ปราสาทตาควายเป็นของไทย พร้อมเผยเหตุผลทำไมต้องยึดเนิน 350 ให้ได้ เพราะเป็นพื้นที่สูงสำคัญ ใช้ควบคุมทัศนวิสัย แนวรบ และการเคลื่อนกำลังของฝ่ายตรงข้ามได้ทั้งหมด

กรณีปราสาทตาควาย เนิน 350 อยู่ท่ามกลางสมรภูมิ ระหว่างไทย-กัมพูชา ทำให้เกิดความเสียหายเกินคณานับ ซึ่งทั้งกัมพูชาและไทย ต่างอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของปราสาทตาควาย ถึงแม้คนโฟกัสที่ปราสาทตาควาย แต่จุดยุทธศาสตร์จริง ๆ กลับอยู่ที่เนิน 350 หากฝ่ายที่ยึดเนินนี้ได้ จะเปรียบเสมือนยืนอยู่บนหอคอยสูง สามารถมองเห็นทัศนวิสัยได้กว้างไกล ใช้เป็นฐานสังเกตการณ์ ควบคุมแนวรบ ชี้เป้า และสกัดกั้นการเคลื่อนพลของอีกฝ่ายได้ง่ายดาย
โหนกระแส วันที่ 19 ธันวาคม 2568 ดำเนินรายการโดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์ คุณกัน จอมพลัง, เพชร อึงชื่น ชาวบ้าน จ.สุรินทร์ , เกษม ยิ่งเชิดสุข ชาวบ้าน จ.สุรินทร์, สมเดช ลีลามโนธรรม ผู้อำนวยการกลุ่มโบราณคดีสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา
กันลงพื้นที่ยังไง ?
กัน : จริง ๆ เราอยู่ในพื้นที่ก่อนเกิดเหตุการณ์ครั้งแรก ทีมผมอยู่ 5 จังหวัด สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สระแก้ว อุบลฯ ไม่ได้อยู่แค่ตราดจังหวัดเดียว มีทีมประจำอยู่ 5 จังหวัด ผมเวียนไปดูหน้างานทุกจังหวัดว่าขาดอะไร แล้วก็ไปเติม น้อง ๆ มีหน้าที่ส่งของ ดูออเดอร์บางส่วน ส่วนการตัดสินใจใหญ่ ๆ ผมจะเป็นคนไปดู
การสู้รบยังมีอยู่ไหม ?
กัน : พื้นที่ภาค 2 กับ ภาค 1 มีทั้งสองที่ ทั้งสุรินทร์ ตรงพนมดงรัก ช่วงวันแรก ๆ เป้าหมายเดิมที่ทางกัมพูชาเคยยิงมาครั้งที่แล้ว รอบนี้เขาก็ยิงมาเหมือนกัน อย่างโรงพยาบาลพนมดงรัก ตกใกล้ ๆ โรงพยาบาลเยอะมาก รอบ ๆ โรงพยาบาลยิงมาในส่วนเป้าหมายเดิม บังเกอร์เราเตรียมไว้ในโรงพยาบาลหลายจุด ก็เข้าไปหลบกัน รอบนี้เราเตรียมตัวค่อนข้างดี มีการรักษาพยาบาลผู้ป่วยอยู่ข้างในจริง ๆ ด้วยนะ ตอนปูพรมเข้ามา มีผู้ป่วยอยู่ในโรงพยาบาลจริง ๆ ฉุกเฉินจริง ๆ ก็เอามารักษาไว้ในบังเกอร์นี่แหละ มีพัดลม มีห้องน้ำ มีน้ำใช้ ทุกวันนี้คนอยู่ได้จริง ๆ แต่บริเวณใกล้เคียงสระแก้วก็ยังมีอยู่ค่อนข้างหนัก
ล่าสุดมาจากไหน ?
กัน : สระแก้ว เมื่อคืนที่หนองจานก็มีทหารจากไป 1 ท่าน หนองจาน หนองหญ้าแก้ว เราเต็มเหนี่ยวได้อยู่ แต่บึงตะกวนค่อนข้างหนัก เราเข้าไปรอบแรก หลังจากนั้นเขาปูพรมเข้ามา เราต้องวางแผนกัน ผมทำบังเกอร์อันนึงซึ่งเป็นบังเกอร์พิเศษ ไม่เคยเปิดรูปเลย เก็บไว้ก่อน รุ่นหนึ่งจะเป็นรุ่นใหญ่ ป้องกันการปูพรม ใช้ในหลายพื้นที่ ตัวใหม่ที่ทำยังไม่เคยเปิดเลย เหมาะกับพื้นที่ที่ยึดได้ใหม่ เพราะเราไม่มีเวลาไปสร้างแบบนี้หรอก วันนี้อาจเป็นวันที่แอ็กชั่นกัน แต่ช่วงเวลาสุดท้าย สมมติอีก 3 ชั่วโมง หยุดยิง นั่นแหละของจริง เป็นช่วงที่เราต้องอยู่ในนั้นให้ได้ รอบที่แล้วจะเสียยังไง สละยังไงก็แล้วแต่ เขาต้องอยู่ตรงนั้นให้ได้ เพื่อเอาพื้นที่ ผมเชื่อว่ารอบนี้ทุกคนตั้งเป้าแบบนี้ เลยมีการเบิกบังเกอร์เข้าไปตอนนี้ 130 อันแล้ว เราผลิตในช่วงเวลา 6 วัน ระดมช่างเชื่อมจากทั่วประเทศมาร่วมกัน กินนอนเชื่อมกัน 30-40 คน เพื่อเร่งผลิตกันออกไป กระจายไปสู่หน้าแนวค่อนข้างเยอะแล้วครับ
พี่เพชรเป็นชาวบ้านในสุรินทร์ ?
