สรุปเหตุการณ์การปะทะไทย - กัมพูชา เข้าสู่วันที่ 2 (9 ธ.ค.) ปะทะเดือดตอนเช้า ระดมยิง BM-21 พื้นที่ซำแต, ภูผี, ช่องตาเฒ่า และปราสาทตาควาย
_1.jpg)
เฟซบุ๊ก Army Military Force
สรุปเหตุการณ์การปะทะไทย - กัมพูชา วันที่ 9 ธันวาคม 2568 กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงผลการปฏิบัติการทางทหาร ตอบโต้การปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายกัมพูชา มีการปฏิบัติการที่สำคัญ ได้แก่
1. การยิงทำลายตึกร้างที่ทำการเครือข่ายสแกมเมอร์ พื้นที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี
2. การยิงทำลายเสา Anti Drone พื้นที่พระวิหารและห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
3. การกวาดล้างสวนมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งรุกล้ำเส้นปฏิบัติการ บริเวณช่องระยี ทางทิศตะวันออกช่องจอม
4. การเข้าควบคุมปราสาทคนา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์
5. การยิงทำลายกระเช้าลำเลียงเสบียงเนิน 350 ปราสาทตาควาย
เวลา 04.50 น. BM-21 มาตามนัด เริ่มมีการปฏิบัติการทางทหาร พื้นที่ซำแต, ภูผี, ช่องตาเฒ่า และปราสาทตาควาย กัมพูชาจะถ่ายภาพทุกอย่างเพื่อฟ้องชาวโลก สถานการณ์ในพื้นที่ยังติดพันการรบ รายละเอียดจะรายงานให้ทราบต่อไป
05.40 น. สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงสถานการณ์บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดตราด บริเวณบ้านหนองรี ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด ซึ่งปรากฏชัดเจนจากภาพถ่ายทางอากาศล่าสุดว่ามีกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ในเขตอธิปไตยของไทยอีก ภายหลังที่บ้าน 3 หลัง ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างถาวรและฐานที่มั่นของฝ่ายทหารกัมพูชาถูกรื้อทำลาย รวมทั้งทหารกัมพูชาได้ถอนกำลังไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม กองกำลังทหารกัมพูชาได้ย้อนกลับมารุกล้ำอธิปไตยอีก รวมทั้งมีการเพิ่มเติมกำลังในพื้นที่ กรณีนี้ฝ่ายไทยได้ดำเนินการตามขั้นตอนตามหลักสากลจากเบาไปหาหนัก ทั้งการประสานแจ้งเตือน และการเจรจากับฝ่ายกัมพูชาในทุกระดับ เพื่อให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ของฝ่ายไทยโดยเร็ว
แม้ฝ่ายไทยจะใช้ความอดกลั้นและดำเนินการเจรจามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากกำลังทหารกัมพูชาจะไม่ถอนกำลังออกจากดินแดนของไทยแล้ว ยังมีการเสริมกำลังเพิ่มเติม เช่น ชุดรบพิเศษ พลซุ่มยิง จรวดหลายลำกล้อง รวมถึงปรับปรุงฐานที่มั่นสิ่งอำนวยความสะดวกทางยุทธวิธีในลักษณะที่กระทบต่ออธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน เช่น การขุดคูเลต การติดตั้งอาวุธหนัก และการใช้อากาศยานไร้คนขับเข้ามาลาดตระเวนในพื้นที่และที่ตั้งทางทหารของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางกองทัพเรือพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นท่าทีที่แสดงถึงการคุกคามต่ออธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน
ดังนั้น เพื่อรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ ตลอดจนความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ กองทัพเรือและหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นต้องใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อขับไล่กำลังทหารกัมพูชาออกจากดินแดนอธิปไตยของไทย ตามหลักการป้องกันตนเองสากล (Right of Self-Defence) และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยยังคงยึดมั่นในหลักการใช้กำลังตามความจำเป็นและได้สัดส่วน เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดและหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่อาจจะลุกลาม
เฟซบุ๊ก Army Military Force
เวลา 06.00 น. เข้าสู่วันที่ 2 หลายพื้นที่ปะทะต่อเนื่อง เมื่อมีแสงเริ่มมีเสียง ทหารไทยพร้อมปกป้องอธิปไตย
เวลา 06.40 น. กัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน กองทัพภาคที่ 2 จำเป็นต้องตอบโต้ตามกฎการปะทะ เพื่อทำให้ภัยคุกคามสิ้นสภาพการรบ และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ชายแดน
เวลา 07.00 น. ฟากกองทัพเรือ กัมพูชายิงก่อน พบกัมพูชาพร้อมอาวุธหนักเข้าประชิดชายแดน เปิดปฏิบัติการช่วงเช้าที่ผ่านมา






