ต้านนันทนาการลามก-ท่าเต้น เมียงู-ไก่ย่าง กลุ่มสตรี ออกโรง ชี้เนื้อหา ย่ำยีเพศ
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. มูลนิธิผู้หญิง ร่วมกับกลุ่มสื่อใส และเครือข่ายนันทนาการสร้างสรรค์ จัดเวทีด้านวัฒนธรรมการใช้อำนาจและความรุนแรง พร้อมทั้งเปิดแถลงเรียกร้องให้หน่วยงานราชการที่ดูแลด้านวัฒนธรรมและสังคมออกมาให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมนันทนาการ ที่ส่อไปในทางเพศ ที่มีความลามก หยาบคาย เนื่องจากพบว่า เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาความรุนแรงทางเพศกับผู้หญิงและเด็กเพิ่มมากขึ้น
นางศิริพร สโครบาเนค ประธานมูลนิธิผู้หญิง กล่าวว่า จากการทำงานของมูลนิธิผู้หญิง กลุ่มสื่อใส และเครือข่ายนันทนาการสร้างสรรค์ ที่ต้องเกี่ยวข้องกับปัญหาความรุนแรงของผู้หญิงและเด็ก พบว่าปัจจุบันการจัดกิจกรรมด้านนันทนาการขององค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ส่วนใหญ่มีการใช้บทเพลง ท่าประกอบ และเกมต่างๆ ที่ใช้ความรุนแรง โดยเน้นการแสดงออกและใช้ภาษาที่ส่อไปในทางเพศที่มีความลามก หยาบคาย มากขึ้น
เช่น เพลงเมียงู มีเนื้อเพลงระบุว่า บาทเดียวดูเพลิน อะไรไม่เกินเมียงู ลูบได้คลำได้ แต่อย่าเอาไม้แหย่รู หรือคำว่า สตรีมีสองกีบ เอาไว้หนีบของศัตรู ศัตรูมีหนึ่งแท่ง เอาไว้แทงของสตรี สตรีบอกว่าดี เอาอีกทีพี่ศัตรู หรือเนื้อหาในบทเพลงที่นำเสนอเรื่องความรุนแรงของสตรีเป็นที่ขบขัน เช่น เมื่อฉันโดนข่มขืน เขาให้ยืนถ่างขา ทีสองทีไม่ว่า ต้องสักห้าหกที หรือเพลง นวลอนงค์ค่ำลงน้องจะไปไหน ถามทำไมจะไปที่กิโลหนึ่ง ไปทำไม ไปให้จิ๊กโก๋มันทึ้ง
นางศิริพร กล่าวต่อว่า ผู้จัดกิจกรรมมักนำมาให้กลุ่มผู้เข้าร่วมเล่น โดยเห็นว่าการทำกิจกรรม หรือเล่นเกมที่มุ่งของเรื่องใต้สะดือ จะเป็นเรื่องสนุกขบขัน ที่สร้างความคุ้นเคยให้กับผู้ร่วมกิจกรรมมากขึ้น ถือว่าเป็นค่านิยมที่ผิด เนื่องจากกิจกรรมดังกล่าวถือว่าเป็นความรุนแรงที่ซ่อนเร้น ที่ทำให้ผู้หญิงและเด็กกลายเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า กิจกรรมเหล่านี้ ยังส่งผลให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กบางคนรู้สึกอึดอัด เขินอาย ขาดความมั่นใจ และรู้สึกไม่ปลอดภัย
ในขณะที่กลุ่มผู้ชายบางคนที่เป็นสุภาพบุรุษก็ไม่สะดวกใจที่จะทำกิจกรรมเหล่านี้ บางครั้งเมื่อปฏิเสธการมีส่วนร่วมในกิจกรรมก็มักถูกลงโทษจากผู้จัดกิจกรรม หรือถูกเพื่อนที่ร่วมกิจกรรมมองว่าเรื่องมาก แค่เป็นเรื่องสนุกเท่านั้น คิดว่านันทนาการในลักษณะนี้เป็นการกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กเพิ่มมากขึ้น และยังตอกย้ำทัศนคติในสังคมที่มองว่า การล่วงละเมิดและลวนลามทางเพศ ทั้งทางวาจา หรืออื่นๆ เป็นเรื่องสนุกสนาน เป็นเรื่องปกติ หรือชี้ว่าผู้หญิงเป็นฝ่ายที่ชอบความรุนแรง โดยไม่คำนึงถึงสิทธิ ความรู้สึกของผู้หญิง และเด็กที่ถูกกระทำ