เพชร : อยู่ในพนมดงรักเลย เขาปะทะกันตลอดหนักมากครับ อยู่ตรงกลางระหว่างเขาปะทะ อยู่ในหลุมหลบภัย ต้องหนีกัน ชาวบ้านเดือดร้อนมาก ฝั่งโน้นมันแกล้งประจำ ไม่ให้ไปดูพื้นที่ของมัน มันไม่ให้ไปใกล้เลย มองยังไม่ได้ เวลาเราไปปราสาทตาควาย ดูไม่ได้เลยฝั่งมัน
นี่คือก่อนหน้าที่ฝั่งไทยจะเอามา นานแค่ไหน ?
เพชร : หลังปี 54
เดินไปตรงตาควาย มันไม่ให้มอง มันทำไง ?
เพชร : มันให้ออกไป ๆ ทั้งที่เราก็ว่ามันคือของเรา ผมเคยขึ้นไปตอนปี 2542 อยากเห็น ก่อนหน้านั้นเรียกปราสาทตาวาย ไม่ใช่ตาควาย
หรือควายไปยึดแถวนั้น ควายจริง ๆ นะ ไม่ได้ว่าใคร ?
เพชร : (หัวเราะ) อยากรู้ว่ามันอยู่ตรงไหนกันแน่ เพราะไม่มีทางเข้า ผมก็พาคณะไป ไปขอร้อง คุยกับตชด. ให้พาเดินเท้าไป โดยเราไม่รู้เส้นทาง ตชด.ให้เดินตาม ไต่เขาไป บางทีเป็นห้วย บางทีเป็นเขา เราก็ไต่เถาวัลย์ก็ไต่ไป ใช้เวลาชั่วโมงเศษ พกอาหารไปตามทาง ไปดูก็ปรากฏว่าเป็นปราสาทจริง ๆ แต่มันรกมาก สอบถามเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่าที่มันดูโล่งเพราะนายพรานเข้าไปพัก

ภาพที่เห็นคือปีอะไร ?
เพชร : ปี 42 ครับ
ท่านผมเข้าไปปีไหน ?
สมเดช : ปี 45 ครับ
หลังจากคุณเพชรอีก จากนั้นยังไงต่อ ?
เพชร : จากนั้นได้ยินว่ากรมศิลป์ไปสำรวจ ทางอบต.ก็เริ่มสร้างทาง
มีทหารเขมรมาคุมเชิงอยู่ไหม ?
เพชร : ไม่มีเลย ป่ารกเลย
ถ้าชาวบ้านไม่ไปเจอก็จบ ก็อยู่ในนั้น นี่คือที่มาของตาวาย หรือตาควาย ปี 42 พี่เพชรไปเจอก็ทิ้งร้างไว้อย่างนั้น สำรวจอะไรอีกไหม ?
เพชร : ไม่ได้ไปเลย จบแค่นั้น
ตัวพี่เกษมล่ะ ?
เกษม : ผมเข้าไปปี 44 มีรูปด้วยครับ เข้าไปก่อนศิลปากรจะเข้าไป ตอนอายุ 27 ปีที่เข้าไป ในรูปเป็นสมาชิกอบต.ด้วยกันทั้งหมด

พี่ไปทำอะไรที่นี่ ?
เกษม : มีชาวบ้านบอกพบปราสาท ก็เลยเข้าไปสำรวจ ตอนนั้นเป็นสมาชิกอบต.ด้วย อยากทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว
เจอแล้วสภาพเป็นไง ?
เกษม : สภาพปราสาทดู ๆ ก็ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ รก มีเครือมีอะไรพันอยู่ข้างบน ไม่มีถนนหนทาง
เขายืนยันว่าเป็นป่าเถาวัลย์รกร้าง ไม่มีทหารเขมรยืนคุมอยู่ที่นั่น เหมือนชาวบ้านไปหาของป่าแล้วไปเจอกัน เขามีการแจ้งเข้ามา ทางอบต.ก็เลยไปสำรวจ ซึ่งก็ยังไม่มีทาง แล้วทางเข้าตอนไหน ?
เกษม : ปี 54
พอสองท่านไปเจอเรียบร้อย เรื่องถูกส่งมาที่ผอ.ศิลปากร ตอนนั้นท่านได้รับแจ้งยังไง ?
สมเดช : ทางกองร้อยตำรวจตะเวนชายแดนที่ 215 มีหนังสือไปที่สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมาว่าพบโบราณสถานในเขตพื้นที่ไทย-กัมพูชา ตอนเราเข้าไป ตอนนั้นเขาเรียกชื่อว่าปราสาทตาควายแล้วครับ
ปี 42 เป็นตาวาย ปี 45 เป็นตาควาย แล้วเปลี่ยนตอนไหน ?
เพชร : ผมก็ไม่ทราบเลยตอนนั้น ตอนแรกยังงง ว่าทำไมถึงเปลี่ยนตาควาย
สมเดช : ตอนที่ศิลปากรเราได้รับทราบ เป็นหนังสือแจ้ง ตอนนั้นที่เข้าไปสำรวจ เรารู้ว่ามีการเรียกชื่อปราสาทแห่งนี้ว่าปราสาทตาควายตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เราเข้าไปสำรวจกับตชด.
ท่านไปเองเลย ?
