ช็อกกลางงานศิลป์ เด็กชายเผลอเช็ดตู้กระจก ทำมงกุฎทองคำมูลค่า 10 ล้านบาท ร่วงกระแทกพื้นเสียหาย ด้านเจ้าของไม่เก็บเงิน หวังให้เป็นอุทาหรณ์
![มงกุฎทองคำร่วงกระแทกพื้น มงกุฎทองคำร่วงกระแทกพื้น]()
ภาพจาก weibo
![มงกุฎทองคำร่วงกระแทกพื้น มงกุฎทองคำร่วงกระแทกพื้น]()
ภาพจาก weibo
![มงกุฎทองคำร่วงกระแทกพื้น มงกุฎทองคำร่วงกระแทกพื้น]()
ภาพจาก weibo
![มงกุฎทองคำร่วงกระแทกพื้น มงกุฎทองคำร่วงกระแทกพื้น]()
ภาพจาก weibo
![มงกุฎทองคำร่วงกระแทกพื้น มงกุฎทองคำร่วงกระแทกพื้น]()
ภาพจาก weibo
จางซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน กล่าวว่า เธอและสามีรู้สึกใจสลายอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากมงกุฎนี้มีความหมายต่อพวกเขาอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังกังวลว่าเหตุการณ์นี้อาจนำมาซึ่งลางไม่ดีที่กระทบต่อชีวิตคู่รวมถึงลูกในท้องที่กำลังใกล้คลอด
ทั้งนี้ จาง เผยว่า สาเหตุที่นำเรื่องนี้มาเผยแพร่ เธอไม่ได้ต้องการจะเรียกร้องค่าเสียหายจากแม่ลูกคู่นี้ เพราะได้ทำประกันไว้สำหรับมงกุฎแล้ว แต่เธอต้องการเตือนสติพ่อแม่ว่าอย่ามัวแต่เล่นมือถือขณะเข้าชมนิทรรศการ และควรดูแลบุตรหลานให้ดี
![มงกุฎทองคำร่วงกระแทกพื้น มงกุฎทองคำร่วงกระแทกพื้น]()
ภาพจาก weibo
ขณะที่อีกรายหนึ่งอ้างว่าตนเองทำงานในอุตสาหกรรมการจัดนิทรรศการ ระบุว่า "เมื่อเราติดตั้งนิทรรศการ เรามักจะลองเขย่าแท่นวางเพื่อให้แน่ใจว่าของที่จัดแสดงจะได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี แม้ว่าจะมีผู้เข้าชมบางคนแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก็ตาม"
ส่วนเรื่องความเชื่อว่าจะนำมาซึ่งโชคร้ายสู่เจ้าของหรือไม่ หลายคนต่างเผยว่า ตามความเชื่อโบราณ เมื่อสิ่งของสำคัญได้รับความเสียหาย นั่นหมายความว่าสิ่งของนั้นได้ช่วยรับเคราะห์แทนหรือขจัดปัดเป่าโชคร้ายออกไปให้แล้ว
.jpg)
ภาพจาก weibo
วันที่ 23 ธันวาคม 2568 เว็บไซต์ South China Morning Post รายงานว่า เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในงานนิทรรศการศิลปะ เมื่อมงกุฎทองคำแท้ มูลค่ากว่า 280,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10 ล้านบาท) ได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลังเด็กชายพยายามใช้มือเช็ดตู้กระจกเพื่อถ่ายภาพที่ตู้โชว์
.jpg)
ภาพจาก weibo
เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยโดย จาง ข่ายอี้ อินฟลูเอนเซอร์ชาวจีน ที่มีผู้ติดตามกว่า 13.6 ล้านคน เธอเล่าว่า เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 มงกุฎฟีนิกซ์ทองคำที่สามีศิลปินของเธอสร้างขึ้นเพื่อเป็นของขวัญวันแต่งงาน ได้รับความเสียหายจากฝีมือของเด็กคนหนึ่งและแม่ของเขา ขณะที่ทั้งคู่กำลังถ่ายรูปภายในงานนิทรรศการที่จัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์ Beijing X Museum ณ กรุงปักกิ่ง
.jpg)
