เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ทางรายการเรื่องจริงผ่านจอ ที่นำเสนอออกอากาศทาง ช่อง7 ได้รับการร้องเรียนถึงชีวิตบัดซบของ นายศักดา สมมูลธนาวาส อายุ 26 ปี กับ นางนงลักษณ์ ศรีทองกูล อายุ 31 ปี สามีภรรยา ที่หอบลูกสาว 2 คน คนโตชื่อ น้องหยก (นามสมมติ) อายุเพียง 4 ขวบ ส่วนคนเล็กชื่อ เบนซ์ (นามสมมติ) อายุ 2 ขวบ เร่ร่อนขอทานเลี้ยงชีพประทังชีวิต แต่ที่น่าสะเทือนใจ คือ พ่อแม่คู่นี้กลับติดสารระเหย จนเป็นพฤติกรรมเลียนแบบให้ลูกสาวทั้ง 2 ต้องตกเป็นทาสของสารเสพติดตั้งแต่ยังเยาว์วัย โดยเหตุเกิดที่ จ.นครสวรรค์
ทั้งนี้ทางรายการเรื่องจริงผ่านจอ ได้เดินทางลงพื้นที่บันทึกเหตุการณ์ จนกระทั่งพบความจริง เมื่อปรากฏภาพของ 2 สามีภรรยา พาลูกสาวออกจากบ้านเช่าในตรอกโรงน้ำแข็ง ถนนสวรรค์วิถี อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ไปยืนขอทานจากชาวบ้าน บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาเมืองนครสวรรค์ แต่สิ่งที่น่าสลดใจต่อผู้พบเห็น คือ ทั้งครอบครัวติดสารระเหย สูดดมกาวอย่างไม่แคร์สายตาผู้คน และ 2 หนูน้อยยังเดินขอเงิน โดยที่ในมือถือถุงกาวสูดดมสารระเหยไปด้วยสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมที่ลูกเลียนแบบพ่อแม่
ชาวบ้านที่ร้องเรียนรายการ ยังเล่าด้วยว่า บางวันน้องหยกเมาสารระเหยนอนซมอยู่กับพื้นทางขึ้นลงธนาคารกรุงเทพ จะถูกนายศักดาตบตี จนเลือดกบปาก เพื่อบังคับให้ไปขอทาน และบางครั้งนางนงลักษณ์ ผู้เป็นแม่จะให้น้องเบนซ์ดูดนม ในขณะที่ตัวเองก็ดมกาวไปด้วย ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นมานานหลายเดือน โดยที่ไม่เคยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสนใจดูแล กลายเป็นภาพที่สะเทือนใจและชินตา หลังจากทราบเรื่องทางรายการจึงประสานไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นครสวรรค์ สำนักป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้าหญิงและเด็ก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ เข้าช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.ท.บุญเชิด จันทร์มณี พงส.สบ.3 สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้รับการชี้แจงว่า ทราบเรื่องแล้ว ได้นำตัวนายศักดากับนางนงลักษณ์มาทำทัณฑ์บน พร้อมจะดำเนินคดีหากพาเด็กมาเร่ร่อนขอเงิน ถือว่าเป็นความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ส่วนการสูดดมสารระเหย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเหตุซึ่งหน้าจะถูกจับกุมทันที สำหรับการช่วยเหลือ 2 หนูน้อยนั้น เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวได้แยกน้องหยกไปอยู่ในความดูแล ส่วนน้องเบนซ์ ทางนางนงลักษณ์ขอเวลาเลี้ยงดูสักระยะหนึ่งเพราะเด็กยังไม่หย่านม
นางนงลักษณ์ แม่ผู้เป็นทาสดมกาว กล่าวว่า หลังจากจบ ม.2 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครสวรรค์ ก็ออกมาเร่ร่อนเตร็ดเตร่ติดยาเสพติด จนถูกตำรวจจับหลายครั้ง และมารู้จักกับนายศักดา จนมีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง จึงต้องอาศัยลูกสาว 2 คนช่วยไปขอทานที่หน้าธนาคาร นำรายได้มาใช้จ่ายเป็นค่าเช่าบ้าน ที่อาศัยอยู่ในตรอกโรงน้ำแข็งวันละ 30 บาท ส่วนที่ทำให้ลูกสาว 2 คนต้องติดกาวไปด้วย เป็นเพราะตนและสามีติดดมกาว ลูกจึงเอาอย่าง สำหรับเรื่องราวของครอบครัวบัดซบรายนี้ ทางรายการเรื่องจริงผ่านจอจะนำภาพเผยแพร่ออกอากาศในเวลา 22.00 น. วันที่ 31 กรกฎาคม ทางช่อง 7 สี
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบจาก learners.in.th