สมเดช : ใช่ครับ สภาพค่อนข้างรก เดินไปเป็นชั่วโมงตอนนั้น ตชด. นัดกับเราว่าไปพบกันตรงจุดนี้ เราเดินเท้าเข้าไป ใช้เวลาเป็นชั่วโมง รกมาก อย่างรูปที่เห็นตัวปราสาทก่อนเกิดความขัดแย้ง ตัวปราสาทยังคงสภาพอย่างที่เราเห็น แต่พื้นที่โดยรอบค่อนข้างรก เป็นป่าคลุมหมดเลย ตอนเราเข้าไปสำรวจ มีแค่ของเราเท่านั้น ไม่ได้มีคนเขมร ตอนเราเข้าไปไม่เจอใครเลย มีแต่กลุ่มเราที่เข้าไปสำรวจ
กัน : อย่างภาพที่เห็น มีการขึ้นไปอยู่บนนี้ ถ้าทหารเขมรอยู่ เขาไม่ให้ขึ้นหรอก เขาไล่แน่นอน
ตอนนั้นไม่มีใครจริง ๆ ?
สมเดช : ไม่มี หลังเกิดความขัดแย้งปี 54 เลยมีการตั้งกำลังทั้งสองฝ่ายอยู่ที่ตัวปราสาท
ตอนปี 45 เริ่มบูรณะหรือยัง ?
สมเดช : ยังครับ ตอนนั้นที่เราเข้าไปสำรวจ เราก็บันทึกทางวิชาการไว้ว่าเป็นปราสาทหลังนี้ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ หลังจากนั้นพอเกิดความขัดแย้งปี 54 พอทางศิลปากรเข้าไปอีกที ก็จะเห็นว่ามีกำลังทั้งสองฝ่ายประจำอยู่ที่ตัวโบราณสถานแล้ว
มันเข้ามาตอนไหน ?
เกษม : หลัง 54 หลังมีถนนเข้าไปแล้ว มันแสดงความเป็นเจ้าของด้วยปี 54
เชื่อว่าตอนแรกมันไม่รู้ว่ามีปราสาท แต่พอเขาไปทำถนนเท่านั้นแหละ มันรู้ มันก็เข้าเลยในปีเดียวกัน ตอนแรกมันยึดครองหรือยังปี 54 ?
เกษม : ยัง ๆ แค่เข้ามาทั้งสองฝั่ง
จากนั้นเป็นยังไง ?
เกษม : ก็เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลังจากนั้น แต่มันไม่ให้คนไทยไปมองข้างหลัง ถ้าเดินล้ำไปมันจะห้ามเลย ไม่ให้
ผอ. เข้าไปบูรณะปี 54 ?
สมเดช : เข้าไปสำรวจ หลังจากนั้นศิลปากรก็เข้าไปดูเป็นระยะ แต่อย่างที่ผมเรียน หลังปี 54 มา เราเห็นชัดเจน พอเราเข้าไปปุ๊บ มีเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายอยู่ประจำทั้งสองฝ่าย
กัน : มีปฏิกิริยาอย่างนึงของตาควายหรือตาเมือนธมต่าง ๆ คือเวลาเจ้าหน้าที่ไปทำอะไร มันจะไม่ยอมเลย เข้าใจเรื่องทำงาน อาจทำงานยาก จะขยับไปทำอะไร คนเยอะขึ้นอาจมีปัญหา นิด ๆ หน่อย ๆ ก็มีปัญหา แม้แต่นักท่องเที่ยวเราไป นิด ๆ หน่อย ๆ มันก็จับจ้อง อย่างที่บอกตอนที่พี่ ๆ เขาเข้าไป ถ้ามีทหารอยู่ ไปถ่ายรูปแบบนี้ไม่มีทางทำได้ เพราะมันไม่ยอมเลย
ถ้าตามแผนที่เส้นแบ่งเขต 1 ต่อ 5 หมื่นตามสากลเป็นของเรา แต่เขาพยายามอ้าง 1 ต่อ 2 แสน ซึ่งมันจะกินมาของเรา แต่ก็ต้องย้อนกลับไปดูเหมือนกัน ณ เวลานั้นทำไมคุณไม่เข้าไปทำอะไรเลย ถนนคนไทยเป็นคนทำไหม ?
เพชร : ทหารนี่แหละเป็นคนทำ
พอทหารทำเสร็จ มีถนน มันลงมายึดครองเลย กรมศิลปากรได้บูรณะไหม ?
สมเดช : ยังครับ เราเข้าไปบันทึกจัดทำข้อมูลไว้ครับ
ที่พูดถึงตาควาย เพราะเป็นจุดพิพาทหนักมาก ด้านบนคือเนิน 350 เนินนี้สำคัญ ใครยึดเนินตรงนี้ไว้ได้ เหมือนเราได้ตาควาย บางคนอาจไม่เข้าใจไม่เห็นภาพ มีทหารพลีชีพตรงนี้ ล่าสุดก็ 2 นาย เป็นเรื่องสะเทือนใจคนไทยทุกคน หลายคนก็สงสัย ปราสาทตาควาย ถ้าอยู่ท่ามกลางแนวกระสุน ต่อไปต้องทำยังไง ตกลงเป็นของใครกันแน่ กันเคยลงพื้นที่ตรงนี้ ?
กัน : ตาควายผมจะซัพพอร์ตทีมอยู่บริเวณรอบเยอะเลย หลายทีม มีน้อง ๆ ทำงานอยู่ตรงนั้น ได้เห็นข้อมูล ได้เห็นภาพต่าง ๆ ค่อนข้างเยอะ วันแรก ๆ เราเคยคุยกันว่า เขมรมันเข้าไปอยู่ในนี้ เอาจุดตรงนี้มาเป็นที่ใช้โจมตีทหารไทย เหมือนเอามาเป็นบังเกอร์ ทำคอนเทนต์ ทำกับข้าวข้างในปราสาท เอาภาพมาลงเฮฮาสนุกสนาน แรก ๆ เรายิง ตรงโน้นก็เอาไปโจมตีว่าเราไปทำลายโบราณสถาน ผมเชื่อว่ารอบนี้คนไทยหลายคนออกมาบอกว่าถ้าเขมรใช้โบราณสถานเป็นที่หลบภัยแล้วโจมตีทหารไทย ให้จัดการไปเลย แล้วมันสอดคล้องกับกรมศิลป์พูดว่า สามารถซ่อมแซมได้ แต่ขอให้ยึดพื้นที่กลับมา ตอนนี้สภาพอาจไม่ได้เป็นแบบนี้ มันพังออกไป แต่รูปทรงยังพอมีอยู่บ้าง สภาพต้องถามคนซ่อม (หัวเราะ) ว่าสามารถซ่อมได้มากน้อยขนาดไหน แต่ผมเคยเดินทางไปตามปราสาทต่าง ๆ ก็เป็นซากปรักหักพังเหมือนกัน แต่กรมศิลป์บูรณะกลับมาได้ ตาควายถึงเป็นแบบนี้ ผมก็เชื่อว่าเขาทำได้ แต่ต้องถามคนทำ หลายคนบอกว่าทำไมต้องทำให้พังเละเทะแบบนี้ รอบนี้ทหารไทยตัดสินใจถูกนะ ให้อยู่กับเราในสภาพแบบนี้ ประเทศไทยก็สามารถบูรณะกลับมาเป็นสภาพเดิมได้ แต่สภาพเดิมอยู่กับเขมร เขมรก็ไม่สามารถทำให้มันดีขึ้นได้ มีแต่ทำให้แย่ลง เหมือนปราสาทก่อนหน้านี้ ที่เขมรถืออยู่ เขาก็ดูแลไม่ได้ มีแต่ถอยหลังลง ๆ อีกอย่าง ถ้าเขมรยึดไป สำหรับผมนะ มันก็เป็นแค่ก้อนหิน ไม่มีความหมายสำหรับเรา แต่วันนี้ไทยเอากลับมาได้ ผมเชื่อว่าไทยจะทำได้อย่างดีมาก การที่เราไม่หวงพะวักพวงกับปราสาท มันเซฟชีวิตเจ้าหน้าที่ได้เยอะมาก ถ้าเราบอกว่าเข้าตีแต่อย่าทำให้ปราสาทเสียหาย ผมเชื่อว่าจะมีคนสูญเสียมากกว่านี้ ผมเชื่อว่าวันนี้ทหารไทยตัดสินใจได้ถูกมาก ผมชื่นชมเรื่องนี้

ตาควายไปอยู่บริเวณเส้นแบ่งเขตพอดี ว่าเขาล้ำเราเข้ามา หรือเขากล่าวหาเราล้ำเขาเข้าไป มันก็เป็นข้อพิพาท ไทยเองก็มั่นใจว่าตาควายเป็นของเรา เขมรก็ใช้เส้นแนวเขต 1 ต่อ 2 แสน บอกเป็นของเขา ก็ดึงกันอยู่อย่างนี้ เวลารบถามว่าทำไมตาควายต้องพังทลายแบบนั้น เพราะเขาอยู่ตรงกลางระหว่างเส้นแนวเขต เราก็อ้างสิทธิ์ของเรา เขาก็อ้างสิทธิ์ของเขา แต่ประเด็นอยู่ตรงนี้ ทหารเขมรเองใช้ปราสาทตาควายเป็นป้อมปืน มันเอาปืนไปอยู่ในปราสาท แล้วตั้งเป็นบังเกอร์ ยิงทหารไทย ทหารไทยรู้สึกว่าถ้าคนไทยเองไม่ทำแบบนี้ ก็ไม่จบ สุดท้ายก็ต้องถล่มกันแบบนี้ ส่วนเรื่องการบูรณะ เดี๋ยวไปคุยกันในขั้นตอนว่าจะบูรณะได้หรือไม่ได้ แต่กรมศิลป์ยืนยันก่อนแล้วว่าเขาทำได้ กรณีนี้มีเรื่องเนิน 350 มีความสำคัญอะไรยังไง ?
กัน : มันมีความสูงกว่า มีความได้เปรียบ ฐานหลักฐานใหญ่ของมันอยู่บนเนิน 350 มีคนอยู่ตรงนั้นหลายร้อย เขมรทำฐานที่นั่นอย่างดี ถ้าสมมติวันนี้เรายกระฆังหยุด เราได้ตาควาย เขมรอยู่ 350 ผมคิดว่าสักวันก็ต้องเกิดลักษณะแบบนี้อยู่ดี ๆ เขมรอยู่สูงกว่า ได้เปรียบกว่า เขาจะเตรียมตัวเพื่อเอาปราสาทตาควายคืน ผมเชื่อว่าเขาไม่มีทางปล่อยหรอก วันนี้เราไม่ได้เข้าตีเขมรอย่างเดียวนะ เขมรก็เข้าตีเราด้วย เราอิงเส้นเรา เขมรก็อิงเส้นตัวเองพยายามตีเราด้วยเช่นเดียวกัน ฉะนั้นวันนี้ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็ต้องเอาในทางของเรา เดี๋ยววันหน้าจะยังไงก็ค่อยว่ากัน เนิน 350 เลยมีความสำคัญ ถ้าวันหน้าเขาซ่องสุมกำลังได้ดี เขามีการเตรียมตัว เขาก็อาจกลับมาเล่นเราตรงปราสาทตาควายใหม่ ฉะนั้นถ้าเราเบ็ดเสร็จเด็ดขาดตรงเนิน 350 ได้ ผมเชื่อว่าวันหน้าเขาก็ไม่กล้า ไม่มีจุดไหนที่เขาได้เปรียบตรงนี้เลย และผมเชื่อว่าทหารไทยมีฝีมือมากพอ เอาเนิน 350 มาได้แน่นอน
พี่เพชรล่ะ ?
