เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 30 สิงหาคม พ.ต.ท.บัลลังก์ โพธิ์ทอง สารวัตรเวร สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีเด็กและเยาวชนภายในศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกรุณา หมู่ 14 ต.บางปลา อ.บางพลี ก่อเหตุจลาจลเผาเรือนนอนและหลบหนี จึงนำกำลังไปสอบสวน ทราบว่าภายในสถานพินิจดังกล่าวมีเด็กและเยาวชนทั้งหมด 754 คน ส่วนกลุ่มที่หลบหนีได้ใช้รถเข็นในครัวกระแทกรั้วตาข่ายเหล็กจนฉีกขาด ก่อนจะหลบหนีไปได้จำนวน 218 คน โดยผู้หลบหนียังหยิบมีดปังตอในครัวไป 18 เล่มเพื่อใช้เป็นอาวุธในการหลบหนีด้วย จึงแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบและขอกำลังสนับสนุนจากหลายท้องที่เข้าดำเนินการ
หลังเกิดเหตุ นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ ผวจ. สมุทรปราการ เดินทางมาตรวจสอบพร้อมกล่าวว่า เด็กและเยาวชนได้หลบหนีออกจากบ้านกรุณา 2 ชุด ชุดแรกหลบหนีไปก่อน 22 คน ชุดที่ 2 ก่อหวอดและเผาเรือนนอน ก่อนจะใช้รถเข็นทำครัวกระแทกประตูตาข่ายเหล็กฉีกขาดแล้วหลบหนีไปอีก 199 คน รวม 218 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จับกุมกลับมาได้แล้ว 16 คน และสั่งระดมตำรวจจาก สภ.บางพลี สภ.บางปู สภ.บางบ่อ พร้อมประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และขอเฮลิคอปเตอร์ ออกติดตามกลุ่มเยาวชนที่เหลือต่อไป
ต่อมาเวลา 01.30 น. วันที่ 31 สิงหาคม พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พร้อมตำรวจ ภ.จ.สมุทรปราการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร กว่า 150 นาย เดินทางมาถึงบ้านกรุณา กระจายกำลังกันค้นหาเยาวชนที่ยังคงหลบซ่อนตัวยู่ด้านหลังศูนย์ฝึก ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 150 ไร่ โดยประสานกำลังตำรวจในเขตพื้นที่ใกล้เคียงช่วยกันตั้งด่านสกัดจับกุม ทั้งนี้ เฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจ ได้บินค้นหาชี้เป้า เมื่อเห็นตัวเยาวชนหลบซ่อนอยู่ตามพงหญ้า ตำรวจก็เข้าไปควบคุมตัวเยาวชนกลับมาได้ครั้งละ 5-10 คน นำไปควบคุมและสอบสวนที่ศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกรุณา
พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ กล่าวต่อไปว่าส่วนเรื่องของความเสียหายในโรงนอนและโรงอาหารของศูนย์อบรมนั้น พบว่ามีเพียงเตียงนอน ที่นอน และตู้กับข้าว ชั้นวางของในโรงอาหารบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย เพราะกลุ่มเด็กได้จุดไฟเผา แต่ไม่ได้ลุกลามไปไหม้ตัวอาคารแต่อย่างใด ในส่วนของความเสียหายนั้น ทางพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่วิทยาการ กำลังตรวจสอบพื้นที่และมูลค่าความเสียหาย ขณะที่สาเหตุของการก่อจลาจลของกลุ่มเยาวชนครั้งนี้ คาดว่าเกิดจากความกดดันของเยาวชนที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในศูนย์ฯ เนื่องจากการอยู่รวมตัวกันเป็นจำนวนมาก จะมีการแบ่งเป็นระดับชั้น เช่น พวกหัวโจกก็จะข่มผู้ที่อ่อนแอกว่า ตลอดจนปัญหาความรุนแรงของกลุ่มที่ถูกควบคุม อีกทั้งจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเยาวชนในช่วงกลางคืนมีน้อยเกินไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้เร่งติดตามตัวกลุ่มเยาวชนอย่างเร่งด่วนแล้ว
กระทั่งเวลา 09.00 น. เฮลิคอปเตอร์ จึงยกเลิกการค้นหาเนื่องจากน้ำมันใกล้หมด และเจ้าหน้าที่คาดว่าเยาวชนที่เหลือส่วนใหญ่หลบหนีออกนอกพื้นที่ซึ่งตำรวจปิดล้อมเอาไว้ไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวเยาวชนกลับมาได้แล้ว 176 คน ยังคงหลบหนีอยู่อีก 42 คน ตำรวจจึงเปลี่ยนแผนการค้นหา โดยตรึงกำลังไว้ส่วนหนึ่ง ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งได้นำประวัติของเยาวชนที่ยังหลบหนีมาดู พร้อมเดินทางไปที่บ้านของเด็กที่หลบหนี เพื่อพูดคุยกับผู้ปกครองขอให้นำเด็กมามอบตัวกับตำรวจ หากเด็กติดต่อหรือกลับมาที่บ้าน
ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ปกครองที่ทราบข่าวการก่อเหตุ จลาจลของเยาวชนกว่า 100 คน ได้เดินทางมาที่อาคารอำนวยการของศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกรุณา เพื่อจะขอเยี่ยมลูกหลานของตัวเอง แต่ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์บ้านกรุณา อนุญาตให้เยี่ยมเฉพาะเด็กที่ไม่ได้หลบหนีเท่านั้น ส่วนเด็กที่ก่อเหตุหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่แจ้งกับผู้ปกครองว่า อยู่ในระหว่างการสอบสวน ไม่สามารถให้เข้าเยี่ยมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานในเวลาไล่เลี่ยกับที่กลุ่มเยาวชนแหกบ้านกรุณา ปรากฏว่า นายไพศาล วิเชียรเกื้อ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ซึ่งเข้านอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.กรุงเทพหาดใหญ่ จ.สงขลา ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก ระหว่างเดินทางไปประชุมคณะกรรมการสงเคราะห์ จ.นราธิวาส ช่วงวันที่ 25-27 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 31 สิงหาคม โดยก่อนหน้านี้ นายไพศาลมีอาการสลบไม่รู้สึกตัวภายในห้องพักโรงแรมใน จ.สงขลา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 สิงหาคม เจ้าหน้าที่จึงนำส่ง รพ.กรุงเทพหาดใหญ่ แพทย์ พยายามช่วยเหลือและใช้เครื่องช่วยหายใจยื้อชีวิต จนกระทั่งสิ้นใจอย่างสงบระหว่างที่กลุ่มเยาวชนแหกบ้านกรุณาดังกล่าว สำหรับศพของนายไพศาล จะเคลื่อนไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 8/2 วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน และจะมีพิธีรดน้ำศพในวันที่ 1 กันยายน เวลา 16.00 น.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