ภาพจาก weibo
.jpg)
ภาพจาก weibo
ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นแม่คนหนึ่งกำลังพยายามใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพมงกุฎ ในขณะที่ลูกชายซึ่งดูเหมือนอยู่ในวัยประถมได้ใช้มือเช็ดตู้กระจกครอบจัดแสดง เพื่อให้แม่ของเขาถ่ายภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ด้วยตู้กระจกไม่ได้ถูกยึดติดกับแท่นวางอย่างแน่นหนา ทำให้ตู้ตกลงมาพร้อมกับมงกุฎจนร่วงกระแทกพื้นและได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
.jpg)
ภาพจาก weibo
จากข้อมูลพบว่ามงกุฎทองคำดังกล่าวมีน้ำหนัก 2 กิโลกรัม หรือคิดเป็นมูลค่าเกือบ 2 ล้านหยวน (ประมาณ 280,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องประดับทองคำประเมินว่า ต้นทุนเฉพาะค่าแรงในการผลิตเพียงอย่างเดียวอาจสูงถึง 200,000 - 400,000 หยวน (ประมาณ 900,000 - 1,800,000 บาท)
จางซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน กล่าวว่า เธอและสามีรู้สึกใจสลายอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากมงกุฎนี้มีความหมายต่อพวกเขาอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังกังวลว่าเหตุการณ์นี้อาจนำมาซึ่งลางไม่ดีที่กระทบต่อชีวิตคู่รวมถึงลูกในท้องที่กำลังใกล้คลอด
ทั้งนี้ จาง เผยว่า สาเหตุที่นำเรื่องนี้มาเผยแพร่ เธอไม่ได้ต้องการจะเรียกร้องค่าเสียหายจากแม่ลูกคู่นี้ เพราะได้ทำประกันไว้สำหรับมงกุฎแล้ว แต่เธอต้องการเตือนสติพ่อแม่ว่าอย่ามัวแต่เล่นมือถือขณะเข้าชมนิทรรศการ และควรดูแลบุตรหลานให้ดี
.jpg)
ภาพจาก weibo
คลิปดังกล่าวจุดชนวนให้เกิดการถกเถียงอย่างดุเดือดเป็นสองมุมมอง บางส่วนวิจารณ์แม่และเด็กที่ไม่ระมัดระวังจนทำของเสียหาย อีกฝั่งกลับมองว่าผู้จัดนิทรรศการควรเป็นผู้รับผิดชอบฐานที่ไม่ยึดตู้กระจกให้แน่นหนาติดกับแท่นวาง
ชาวเน็ตรายหนึ่งระบุว่า "ฉันมักจะเห็นรอยนิ้วมือบนตู้จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ระดับชาติที่รวบรวมโบราณวัตถุล้ำค่า ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่ผู้คนจะสัมผัสตู้กระจก"
ขณะที่อีกรายหนึ่งอ้างว่าตนเองทำงานในอุตสาหกรรมการจัดนิทรรศการ ระบุว่า "เมื่อเราติดตั้งนิทรรศการ เรามักจะลองเขย่าแท่นวางเพื่อให้แน่ใจว่าของที่จัดแสดงจะได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี แม้ว่าจะมีผู้เข้าชมบางคนแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก็ตาม"
ส่วนเรื่องความเชื่อว่าจะนำมาซึ่งโชคร้ายสู่เจ้าของหรือไม่ หลายคนต่างเผยว่า ตามความเชื่อโบราณ เมื่อสิ่งของสำคัญได้รับความเสียหาย นั่นหมายความว่าสิ่งของนั้นได้ช่วยรับเคราะห์แทนหรือขจัดปัดเป่าโชคร้ายออกไปให้แล้ว
อย่างไรก็ดี จาง ระบุว่า บริษัทประกันภัย ทางพิพิธภัณฑ์ รวมถึงตัวเธอและสามี จะเป็นผู้ร่วมกันแบกรับความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก SCMP