เพชร : เนิน 350 เป็นเนินสูง จะมีช่องนึงคือช่องกร่าง เป็นทางที่สามารถเดินได้สะดวกที่สุด ฉะนั้นเขมรเลยพยายามโจมตีช่องกร่างให้ได้ ถ้าโจมตีได้เขาก็จะขึ้นมาได้ และสามารถนำรถขับมาได้เลย ถ้าเข้ามาก็เป็นการโอบล้อม 350 ได้ สามารถไปปราสาทตาเมือนธมได้
เขมรพยายามยึดตรงนี้ เพราะมันออกขวาได้ ซ้ายได้ ยิงถล่มได้เลย ?
เพชร : มันเอารถถังขึ้นได้

ตอนนี้เป็นของใคร ?
เกษม : เป็นของไทย เราก็ต้านอยู่ตลอด มีฐานทหารของเขาอยู่ตรงนั้นด้วย
เพชร : ช่องนี้แต่ก่อนก็เป็นการค้าขายด้วยกัน เปิดเฉพาะวันศุกร์ขายของ เพิ่งหยุดไปปี 54
ทหารเขมรเข้าไปทางไหน ?
เพชร : ทำสะพานขึ้นมา
กัน : ความทะเยอทะยานของเขมรสูงมาก พวกผมไปเจอมาหลายที่แล้ว เขมรเอาสะพานเป็นพัน ๆ ขั้น แปะจากริมหน้าผา แล้วเดินกันขึ้นมาเป็นพัน ๆ ขั้น เพื่ออยากอยู่บนพื้นที่ของไทย ถ้าเป็นพื้นที่ตัวเอง อยู่ดี ๆ จะขึ้นมาสูงขนาดนี้ได้ไง มันแบ่งชั้นกันชัดเจน ตัวเองแค่อยากมาเอาที่ของเขา แค่นั้นเอง
มีมุมมองว่าตกลง 350 ไทยได้หรือยัง ก็ต้องบอกว่าได้มาส่วนนึง แต่บนเนินยังไม่ได้ ก็ยื้อกันอยู่อย่างนี้ ยังไงซะเราต้องเอาให้ได้ หลายคนบอกว่าเอ๊ะ ทำไมไม่เอา F-16 บินถล่มเลย เดี๋ยวต้องฟัง ข้างบนเหมือนถ้ำ เขา เป็นรู เป็นโพรง เวลา F-16 ไปทหารเขมรมันไปหลบอยู่ข้างใน ?
กัน : มีการเจาะหินด้วย
เกษม : ตัวหลังปราสาทตาควาย มีหินเยอะ จะทำเป็นบังเกอร์ ทำอะไรก็ได้
กัน : 350 มันเตรียมตัวมาดี มันเตรียมตัวมานานแล้ว มันทำฐานทำอะไรเป็นปูนอย่างหนา ทำดีเลย ระหว่างเราอัดกับมัน มันก็พยายามขุด พยายามเจาะพัฒนาฐานอยู่เรื่อย ๆ มันป้องกันการหย่อนไข่ การปูพรมของเรานี่แหละ มันค่อนข้างเตรียมตัวดี มันเตรียมพร้อม
มันขุดรูทำไม ?
กัน : มันหลบ บางทีเจอจังหวะซอกหิน คนลงไปอยู่ได้ก็มี มันอาจจะเล็ดลอดอยู่ได้ ตอนนี้มันก็พยายามพัฒนาให้หลบพวกหย่อนไข่ได้
มันเลยทำเป็นป้อมปราการไว้หลบภัย หมกตัว เวลาเครื่องบินไป ทิ้งไข่ไปก็ไม่ถึงมัน ?
กัน : มันเป็นทหารเขมร มันติดคอนเทนต์ ชอบเอาภาพออกมาให้ดูว่าฐานมันพัฒนาแบบไหน เราก็เก็บข้อมูล ดูภาพ ก็เห็นว่ามันพัฒนาไปค่อนข้างเยอะ แต่ผมเชื่อว่าไม่เกินมือ หน้าแนวยังมีแก้เกมอยู่เรื่อย ๆ ผมว่าเอาอยู่
บนเนินนี้มันสูงไหม ?
เพชร : สูงมากเป็น 100 เมตร บางทีลึกกว่า 100 เมตร อย่าลืมว่าเขมรเขาเป็นทหารบ้านเก่าเขาชำนาญพื้นที่กว่าเรา พวกนี้ทำมาหากินแนวชายแดน หาของป่า ตัดต้นไม้ ชำนาญพื้นที่ เขารู้หมดว่าตรงไหนเป็นยังไง แต่เราไม่ได้ขึ้นไป เขาเอาตรงนั้นมาพัฒนาเพื่อต่อสู้กับเรา ตรงไหนเป็นจุดแข็งของเขาก็ขึ้นมาทำเพิ่มเติมให้มันแข็งแรง เราถึงทำได้ยาก
กัน : เขมรส่วนใหญ่ทำไม้ ฐานอาจมีลูกมีเมียมาอยู่ด้วย ทำมาหากินอยู่ตรงนั้นเลย พวกเก๋าเกมอายุเยอะแล้ว ความสดค่อนข้างเสียเปรียบทหารไทยค่อนข้างเยอะ มีแต่ความเก๋ากับความชำนาญ ความสดเราสดกว่าเยอะ ฝีมือเทคโนโลยี สดกว่าเยอะ
ทางยุทธศาสตร์แล้ว มันอยู่ข้างบน เวลายึดคืน มันยิงถล่มลงมาใช่ไหม ?
