ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (9 ตุลาคม) ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว หลังจากที่ผู้บาดเจ็บจากเหตุสลายการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นไต่สวนฉุกเฉิน โดยมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติตามหลักสากล หากจะมีคำสั่งให้สลายการชุมนุม ให้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาดำเนินวิธีปฏิบัติจากเบาไปหาหนัก
ทั้งนี้ ตุลาการศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติหากจะกระทำการใดๆ ต่อผู้เข้าร่วมชุมนุม ต้องดำเนินการเท่าที่จำเป็นโดยคำนึงถึงความเหมาะสมมีลำดับขั้นตอนตามหลักสากล ที่ใช้ในการสลายการชุมนุมของประชาชน
รวมทั้งให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาล และให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจหน้าที่ของตนดำเนินการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติตามมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองชั่วคราวตามคำสั่งศาล จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ศาลปกครองมีคำสั่งให้คุ้มครอง การสลายกลุ่มผู้ชุมนุม ให้ยึดตามหลักสากล และให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาล พร้อมให้นายกฯ ใช้อำนาจหน้าที่ดำเนินการให้ สตช.ปฏิบัติตามมาตรการ หรือวิธีการคุ้มครองชั่วคราวตามคำสั่งศาล จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้า นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พร้อมด้วยผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 คน เดินทางไปยังศาลปกครอง ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง พร้อมด้วย นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา และ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.ที่เป็นผู้ร้องสอดร่วมด้วยโดยฟ้อง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้ยุติการใช้กำลังในการเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุม เหมือนอย่างที่หน้ารัฐสภาอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากศาลปกครองกลางมีคำสั่งดังกล่าวออกมา บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ภายในทำเนียบรัฐบาล มีความคึกคักขึ้นมาทันตา มีการโห่ร้องแสดงความยินดีอย่างกึกก้อง ขณะที่แกนนำผลัดกันขึ้นเวทีปราศรัยระบุเป็นชัยชนะอีกครั้งของประชาชน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก