เป็นสาวฮอตที่มีงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งละครและโฆษณาที่ล้นจอ สำหรับสาวหุ่นดีดีกรีซูเปอร์โมเดลระดับโลก แพนเค้ก- เขมนิจ จามิกรณ์ ที่ล่าสุดช่อง 7 สีต้นสังกัด ยังเลือกให้มาแสดงแทน ตั๊กแตน ชลดา ในละครเรื่อง "เพลงรักข้ามภพ" ที่ถอนตัวไปก่อนหน้านี้อีก
แต่ความฮอตที่มีก็ตีคู่มากับข่าวคราว ที่ไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะข่าวเกาเหลากับนางเอกช่องเดียวกัน ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์ ถึงขั้นผู้ใหญ่ของช่องต้องเรียกไปเคลียร์ รวมไปถึงข่าวอินเลิฟ กับพระเอกช่องเดียวกัน เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ ทั้งหมด ทั้งมวลเหล่านี้ จึงเป็นที่มาที่ทำให้ต้องขอนั่งจับเข่าคุยกับสาวฮอต พ.ศ.นี้
งานฮอตล้นมือ
ต้องมาเล่นแทน ตั๊กแตน ชลดา ในละคร "เพลงรักข้ามภพ" แบบกะทันหัน รู้สึกอย่างไร
แพนเค้ก : มันเป็นหน้าที่นิดหนึ่ง แต่จริงๆ แล้ว ก็ได้เข้าไปคุยกับทางช่องด้วย อยากให้แพนลองดู แพนก็ลองดูก็ได้ เป็นละครเพลงที่ยากแต่ก็ท้าทายดี
คนจะมองว่านึกอะไรไม่ออกก็นึกถึง แพนเค้ก หรือเปล่า
แพนเค้ก : บ้า แพนก็มีอะไรทำนะ ไม่ได้ว่าตลอดเวลา แต่คงเป็นด้วยความเหมาะสม ด้วยเวลาด้วยแหละ เพราะตอนนี้แพนเพิ่งหมดละครไป 2 เรื่อง ว่างด้วย เลยให้มาลองดูเรื่องนี้ ช่วงนี้ก็เบรกหน้าจอไปหน่อย อีกสักพักถึงจะได้เจอกันอีก
ที่ผ่านมาเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาเยอะมากด้วย
แพนเค้ก : คงเป็นลอตๆ ช่วงๆ มากกว่า แต่เผอิญออกมาพร้อมๆ กัน ทำให้คนเห็นหน้าแพนตลอดเวลา
งานออกมาจนทำให้ดูเยอะไปหรือเปล่า
แพนเค้ก : แพนเป็นคนทำงานมากกว่า เรารู้สึกว่าเราก็ทำตามหน้าที่ของเรา ไม่ได้ไปมองว่าเราทำเยอะ หรือน้อยเกินไปไหม คือเราทำตามความเหมาะสม
กลัวคนดูเบื่อไหม
แพนเค้ก : แล้วแต่ความคิดแต่ละคนดีกว่า แพนก็คงบอกเหมือนเดิม คือแพนเป็นคนทำงาน เพราะฉะนั้นมันก็คือโอกาสที่เราได้ทำ ก็อาจจะมีบ้าง แต่ทุกอย่างที่ออกมา ก็มีความแปลกใหม่ให้คนได้ดูเสมอนะ ไม่ใช่คาแรกเตอร์เดิมๆ ขำบ้าง สวยบ้าง
เคยนับไหมว่าเล่นละครมากี่เรื่อง โฆษณากี่ตัว
แพนเค้ก : ละครน่าจะมี 10 เรื่อง โฆษณาน่าจะ 8 หรือ 9 ตัว ภายในปีนี้โฆษณาคงยังไม่มีอีก ให้จบปีนี้ก่อน
รู้สึกไหมว่าเหมือนเข้ามาในระยะเวลาสั้น แต่ดังเร็วมาก