กัน : มันอยู่ข้างบน ความยากคือเราต้องเข้าตีมัน แต่มันตั้งรับ มันเตรียมตัวไว้ระดับนึงแล้ว ล่าสุดเรามีการสูญเสีย แต่ผมเชื่อว่าการสูญเสียของทั้งสองท่าน จะเป็นแรงผลักดันให้คนที่ยังอยู่ เป็นบทเรียนให้เราเรียนรู้ว่ารอบต่อไปจะเป็นยังไง สองท่านที่ไป ผมว่าไม่สูญเปล่า ตอนนี้เขมรมีการทำคอนเทนต์กับทหารเรา ผมต้องบอกว่าทหารเขมร การที่ท่านทำคอนเทนต์ออกมาแบบนี้ ผมเชื่อว่าพี่น้องหลายคนที่คุยไม่ได้รู้สึกว่าเสียขวัญกำลังใจ ท่านทำอย่างไรตอนจบท่านอาจถูกกระทำอย่างนั้นนะ ท่านปฏิบัติกับคนของเราที่จากไปอย่างไร ท่านก็จะถูกปฏิบัติเช่นเดียวกัน ในมุมคนอยู่เคียงข้างทหาร พี่น้องประชาชน ผมเชื่อว่าคนปฏิบัติหน้างาน มีภาพลักษณะแบบนี้เยอะ แต่คนไทยเรามีเรื่องของมนุษยธรรมพอจะไม่ปล่อยภาพลักษณะแบบนี้ออกมา แต่เขมรเอาภาพลักษณะนี้ไปเยาะเย้ย ถากถาง ส่วนตัวผมเอาแบบนี้ออกมาให้เขมรดูบ้างก็ดีเหมือนกัน ส่วนตัวผมนะ ถ้าคุณจะเล่นสงครามจิตวิทยา ผมว่าบ้านเราก็ควรใช้สงครามเชิงจิตวิทยาเหมือนกัน ถ้าวันนี้มันจะเล่นสงครามจิตวิทยาเราก็ต้องเอาบ้าง ดูอย่างยูเครน รัสเซีย ภาพสุดท้ายมันทัชใจหลายคนนะ เวลามันไปจ่อนาทีสุดท้าย ทหารฝั่งตรงข้ามจะทำยังไง บางคนพนมมือ ร้องโอดครวญวิ่งหนี เขมรทำคอนเทนต์เราก็ควรเอาบ้าง เพื่อให้รู้ว่าคุณอย่าทำแบบนี้
เขมรเองไม่ยอม หลังเรายึดได้แล้ว มันก็ตีเข้ามา จนทหารเราสองนายพลีชีพไป ตราบใดที่เรายังไม่ได้ 350 ร้อยเปอร์เซ็นต์ มันก็จะมีแบบนี้เรื่อย ๆ ต่อให้ตอนนี้สงบ แต่ถ้า 350 อยู่กับมัน มันก็จะกลับมาอีก เผลอ ๆ สงบไป เราบูรณะตาควายขึ้นมาใหม่เรียบร้อย มันก็กลับมาถล่ม พังอีก ?
กัน : ต้องเอาตรงนี้ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ถ้าเขาไม่มีจุดที่เขาได้เปรียบ เขาก็หมดสิทธิ์ขึ้นมาลุยเล่นกับเราแล้ว
สภาพตาควายเป็นแบบนี้ จะบูรณะไหวเหรอ ?
สมเดช : ตาควายเป็นโบราณสถานที่สร้างด้วยหินเป็นวัสดุหลัก วิธีการซ่อมแซมบูรณะของกรมศิลปากรโบราณสถานประเภทนี้ คือเราพยายามคืนสภาพดั้งเดิมของโบราณสถานที่มีสภาพเป็นซากปรักหักพัง อย่างปราสาทหลังอื่น ๆ ที่เราเคยบูรณะมา ก็จะมีสภาพคล้าย ๆ แบบนี้ หินส่วนยอดตกลงมา เราก็ซ่อมกลับคืนไป พยายามเอาหินที่ตกลงมา เอากลับไปเรียงตำแหน่งเดิม การกลับไปเรียงตำแหน่งเดิม ต้องมีการสำรวจ ทำผัง ทำการวิเคราะห์ว่าหินที่ตกลงมา เดิมเขาอยู่ตรงไหน มีการทดลองประกอบหิน นำกลับไปเรียงตำแหน่งเดิม นอกจากที่เราต้องเอาหินกลับไปเรียงตำแหน่งเดิม เราพบว่าโบราณสถานประเภทนี้ ระบบการทำฐานรากของเขา ตั้งแต่อดีต อาจมีข้อบกพร่อง หลายที่เรามีการทำฐานรากใหม่ อย่างแบบนี้ เดิมอาจถมด้วยทรายอัดแน่น แต่การบูรณะของเรา เพื่อให้โบราณสถานมีสภาพแข็งแรง เราก็ทำฐานใหม่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กรองรับไป การทำฐานใหม่คือเราต้องถอดหินทุกชิ้นออกมาก่อน เพื่อทำฐานรากใหม่ แต่การเอาหินออกมา เราต้องทำผังไว้หมดแล้ว ว่าหินก้อนนี้เดิมอยู่ตำแหน่งไหน พอรื้ออกมาทำฐานใหม่ ก็เอาไปประกอบกลับเหมือนเดิม

ตรงที่บอกว่าถอดออกมาแล้วใส่ใหม่ เข้าใจได้ แต่อันนี้หินร่วงลงมา ยิ่งกว่าต่อเลโก้นะ ?
