เขมรฮือ!! จะบุกปักธงชาติ ปราสาทตาเมือนธม

ปราสาทตาเมือนธม


          เข้าสู่วันที่ 2 ในภารกิจของกรมศิลปากร ที่นำคณะสื่อมวลชนจากส่วนกลางลงดูพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา ที่กำลังมีปัญหาถูกกัมพูชาแอบอ้างสิทธิ์เหนือปราสาทหินโบราณ โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 สิงหาคม นายเขมชาติ เทพไชย รองอธิบดีกรมศิลปากร ได้นำคณะสื่อมวลชน 30 คน ลงพื้นที่เยี่ยมชมกลุ่มปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงและสะท้อนปัญหาในพื้นที่ ภายหลังที่มีข่าวว่ารัฐบาลกัมพูชาส่งทหารมาอ้างสิทธิ์เหนือปราสาทตาเมือนธม ท่ามกลางการตรึงกำลังรักษาเขตแดนจากกองร้อยทหารพรานจู่โจมที่ 950 กองกำลังสุรนารีอย่างเข้มงวด  

          ทั้งนี้ นายเขมชาติ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏกลุ่มปราสาทตาเมือนธมตั้งอยู่ฝั่งไทยชัดเจน อีกทั้งเอกสารและหลักฐานทางโบราณคดีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผลการศึกษาวิจัยเส้นทางโบราณจากพระนคร - พิมาย ที่กรมศิลปากร ร่วมกับโรงเรียนนายร้อย จปร. และหน่วยงานด้านโบราณคดีของกัมพูชา นักวิชาการโบราณคดีกัมพูชาก็ให้การยอมรับว่า ปราสาทตาเมือนธมอยู่ในดินแดนไทย โดยไม่ได้มีการคัดค้าน ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาในอดีตก็ไม่ได้มีการบรรจุไว้ในเอกสารระดับชาติ หรือมีกฎหมายคุ้มครองเหมือนไทย ที่มีหลักฐานประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา  

          รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวอีกว่า เมื่อคราวที่ตนไปศึกษาดูงานทางโบราณคดีที่กัมพูชา พบว่าในเขตกัมพูชามีปราสาทที่มีความสำคัญ ในลักษณะเดียวกับปราสาทพระวิหาร ปราสาทตาเมือนธม อีกเป็นจำนวนมาก แต่รัฐบาลกัมพูชาไม่เคยคิดพัฒนาบูรณะ ปล่อยให้รกร้างเป็นป่าตลอด ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องทางการเมืองของ ทางกัมพูชาเอง ซึ่งกรมศิลปากรก็เฝ้าระวังอยู่ว่า รัฐบาลกัมพูชาอาจจะมีความพยายามทวงคืนทางวัฒนธรรมขึ้นมาอีก จึงมีการเร่งแปลเอกสารที่เกี่ยวข้องเผยแพร่ รวมทั้งเร่งจัดทำแผนบูรณะฟื้นฟูปราสาทตามแนวชายแดนที่อยู่ในเส้นทางอารยธรรมขอม เชื่อมโยงปราสาทพิมาย จ.นครราชสีมา ปราสาทพนมรุ้งและเมืองต่ำ จ.บุรีรัมย์ เสนอต่อนายปองพล อดิเรกสาร ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกของไทย เพื่อเสนอรายชื่อคณะกรรมการมรดกโลกต่อไป 

          ด้านนายทองใบ กิจเกียรติ อบต.ตาเมียง กล่าวว่า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้มีการจัดงานเทศกาล เยี่ยมเยือนตาเมือนเดือนเมษายน ในวันที่ 12 เมษายนของทุกปี ในบริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน ซึ่งก็มีชาวกัมพูชาเข้ามาร่วมงานกว่า 38,000 คน คนไทยกว่า 80,000 คน รวมแล้วกว่า 100,000 คน แสดงให้เห็นว่ากลุ่มปราสาทดังกล่าวเป็นของไทย และชาวกัมพูชาก็รับรู้ตลอด อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์การอ้างสิทธิ์เหนือปราสาทตาเมือนธมของกัมพูชา จะไม่กระทบกับความสัมพันธ์ระดับชาวบ้าน แต่ตนต้องการให้กระทรวงการต่างประเทศเร่งดำเนินการ แสดงจุดยืนและนำหลักฐานชี้แจงต่อกัมพูชา  


