
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด
เมื่อวานนี้ (17 สิงหาคม) ที่เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ นายเกรียงศักดิ์ ไพรวัลย์ ลูกชายยอดรักพร้อมภรรยา เดินทางร่วมคอนเสิร์ต "อาลัยรัก ยอดรัก สลักใจ พระเอกลูกทุ่งตลอดกาล" จัดโดยสมาคมชาวพิจิตร เพื่อนำรายได้ให้กับครอบครัวยอดรัก ทั้งนี้ นายเกรียงศักดิ์ กล่าวถึงยอดรายได้จากคอนเสิร์ตว่า ยังไม่ได้รับเงิน เพราะทางสมาคมบอกว่ายังไม่ทราบรายได้ทั้งหมด แต่ตอนนี้ผมไม่อยากได้เงินแล้วครับ เพราะเท่าที่มีคนช่วยเหลือมา ไม่ว่าจะทางเอสเอ็มเอส การเปิดบัญชีให้พ่อ หรือว่างานคอนเสิร์ตต่างๆ แค่นี้ผมก็โดนด่าว่าเป็นขอทานแล้ว คืองานทั้งหมดผมไม่ได้เป็นคนจัดการอะไรทั้งนั้น แต่มีผู้ใหญ่ทำทั้งหมด ผมไม่ทราบเรื่อง จะมาทราบว่าทางผู้ใหญ่จัดอะไรขึ้นก็ตอนที่เขาทำกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตรงนี้ประชาชนที่เขาไม่รู้ บางคนเขาก็ว่ายังเห็นผมขับรถเบนซ์อยู่ ผมไม่ทำงานเหรอ
"ผมอยากจะบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นเอสเอ็มเอส บัญชีของพ่อที่เปิดรับบริจาค และคอนเสิร์ตต่างๆ ที่จัดขึ้นในช่วงนี้ ผมไม่ได้เป็นคนจัดการ ผมไม่รู้ มีผู้ใหญ่หลายท่านเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด ส่วนเรื่องที่บอกว่าผมไม่ทำงานเหรอ ผมก็อยากจะบอกว่าก่อนหน้านี้ผมทำงานอยู่ต่างประเทศ พอพ่อป่วยผมก็กลับมาช่วยงานคุณพ่อ และผมก็มีบริษัทของผมเองไม่ได้ว่างงานอย่างที่ว่ากัน" นายเกรียงศักดิ์ กล่าวเสียงเครียด
ลูกชายยอดรัก กล่าวต่อว่า ตอนนี้ที่ตนถืออยู่เป็นบัญชีของพ่อ เป็นเงินล้านกว่าบาท ส่วนเรื่องเงินตู้บริจาคตนก็ไม่ได้เป็นคนจัดการ ยอดเงินกฐินก็เช่นกัน แต่กับยอดการขายซีดีของพ่อให้น้าเป็นคนจัดการ เรื่องยอดขายช่วงวันแรกๆ ได้เป็นแสน แต่ตอนนี้ไม่ทราบ เพราะไม่มีเวลาไปจัดการเรื่องนี้ ยุ่งอยู่กับงานศพอย่างเดียว ส่วนที่มีข่าวว่าเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงตั้งกองทุนให้กับยอดรักไว้ 1 ล้านบาท ก็ยังไม่ทราบ เรื่องนี้ต้องไปถามทาง เสรี รุ่งสว่าง อย่างไรก็ตาม ขอขอบพระคุณศิลปินทุกท่านที่มาร่วมคอนเสิร์ตครั้งนี้ หลายๆ คนมาแสดงคอนเสิร์ตที่ช่วยพ่อหลายครั้งมาก จนตนเกรงใจ
ทางด้าน นางลัดดา ไพรวัลย์ ภรรยานักร้องดัง กล่าวว่า ตนและลูกชายรู้สึกเครียดกับกระแสข่าวที่มีคนออกมาต่อว่าทางอินเตอร์เน็ตว่า ไม่ทำมาหากิน แต่อาศัยงานศพสามีขอเงินเพื่อจะไปไถ่บ้าน บางคนถึงกับลงข้อความแบบเสียๆ หายๆ เรื่องนี้ตนจึงอยากจะชี้แจงว่า หลายอย่างครอบครัวไม่ได้เป็นคนทำ มีคนอื่นมาทำให้เรา เราจึงพูดอะไรไม่ได้ เพราะหลายคนก็เจตนาดี แต่ข่าวที่ออกไปเมื่อหลายคนทำก็มีหลายอย่าง ทำให้เยอะเกินไป
"ตอนนี้เงินช่วยเหลือครอบครัวก็คิดว่า น่าจะพอไถ่บ้านแล้ว แต่ยอดเงินจะต้องถามกับลูกชายและอยากจะให้ต่อจากนี้ไป เงินที่จะมาช่วยงานศพก็ขอให้เป็นเงินที่จะนำไปสร้างศาลาที่สำหรับตั้งหุ่นของคุณแอ๊ว ที่วัดหาดแตงโม มากกว่า เพราะเป็นความประสงค์ของคุณแอ๊วตั้งแต่ก่อนที่จะเสียชีวิต จึงอยากจะฝากบอกกับแฟนๆ ของคุณแอ๊วทุกคนว่า ทางครอบครัวของเรา ไม่ได้มีความคิดที่จะอยากจะได้เงินถึงขนาดอะไรๆ ก็เป็นเงินขนาดนั้น แต่บางเรื่องเราก็พูดอะไรไม่ได้" นางลัดดา กล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก






