ความผิดพลาดในชีวิตของซูเปอร์โมเดล "ยุ้ย-รจนา เพชรกัณหา" นับเป็น CASE STUDY ที่น่าศึกษา เพราะโชคชะตาได้เล่นตลก ส่ง ยุ้ย-รจนา ขึ้นสู่จุดสูงสุด แต่ก็ยังได้ผลักดันเธอสู่ก้นเหวที่ลึกที่สุด ซูเปอร์โมเดลที่เคยทํารายได้ปีละ 50 ล้านบาท ต้องมาดับวูบลงเพราะ "ยาเสพติด"
เมื่อกลับมาเมืองไทย ยุ้ย ต้องกลับมารักษาตัว และหัวใจที่บอบช้ำ ทําใจให้เข้มแข็ง ยอมรับกับสภาพให้ได้ ไม่น่าเชื่อกับข่าวคราวล่าสุด เกี่ยวกับนางแบบสาวที่ใช้ชีวิตหรูหราในวงการแฟชั่นของโลก เธอต้องมาเป็นพนักงานขายรองเท้าอยู่ที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ด้วยสนนราคาค่าจ้างเป็นเงินเดือนๆ ละ 3,000 บาท กับการที่ต้องยืนขาแข็งตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม
"ยุ้ย-รจนา" เปิดใจกับ ดาราเดลี่ ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม น้ำเสียงเรียบนิ่ง ไม่แสดงอาการใดๆ ทั้งสิ้น ราวกับว่าเธอพร้อมรับกับการเล่นตลกของโชคชะตาได้แล้ว
"ยุ้ยอยู่เฉยๆ ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะยุ้ยไม่มีงานแล้ว ลําพังจะพึ่งรายได้ของคุณแม่ที่ทําร้านเสริมสวยก็ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ก็เลยตัดสินใจไปทํางานเป็นพนักงานขายรองเท้าที่ร้าน NAUGHTY MONKEY ซึ่งยุ้ยเคยเป็นพรีเซนเตอร์ของที่ร้านนี้มาก่อน เราเป็นพนักงานขาย ก็ต้องยืนขายรองเท้าทั้งวัน ต้องคอยเทคแคร์ดูแลลูกค้าค่ะ ได้เงินเดือนสามพันบาท ถ้าเดือนไหนทํายอดได้ก็จะได้เงินห้าพันบาท"
แต่รายได้เพียงเท่านี้ก็ไม่พอกับค่าใช้จ่าย เธอจึงตัดสินใจลาออกมาอยู่กับแม่
"ขนาดยุ้ยใช้เงินวันละหนึ่งร้อยบาท แค่นั้นยังไม่พอเลย เชื่อมั้ยคะว่าบางวัน..ยุ้ยอยากกินแมคโดนัลด์มาก แต่ไม่มีเงินซื้อ เพราะเงินเรามีไม่พอที่จะใช้จ่ายได้ ก็เลยลาออกมาอยู่กับแม่ค่ะ กินข้าวเหนียวจิ้มปลาร้า รสชาติอร่อยพอจะลืมรสชาติของแมคโดนัลด์ไปได้บ้าง" เธอกล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอต้องยืนขาแข็งคอยบริการลูกค้า ก่อนหน้านี้ เธอก็เคยเป็นพนักงานขายชา ต้องชงชาแล้วเดินไปให้ลูกค้าในห้างสยามพารากอนได้ลองชิม
"ก็ต้องทําได้ อยู่ประจําร้านไม่กี่ชั่วโมง ก็ต้องนําชาที่ชงแล้วของที่ร้าน เดินไปหาลูกค้าที่เดินอยู่ในห้างสยามพารากอนได้ลองชิม บางวันเดินตั้ง 10 กิโลเมตร ถึงบ้านต้องให้แม่บ่งหนองออกจากเท้า ชีวิตลําบาก แต่ยังยิ้มได้ค่ะ"
ยุ้ย-รจนา บอกว่าเธอไม่เคยเสียใจกับชีวิตที่พลิกผัน... "อาจจะร้องไห้บ้างในช่วงแรกๆ แต่เราจะไปอ่อนแอกับมันตลอดเวลาก็ไม่ได้ ยุ้ยจะไม่พยายามทําลายชีวิตตัวเอง เพราะเราเคยหลงระเริงกับความหรูหรากับชีวิตมาแล้ว"
ทุกวันนี้เหมือนพระเจ้ากําลังมอบโอกาสที่ดีให้เธออีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีคนมาติดต่อยุ้ยให้ไปเป็นครูสอนเดินแบบที่สถาบัน MODEL R
"ก่อนที่จะมารับสอนเดินแบบ ยุ้ยก็ลําบากค่ะ เลยต้องเอาเสื้อผ้าแบรนด์เนมที่เคยซื้อตอนอยู่ที่เมืองนอก กระเป๋าแบรนด์เนม มาขายให้กับเพื่อนๆ บางชุดซื้อมาห้าแสนบาท เราก็ขายแค่สองพัน กระเป๋าใบละแสน เราก็ขายแค่ใบละพันบาทเท่านั้น ไม่เสียดายหรอกค่ะ เพราะเสื้อผ้าเหล่านี้เราเคยได้สัมผัส เคยได้ใส่ในโอกาสที่หรูหรา แต่เวลานี้มันไม่จําเป็นและสําคัญกับเราอีกต่อไปแล้ว"
ยุ้ย-รจนา กล่าวปิดท้ายถึงอนาคตของชีวิตตัวเองไว้ว่า... อยากจะกลับไปทํางานในวงการแฟชั่นอีกค่ะ และก็อยากแสดงหนังไทย อยากเก็บเงินสร้างบ้านให้กับแม่ ชีวิตคนเราไม่แน่ไม่นอน ทุกวันนี้ยุ้ยก็พอใจกับชีวิตแล้วค่ะ
หวังว่าความหวังของนางฟ้าตกสวรรค์ "ยุ้ย-รจนา เพชรกัณหา" จะเป็นจริงได้ในสักวันหนึ่ง เพราะชะตากรรมคงจะไม่โหดร้ายกับ "ผู้หญิงที่แสนซื่อ" อย่างเธอตลอดไปหรอก.
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