สมเดช : อย่างที่เรียนเบื้องต้น เราเคยทำที่ปราสาทหลังอื่น ๆ ก็จะมีสภาพคล้าย ๆ แบบนี้ เรามีการศึกษา และนำกลับไปเรียงตำแหน่งเดิม กรณีปราสาทตาควาย ส่วนนึงก็ต้องยอมรับว่าส่วนหินตกหล่นลงมา ผมเข้าใจว่าหินบางส่วนมีการชำรุด แตกหักบ้าง ซึ่งการบูรณะโบราณสถาน เรามีความจำเป็นใช้หินใหม่ทดแทนเข้าไป แต่ใช้เท่าที่จำเป็น สรุปด้วยแล้วเรื่องการบูรณะ วิธีการก็ต้องศึกษา และนำไปประกอบกลับในตำแหน่งดั้งเดิม หลักการบูรณะต้องทำให้เหมือนเดิม ต้องรักษาความเป็นของแท้ดั้งเดิม
บางก้อนโดนกระสุนแตกไปแล้ว ?
สมเดช : ถ้าหินอันไหนที่เราพบว่ามีความชำรุด ไม่สามารถนำกลับมาใหม่ได้ เราก็ต้องให้เป็นหินทรายใหม่เข้าไปทดแทนในที่จำเป็น จริง ๆ เราบูรณะหลายที่ ก็มีการใช้หินใหม่ทดแทนบ้าง แต่ใช้เท่าที่จำเป็น
กัน : ตาเมือนโต๊ดก็บูรณะ มีหินใหม่กลับไปด้วย เนียนจนดูไม่รู้เรื่อง เนียนมาก
สมเดช : ถ้าจะให้ชัดเจน ก็อย่างปราสาทสด๊กก๊อกธม ที่สระแก้ว หรือปราสาทพนมวัน ที่ จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะส่วนตัวปราสาทประธาน ก็ใช้หินใหม่ทดแทนไปเหมือนกัน แต่อย่างที่เรียน เราจะใช้เท่าที่จำเป็น เพื่อให้การขึ้นรูปเรียงประกอบกลับขึ้นไป ทำให้ปราสาทมีสภาพที่สมบูรณ์ อย่างตาเมือนโต๊ดเข้าใจว่าใช้หินเดิม ทุกที่ส่วนยอดหินจะตกหล่นลงมา พอตกลงมาเราก็ต้องศึกษา ทดลองประกอบเพื่อให้รู้ว่าตำแหน่งเดิมเขาอยู่ตรงไหน แล้วนำกลับไปเรียงไว้ในตำแหน่งเดิม

ใช้เวลานานไหม ?
สมเดช : นานเป็นปีเลยครับ เพราะวิธีการบูรณะแบบนี้ ใช้เวลานานมากกว่าเราจะทำเสร็จ ผมว่าหลายปี อย่างหินที่เราเห็น เป็นหินทราย เราต้องทดลองประกอบข้างล่างก่อน เอาหินมาเรียงว่าใช่ตรงนี้ไหม อยู่ในตำแหน่งดั้งเดิมไหม เอาให้แน่ใจก่อนถึงเอากลับขึ้นไปเรียงเดิม เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาทดลองประกอบนาน
คนไทยบูรณะได้ ถ้าสุดท้ายสมมติปราสาทนี้ไปอยู่กับเขมร มันทำได้ไหม ?
เกษม : ศักยภาพไม่ถึงหรอก
สมเดช : กัมพูชาเองเขาก็มีการบูรณะโบราณสถานแบบนี้เหมือนกัน
กัน : เขาจะให้ต่างประเทศทำให้ไหม ปกติเขามีซัปพอร์ตประเทศต่าง ๆ เข้ามา รับเป็นปราสาท ๆ
สมเดช : ก็อย่างกรณีกัมพูชา มีหลายประเทศเข้าไปทำ
ประเด็นหลักคือเขาจะมาตีคืนเราได้ไหม ?
กัน : ภาพเราบวกกว่าเยอะ หลายพื้นที่ที่ตอนแรกมีการพิพาทกัน เขมรรุกมายึดในที่ของเรา เรายึดคืนกลับมาได้เกือบหมดแล้วนะ อย่างช่องอานม้า 100 เปอร์เซ็นต์ เนิน 500 677 ตาเมือนธมเขาก็เอาออกไปนานแล้ว คะนา ระยี โอ้โห โดนเกือบหมดแล้ว บ้านสามหลังที่ตราด บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้ว ก็เรียบร้อยหมดแล้ว อาจมีตาพระยานิดหน่อยที่ยังมีปัญหากันอยู่ แล้วก็เนิน 350 ส่วนอื่นประปราย ช่องบกก็ไม่มีอะไร ถ้าเป็นภาพบวก ผมเชื่อว่าบวกกว่าเยอะ ถ้าเขาจะ มาเอาคืน ผมว่าสิ่งที่น่าติดตาม คือช่วง 2-5 ชั่วโมงสุดท้าย อย่างเราประกาศว่าหยุดวันนี้ ผมพูดบทเรียนในคราวที่แล้ว ช่วงสุดท้ายเขมรมันจะเต็มเหนี่ยว จะเอาให้ได้ ช่วงสุดท้ายเราจะมีการสูญเสียเหมือนครั้งที่แล้ว เราเรียนรู้จากบทเรียนแล้ว เราคงไม่ยืนเฉย ๆ ให้มันถล่มเราหรอก ผมเชื่อว่าเรามีการเตรียมตัว อย่างวันนี้เขาต้องการผลิตบังเกอร์ด่วน ผมก็ผลิตส่งเข้าไปเยอะมากให้อยู่ได้ แต่ยังมีอีกเยอะแยะมากมาย ซัปพอร์ตกันเต็มที่
กันลงพื้นที่บ่อย ๆ เขาคาดว่าน่าจะจบก่อนปีใหม่ ?
