
เรียบเรียงโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
ข้าวหนึ่งเม็ด ได้มาไม่ง่าย
ทานข้าวในจาน นึกถึงที่มา
โปรดอย่าเหลือทิ้ง เป็นบาปหนักหนา
ถางหญ้ากลางแดดจ้า หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน
เหงื่อไหลรินอาบหน้า ความทุกข์จากชาวนา
พระอาทิตย์ พระจันทร์ต้องส่องแสง หล่อเลี้ยงจากอากาศ
เติบโตได้กว่าร้อยวัน จึงเก็บเกี่ยวยามสมควร
ดิฉันมีโอกาสได้อ่านข้อคิดคำคมที่แปลจากสุภาษิตจีนบทนี้แล้ว ก็อดตั้งคำถามขึ้นมาในใจไม่ได้ว่า . . . ถ้าวันหนึ่งข้างหน้าประเทศไทยไม่สามารถปลูกข้าวกินได้ อาจเพราะไม่มีพื้นที่ทำนา ไม่มีใครปลูกข้าว ชาวนารุ่นหลังให้ท้องนาหันหน้าเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ จนเราต้องซื้อข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าง เช่น อินเดีย เวียดนาม เพื่อนำมาบริโภค อยากรู้จริงๆ ว่าคนไทยกว่า 60 ล้านคนจะรู้สึกอย่างไร
?
หลายคนอาจจะหัวเราะที่ดิฉันถามคำถามนี้ขึ้นมา เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เมืองไทยจะไม่มีข้าวกิน แต่อย่าลืมว่าในอนาคตอะไรก็เป็นไปได้หมด ยิ่งโลกร้อน เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ น้ำท่วมบ่อยๆ อาจทำให้คำถามที่คิดว่าไม่น่าถามนี้เป็นไปได้
และเชื่อว่าหากเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นจริงๆ หลายต่อหลายคนต้องโทษคนโน้นโทษคนนี้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยมองหรือถามตัวเองเลยว่า ทุกวันนี้เราทำทุกอย่างดีพอหรือยัง เรากินข้าวหมดจานไหม เรากินทิ้งกินขว้างหรือเปล่า
เคยจำได้ว่าตอนเป็นเด็กคุณครูจะให้ท่องบทกลอนหนึ่งก่อนกินข้าวทุกมื้อ ... ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งขว้าง เป็นของมีค่า พ่อแม่เหนื่อยยาก ลำบากหนักหนา สงสารบรรดา คนยากคนจน ... แต่พอเวลาผ่านไปเมื่อเติบโตขึ้น กลอนบทนี้ก็กลายเป็นเพียงความทรงจำสีจางที่เข้าไปหลบอยู่ในซอกเล็กๆ ของความทรงจำ จนทำให้หลายๆ คนมักมองข้ามและไม่เคยนึกถึง
ทุกวันนี้เรามีข้าวปลาอาหารกินครบ 3 มื้อ เผลอๆ อาจจะมีบ้างที่กินเหลือ กินขว้าง กินทิ้ง กินเล่น แต่ในทางกลับกันยังมีอีกหลายคนไม่มีแม้แต่ข้าวสักเม็ดตกถึงท้อง นั่งรอคอยความหวังว่าจะได้กินอาหารดีๆ สักมื้อในชีวิตก่อนหมดลมหายใจ
ข้อมูลจาก
- วัดแก่งกระจาน