"นันทนาการลักษณะนี้ไม่ได้แพร่ระบาดอยู่ในหมู่นักเรียนนักศึกษา ในสถาบันการศึกษา ทั้งระดับอุดมศึกษา มัธยมศึกษา และประถมศึกษา ซึ่งใช้โดยรุ่นพี่ ครูผู้สอน และแพร่ทางสื่ออินเตอร์เน็ตเท่านั้น แต่ยังใช้อย่างแพร่หลาย และดูจะเป็นจำนวนมากในการจัดกิจกรรมของการอบรมสัมมนาของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาคเอกชนและรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหน่วยงานรัฐ ดิฉันพบมาเองว่า มีการใช้ทั้งในหน่วยงานของรัฐด้านการปกครอง และกระทรวงที่ดูแลด้านสุขภาพด้วย ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับชาวต่างประเทศว่าประเทศไทยมีวัฒนธรรมเรื่องเพศแบบนี้ เพราะไม่เคยเห็นว่ามีประเทศใดในโลกที่ใช้กิจกรรมใต้สะดือมาสร้างนันทนาการแบบนี้" ประธานมูลนิธิผู้หญิง กล่าว
ด้านนายอัมรินทร์ เปล่งรัศมี ผอ.การละครชุมชนกั๊ปไฟ และผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อสารชุมชน กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ กิจกรรมหรือเกมนันทนาการที่ส่อไปในทางเพศ ได้ถูกนำไปใช้กับเด็กๆ มากขึ้น โดยไม่ได้คำนึงถึงว่าจะเกิดผลกระทบที่จะตามมาในอนาคต จากการทำงานของเครือข่าย พบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานด้านการพัฒนาบางแห่งที่ลงพื้นที่เข้าไปจัดกิจกรรมกับเด็กชาวเขาในพื้นที่บนดอยสูง นำกิจกรรมเหล่านี้ไปใช้กับเด็กเล็กๆ ในชั้นประถม โดยคิดว่าจะเป็นเรื่องสนุก และเด็กไม่ได้คิดอะไร แต่เด็กจำได้และนำมาเล่นในชุมชน เล่นให้พ่อแม่ดู เช่น เกมเมียงู โรตีใส่ไข่ หรือบางทีก็ทำท่าโก้งโค้ง ต่อมาก็เกิดปัญหาเจ้าหน้าที่ล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กจนตั้งครรภ์ก็มี เรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมาก
นายอัมรินทร์ กล่าวต่อว่า นอกจากเด็กประถมแล้ว ยังมีข้อมูลพบด้วยว่า เด็กในระดับอนุบาลได้รับผลกระทบนี้เช่นเดียวกัน โดยเครือข่ายสื่อใสในภาคใต้พบว่า เด็กอนุบาล ในระดับอายุต่ำกว่า 6 ขวบ สามารถร้องเพลงเกมลามกต่างๆ ได้อย่างดี และยังทำท่าประกอบให้พ่อแม่ดูอีกด้วย เช่น เกมไก่ย่าง โรตีใส่ไข่ หรือเกมลามกอื่นๆ และยังถามด้วยว่ามีความหมายว่าอย่างไร เครือข่ายคิดว่าเป็นสิ่งที่อันตรายมาก
จากการสำรวจพบว่า การเล่นเกมนันทนาการลามกเหล่านี้ จะมีใช้อยู่ในกิจกรรมการรับน้องของสถาบันอุดมศึกษา เป็นอันดับ 1 เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ รองมาเป็นหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ใช้วิทยากรด้านนันทนาการ และอันดับ 3 สถาบันการศึกษาในระดับต่างๆ บางแห่งครูผู้สอนก็เป็นผู้นำมาให้เด็กเล่นเองด้วยซ้ำ โดยเพลงประกอบท่าทางที่นิยมเล่นกันมาก ได้แก่ เมียงู ไก่ย่าง กิโลหนึ่ง และเพลงที่แต่งกันขึ้นใหม่โดยกลุ่มนักศึกษาสถาบันต่างๆ และสามารถโหลดเพลงนี้ตามอินเตอร์เน็ตได้ด้วย
"กลุ่มสื่อใสขอเรียกร้องให้สังคมหันมาตระหนักเรื่องนี้ ปรับเปลี่ยนการเล่นเกมนันทนาการให้เป็นสื่อที่สร้างสรรค์ แทนการมุ่งไปทางเรื่องเพศ โดยล่าสุดได้รวบรวมออกแบบ และปรับเปลี่ยนกิจกรรมนันทนาการต่างๆ แบบสร้างสรรค์ขึ้น รวมทั้งยังรณรงค์ให้สังคมให้ความสำคัญในเรื่องนี้ รวมทั้งได้พยายามสร้างเครือข่ายไปยังกลุ่มต่างๆ ทั้งนักศึกษา เยาวชนรุ่นใหม่ ทั้งในโรงเรียนและระดับอุดมศึกษามากขึ้น สามารถติดต่อของตัวอย่างได้ที่ โทร.0-2433-5149 และขอเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย ตลอดจนองค์กรเอกชน ให้ความสำคัญเรื่องนี้ และร่วมกันหามาตรการขจัดเกมเหล่านี้ออกไปจากสังคมด้วย" นายอัมรินทร์กล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
