกคนในพื้น ที่ได้รับข่าวสารแต่การเตรียมการรับมือ และการแก้ไขในภาวะวิกฤตยังถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานมาก ทุกวันนี้ที่ภาคใต้ได้เห็นคนติดอยู่บนหลังคาและยังไม่ได้รับอาหารและน้ำเป็นจำนวนมาก การช่วยเหลือยังทำได้ล่าช้า

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไขปริศนา น้ำท่วมหาดใหญ่ หนักสุดรอบ 25 ปี นักวิชาการชี้ชัดเป็นเพราะอะไร ? อัปเดตล่าสุด 24 พฤศจิกายน 2568 เวลา 11:33:33 8,600 อ่าน
TOP
x close