สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณประกอบจาก MCOT New และ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ในขณะที่ไทยกับกัมพูชายังเดินหน้าเจรจาทวิภาคี เพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนในบริเวณรอบปราสาทพระวิหาร โดยมีแนวทางคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างกัน ในเบื้องต้นด้วยการถอนกำลังในพื้นที่ออกมาทั้งสองฝ่าย แต่ขณะเดียวกันก็มีนักวิชาการออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย พร้อมๆ มีเสียงจากทหารแนวหน้าว่าไม่ได้รับการเหลียวแลจากผู้บัญชาการทหารไทย สู้ผู้นำเขมรก็ไม่ได้นั้น
ล่าสุด สำนักข่าวต่างประเทศ ยังคงให้ความสำคัญและนำเสนอข่าวกรณีข้อพิพาทระหว่างไทย - กัมพูชา อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ (3 สิงหาคม) สำนักข่าวเอพี อ้างการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ของ พันตรีสิม โสกา รองผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์พรมแดนของกัมพูชา ที่จังหวัดโอดดาร์ มีนเจย ห่างกรุงพนมเปญไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 470 กิโลเมตร ว่า ทหารไทยราว 70 นาย เข้าไปยึดครองปราสาทตาเมือนธม บริเวณริมพรมแดนภาคตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา นับเป็นการยึดครองปราสาทแห่งที่ 2 ของทหารไทย ทำให้การเผชิญหน้าด้วยอาวุธระหว่างไทยกับกัมพูชาทวีขึ้นอีก หลังเกือบปะทะกันเมื่อเดือนที่แล้ว
ทั้งนี้ พันตรีสิม โสกา เผยว่า ทหารไทยเข้าไปตั้งมั่นอยู่ในรัศมี 80 เมตรรอบๆ พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม และห้ามทหารกัมพูชา ซึ่งอยู่บริเวณนั้นราว 40 นาย เข้าไปเขตปราสาท โดยทหารไทยยืนยันว่า จะถอนกำลังออกไปเมื่อกรณีพิพาทใกล้ปราสาทพระวิหารได้รับการแก้ไขแล้วเท่านั้น แต่ทหารกัมพูชาได้รับคำสั่งให้อดทนอดกลั้น รอให้รัฐบาลกัมพูชาแก้ปัญหากับฝ่ายไทยเสียก่อน ส่วน นายเขียว กัญหะริธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงข่าวสารและโฆษกรัฐบาลกัมพูชา เผยว่า รับทราบเรื่องความเคลื่อนไหวทางทหารครั้งใหม่ของไทยแล้ว แต่ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ รัฐบาลกัมพูชาจะพยายามแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี
นอกจากนี้ สำนักข่าวเอพี ยังรายงานด้วยว่า พันตรีทวีศักดิ์ บุญรักชาติ โฆษกกองทัพไทยในพื้นที่พิพาท ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า ทหารไทยบุกรุกปราสาทตาเมือนธม โดยระบุว่า ทหารของทั้งสองฝ่ายประจำการอยู่ที่นั่นมานานหลายปีแล้ว ขณะที่ นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ก็ปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าวของกัมพูชา
ทั้งนี้ เอพี ยังรายงานว่า ปราสาทตาเมือนธมสร้างในศตวรรษที่ 13 ตั้งอยู่บนเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดน จ.สุรินทร์ อยู่ห่างจากพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ที่สร้างในศตวรรษที่ 11 ไปทางตะวันตกหลายร้อยกิโลเมตร แม้จะไม่โด่งดังเท่าปราสาทนครวัด หรือปราสาทพระวิหาร แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรมอันน่ามหัศจรรย์ของอาณาจักรขอมโบราณ ปราสาทตาเมือนธมถูกสร้างเป็นพระตำหนักพักผ่อนของกษัตริย์ขอมยุคโบราณ ตั้งอยู่ริมถนนโบราณที่เชื่อมระหว่างเมืองที่ตั้งปราสาทนครวัด กับดินแดนที่เป็นภาคตะวันออกเฉียง เหนือของไทยในปัจจุบัน โดยฝ่ายไทยอ้างว่าปราสาทตาเมือนธมตั้งอยู่ในพื้นที่ทับซ้อน
และขณะนี้ทหารไทยราว 800 นาย และทหารกัมพูชาราว 400 นาย ยังตรึงกำลังอยู่บริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระใกล้ปราสาทพระวิหาร แม้การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยกับกัมพูชาเมื่อ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา จะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ว่าจะมีการปรับกำลังทหารใหม่ก็ตาม
โดยเจ้าหน้าที่ไทยและกัมพูชาต่างอ้างในกรรมสิทธิ์ในปราสาทตาเมือนธม ขณะที่ทหารทั้งสองฝ่ายยังเผชิญหน้ากันอยู่ที่ปราสาทพระวิหาร โดย นายวาร์ คิมฮอง ประธานคณะกรรมการร่วมชายแดนไทย-กัมพูชา ยอมรับว่าทหารไทยประจำการอยู่ที่ปราสาทตาเมือนธมจริง แต่ไม่ใช่เรื่องใหม่ ปราสาทตาเมือนธมอยู่ในเขตแดนกัมพูชา แต่นับตั้งแต่ปี 2541 เป็นต้นมา ฝ่ายไทยฉวยโอกาสเข้าครอบครอง โดยอ้างว่าเข้าไปเพื่ออนุรักษ์ และในปี 2546 ตนได้แจ้งต่อทหารไทยว่าปราสาทตาเมือนธมเป็นของกัมพูชา ขอให้ถอนกำลังออกไป ซึ่งฝ่ายไทยก็ตกลงว่าจะถอนกำลังทันทีที่กัมพูชาสร้างถนนที่เหมาะสมไปยังปราสาท
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