กัน : ส่วนตัวผมก็เชื่ออย่างนั้น จริง ๆ แล้วถ้าเอากันจริง ๆ พื้นที่เหลือที่เราเป็นลบค่อนข้างน้อย อยู่ที่ว่าเราตรึงกันได้เท่าไหร่แค่นั้นเอง และวันไฟนอลที่มันจะจบ คือเมื่อไหร่แค่นั้นเอง
พี่เพชรอยากให้จบยังไง ?
เพชร : ผมอยากให้จบ แต่ถ้าเหมือนทุกวันที่สู้กัน ถ้าทำแบบนี้ ผมว่าไม่เกินอาทิตย์นึง จบแน่นอน
จากใจคนในพื้นที่ที่เห็นมาตลอด ?
เพชร : ใช่ครับ จากการเห็นการต่อสู้กัน ผมว่าจบภายในไม่เกิน 7 วัน
พี่เกษมล่ะ ?
เกษม : คิดว่าใช้เวลาไม่นาน เมื่อวานพี่ไทยใส่เต็ม ๆ ยิงจนไม่เห็นเขาตอบโต้มา
เขายิงมาก่อน พอเราโต้เขาเงียบกริบ ?
เกษม : เขาเอาเราช่วงเช้า เปิดก่อนทุกวัน เราก็ตอบโต้ มันก็กริบเลย
มันยิงมาปุ๊บ มันเคลื่อนที่เลย ?
กัน : เป็นอย่างนั้นแน่นอน รีบไป กลัวเราอัด BM ได้ มามั่ว ๆ ลอบกัด รีบมารีบไป แต่ไม่อยากให้ชะล่าใจ มันทำซึม ๆ หนึ่งอาจเตรียมอาวุธเสริมกำลัง เตรียมพร้อมเอาไว้เล่นแมตซ์สุดท้าย เพราะตอนนี้กระสุน BM อาจมีจำกัด ทรัพยากรเขาอาจมีจำกัด เขาอาจเตรียมเอาไว้แมตซ์สุดท้าย
เพชร : จากการนั่งสังเกต เขมรมันจะใช้แบบนี้ มันจะเริ่มจุดนึงก่อน พอเราโต้ปุ๊บมันจะขยับไปที่อื่น เหมือนหลอกล่อให้เราหันไปสนใจที่อื่น แล้วมันจะมาแว้งกัดเราที่ใหม่ มันทำแบบนี้ตลอด
กัน : ยั่วไปเรื่อย ๆ
แล้วต้องทำยังไง ?
กัน : ก็ต้องเอาให้จบ
เกษม : แต่ปราสาทตาเมือนธม มันไม่ค่อยกล้า ทุกวันนี้เงียบ
กัน : มันไปเน้นที่ตาควาย เพราะมันได้เปรียบ เป็นพื้นที่ที่ยังครึ่ง ๆ อยู่ อย่างถ้ามาทวงภูมะเขือ ฝันเลย ยากแล้ว ถ้ามาสู้แล้วรบเยอะ เขาจะไม่เล่น ไม่วัด แต่อย่างนี้ 50-50 ยังพอมีโอกาส
ถ้าเราบูรณะปราสาทได้ มันจะมายึดอีกไหม ?
กัน : เขมรมันเป็นอะไรที่ไว้ใจไม่ได้ อย่าไว้ใจเขมร ทุกครั้งที่ผมพูด คนจะว่าผมบ้า คลั่งสงคราม แต่มันไม่ใช่ การที่เราทำบังเกอร์ 200 ลูกเพราะอะไร เพราะเราไม่ไว้ใจ เวลาเกิดเรื่องมันก็ได้ใช้จริง ๆ ของทุกอย่างที่เตรียมเอาไว้ อย่างคะนา ผมสร้างสะพาน 2-3 อัน ทำเผื่อไว้ บังเกอร์ ก็ได้ใช้หมด ของเต็มพื้นที่ เราทำอลังการนะ ทำอย่างดี เป็นเขื่อน เก็บไว้ว่าน้ำเขาจะไม่ขาด เกิดเหตุฉุกเฉินจะได้มีน้ำใช้ด้วย เราทำเต็มที่ เพราะเราไม่ไว้ใจเขมร
มันเป็นสิงห์นักเคลมจริง ๆ เคลมทุกอย่าง ?
กัน : อย่าไว้ใจ ทำไปเลย อัดหน้าแนว ช่วยซัปพอร์ตทหาร เวลาเกิดสงคราม มันคือหน้าที่ของคนไทยทุกคน อย่าบอกว่าเป็นหน้าที่ใคร คนอยู่ข้างหน้าแนวทหารก็พี่น้องเรา คนไทยด้วยกัน ถ้าวันนี้เรารู้ว่าเราช่วยแล้วช่วยให้เขาได้กลับบ้านเพิ่มสัก 10 เปอร์เซ็นต์ เราก็ควรทำ อย่าไปบอกว่าต้องเป็นหน้าที่ของใคร แล้วโอกาส 10 เปอร์เซ็นต์ เขาไม่ได้รับ ทุกวันนี้ขอให้ทุกคนช่วยกัน