ปราสาทตาเมือนธม


          สำหรับบรรยากาศ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ห่างจุดผ่านแดนช่องตาเมือน ที่มีการตั้งรั้วลวดหนาม ขึงปิดกั้นทางเข้าออกระหว่างชายแดนประมาณ 10 เมตร ตลอดทั้งวันยังคงมีนักท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทยเดินมาท่องเที่ยว และนำอาหารกับน้ำมามอบให้ทหารกองร้อยทหารพรานจู่โจมที่ 950 กันอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งในจำนวนนี้ มีนายชาญวิทย์ เกษตรศิริ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายสัมฤทธิ์ ลือชัย นักวิชาการอิสระ นำคณะนักศึกษาจากสถาบันอุษาคเนย์กว่า 100 คน มาทัศนศึกษาเกี่ยวกับปราสาทตาเมือนธมด้วย   

          ต่อมาในเวลา 13.30 น. พ.อ.เนี๊ยะ  เวิ่ง นายทหารกัมพูชา ได้นำทหารจำนวน 10 นาย และสื่อมวลชนช่องซีทีเอ็นของกัมพูชา จำนวน 3 คน มาขอเจรจากับนายทหารฝ่ายไทย โดยกัมพูชาได้อ้างว่า ทางทหารไทยได้ทำรั้วลวดหนามรุกล้ำเข้าไปในเขตแดนกัมพูชา เป็นการล่วงล้ำอธิปไตย จึงขอให้ทหารไทยยกรั้วลวดหนามดังกล่าวออกไป พร้อมทั้งขอร้องให้ไทยเปิดด่านช่องตาเมือนให้ชาวบ้านฝั่งกัมพูชาและฝ่ายไทย สามารถผ่านเข้าออกได้เหมือนเดิม ส่วนเรื่องตัวปราสาทตาเมือนธมนั้น เป็นของไทยหรือกัมพูชาต้องให้รัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศหารือกัน และที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของคนทั้ง 2 ประเทศในพื้นที่เป็นไปอย่างราบรื่น มีการติดต่อไปมาหาสู่ตลอดมา อย่างไรก็ตาม ลักษณะการเจรจานั้น ทหารทั้ง 2 ฝ่ายได้ส่งตัวแทนไปนั่งเก้าอี้คุยกันแบบตัวต่อตัว บริเวณระหว่างชายแดนทั้ง 2 ประเทศ ท่ามกลางชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่มาเกาะรั้วมุงดูการเจรจาจำนวนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่มีการเปิดเผยว่าทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันได้หรือไม่  

          ขณะที่เจ้าหน้าที่ อบต.ตาเมียง ผู้หนึ่ง เปิดเผยถึงสาเหตุที่ทหารไทยต้องวางแนวรั้วลวดหนาม เป็นเพราะเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. ทหารกัมพูชา จำนวน 4 นาย นำพระสงฆ์ 3 รูป พร้อมด้วยชาวบ้านกว่า 60 คน ถือธงชาติกัมพูชา เดินทางมาบริเวณด่านช่องตาเมือน ติดกับปราสาทตาเมือนธม เพื่อจะนำธงชาติมาปักยังบริเวณตัวปราสาท พร้อมเตรียมที่จะสร้างชุมชนบริเวณรอบตัวปราสาทตาเมือนธมอีกด้วย ทหารฝ่ายไทยไม่ยอม จึงทำการปิดด่านชายแดนตาเมือน ไม่ให้มีการเข้าออกเหมือนเคย  

ปราสาทตาเมือนธม


          นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการวิทยุ ลับ ลวง พราง ออกอากาศทางเดอะเรดิโอ สถานีวิทยุ 100.5 เมกะเฮิรตซ์ ถึงการตรึงกำลังตามปราสาทตาเมือนธมว่า กำลังทั้งสองฝ่ายอยู่ในพื้นที่เดียวกัน มีการลาดตระเวนร่วมกัน เพื่อตรวจสอบไม่ให้มีการละเมิดเอ็มโอยู ซึ่งมีการประสานงานไม่น่าจะมีปัญหาอะไร   

         เมื่อถามถึงการปรับกำลังทหารจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.กนก กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าทหารเราทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา เขาสั่งการอะไรมาก็ต้องทำ เมื่อทำแล้ว ก้าวต่อไปขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาที่จะสั่งการ และการก้าว มาถึงจุดนี้แล้ว ก็เป็นสิ่งที่ดี อย่างน้อยทุกคนเริ่มที่จะให้ความสำคัญในจุดนี้ ซึ่งในส่วนของตาเมือนธมที่เกิดขึ้นมาอีก คิดว่าจะมีอีกหลายจุดที่เราต้องให้ความสำคัญและสนใจ ทั้งพื้นที่ซับซ้อนทางทะเล มีอีกหลายพื้นที่ที่มีทรัพยากรที่มีคุณค่า ประเทศไทยเรามีคนที่มีความรู้ ความสามารถมาก คงจะมีทิศทางที่ดีสำหรับประเทศเรา และหากทุกคนช่วยกัน ก็จะมีความคิดเป็นไปในทางเดียวกัน 

          ต่อข้อซักถามที่ว่า มีความกังวลว่าจะมีการเมืองเข้ามาแทรก และทำให้เรื่องการดูแลอธิปไตยอาจจะไขว้เขวไป พล.ต.กนก กล่าวว่า บทบาทที่สำคัญ คือ กระทรวงการต่างประเทศ หลายท่านที่ออกมาชี้แจงโดยกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทุกคนก็ให้ความไว้วางใจท่าน ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทุกคนมาช่วยกันทำงานเพื่อประเทศชาติของเรา และทหารในพื้นที่มีขวัญกำลังใจดี ได้รับกำลังใจจากประชาชนส่งของมาเรื่อยๆ ส่วนเรื่องการปรับกำลังนั้นต้องรอดูผลการประชุมการเจรจา 

          พร้อมกันนี้ พล.ต.กนก ยังกล่าวถึงกำลังของกัมพูชาขณะนี้ว่า มีมากพอสมควร แต่ก็ถือว่าสูสีกันทั้งสองฝ่าย และที่ไทยสามารถนำกำลังขึ้นไปอยู่ในพื้นที่ได้ ถือเป็นยุทธศาสตร์ของ ผบ.ทบ. 


ปราสาทตาเมือนธม


          ด้าน จ.สระแก้ว พ.ท.เอกรัติ เมธาวัฒนานันท์ รอง ผบ.ฉก.กรม.ทพ.ที่ 12 กกล.บูรพา พ.ต.ศลิษฏพงษ์ แก้วพิลา ผบ.ร้อย ทพ.ที่ 1201 ฉก.กรม.ทพ.ที่ 12 กกล. บูรพา พร้อมกำลังออกลาดตระเวนตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันอธิปไตย หลังเกิดข้อพิพาทปราสาทเขาพระวิหารกับทางการกัมพูชา กระทั่งผ่านถนนสายบ้านท่าข้าม - บ้านโสนน้อย บ้านท่าข้าม ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบชายต้องสงสัยใส่เสื้อยืดคอกลมสีแดง กางเกงสีน้ำเงินซ่อนตัวในป่าละเมาะและพยายามวิ่งหนี แต่สกัดจับไว้ได้ สอบสวนทราบว่าชื่อนายอู๋ วันเจือง อายุ 33 ปี ชาวเวียดนาม อ้างแอบเข้ามาหางานทำ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อนำตัวส่ง ร.ต.อ.วิชาญ จิตตยานันท์ รอง สว.สส.สภ.คลองลึก สอบสวนขยายผล  

          หลังการสอบสวน ร.ต.อ.วิชาญ เปิดเผยว่า จากการสอบถามเบื้องต้น ตอนแรกนายอู๋อ้างว่าเป็นทหารเวียดนาม แต่ตอนหลังกลับบอกว่าไม่ได้เป็น แถมให้การสับสนตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมน่าสงสัยหลายอย่าง เช่น การวางตัวและสีหน้าเฉยเหมือนคนผ่านการฝึกมาอย่างดี เรื่องนี้ทหารคงจะมีการสอบเบื้องลึกต่อไปว่านายอู๋เป็นใครกันแน่ หรือเป็นทหารเวียดนามเข้ามาสอดแนม เพราะช่วงนี้มีข่าวว่ามีกำลังทหารเวียดนามนอกเครื่องแบบ แฝงตัวอยู่ตามหมู่บ้านชายแดนของกัมพูชา หลังมีกรณีพิพาทเรื่องเขาพระวิหาร


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก prachatai.com

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เขมรฮือ!! จะบุกปักธงชาติ ปราสาทตาเมือนธม อัปเดตล่าสุด 11 สิงหาคม 2551 เวลา 19:17:48 22,772 อ่าน
TOP
x close