แพนเค้ก : เรียกว่ามีโอกาสทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกันดีกว่า แพนเริ่มมาจากเดินแบบ ซึ่งก็เป็นอะไรที่เคยคิดว่าอยากจะทำ และได้ทำจริงๆ แล้วพอได้เป็นซูเปอร์โมเดลของช่อง 7 ก็ได้เล่นละครของช่องด้วย พอเล่นละครแล้วก็มีโฆษณา เป็นสเต็ป เป็นช่วงเวลาของมันมากกว่า ส่วนตัวเราก็พยายามทำให้ดีที่สุด
กลายเป็นสาวฮอต พ.ศ.นี้
แพนเค้ก : แพนไม่รู้ว่าฮอตนี่มันหมายถึงยังไง เพราะทำงานเยอะ หรือไปไหนก็เห็นแต่แพน จริงๆ แล้วก็เป็นคนทำงานนั่นแหละ แต่คือถ้าเราชอบใคร คนนั้นก็เป็นคนฮอตสำหรับเราทั้งนั้นแหละ
กลัวไหม กับคำพูดที่ว่า ดังเร็ว ก็ไปเร็ว
แพนเค้ก : เอ่อ...จริงๆ แล้วตลอดเวลาที่ทำงานมา คุณแม่จะบอกเสมอ ว่าให้เราเป็นตัวเองเสมอ และอย่าลืม ว่าเรามาจากไหน ทำอะไรมาบ้าง ฉะนั้น ณ วันนี้ ไม่ว่าเราจะมีงานมาก หรืองานน้อย เราจะมีความสุขในแบบที่เราเป็น คือ เราก็ยังสามารถที่จะเดินเหินในวิถีชีวิตเดิมๆ ที่เราเป็นได้ ไม่ว่าจะมีมากหรือน้อย ก็มีความสุขในช่วงเวลานั้นๆ ได้
มองวงการบันเทิงอย่างไร
แพนเค้ก : เข้ามาตรงนี้ เราต้องรู้ว่าจุดประสงค์ของเราคืออะไร ต้องการเดินไปทางไหน มีเส้นทางให้ตัวเอง แพนว่าเราก็จะเดินไปได้
วางอนาคตไว้อย่างไรกับการทำงานในวงการบันเทิง
แพนเค้ก : ไม่เคยวาง เป็นคนที่แทบจะทำงานแบบวันต่อวัน แพนว่าเราทำทุกวัน ที่มีโอกาสทำให้ดีที่สุดก่อน แล้วมันจะเป็นผลต่อเนื่องในวันข้างหน้า ตั้งแต่เด็กแล้ว แพนจะเป็นคนเรื่อยๆ ถ้าถามว่าแพนอยากทำอะไร ไม่อยากทำอะไรเลย แต่ถ้าสั่งให้ทำแพนจะทำ เลยดูเหมือนทำทุกอย่างไปได้หมด เพราะถ้าแม่สั่งถึงจะทำ แต่ถ้าให้เลือก ขออยู่เฉยๆ ดีกว่า
ความดังที่มาพร้อมข่าว
ความดังมาคู่กับข่าวมองอย่างไร
แพนเค้ก : มันก็คงเป็นของคู่กัน ทุกคนก็ทำงานของตัวเอง ซึ่งแพนว่ามันก็ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ก็เป็นบททดสอบในแต่ละวัน ว่าเราจะเดินผ่านมันไปได้ไหม บางครั้งก็เหมือนกำลังจะออกสู่สนามรบ แพนก็จะเห็นพี่ๆ นักข่าวเตรียมคำถามมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมากันน้อยหรือเยอะ เราก็ตื่นเต้น เหมือนทุกคนกำลังเล่นจิตวิทยากันอยู่ ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง เราเองก็ต้องเต็มที่
หลักการใช้ชีวิตของแพนเค้กเป็นอย่างไร
แพนเค้ก : เรียบง่าย ปกติมากกว่า ทุกอย่างอยู่บนความเป็นจริง บนชีวิตเราจริงๆ หรืออย่างข่าวต่างๆ ที่ออกมา แม่จะบอกเสมอว่าไม่ชอบให้โกหก เราเลยพยายามให้คนคุ้นชินในแบบที่เราเป็นมากกว่า เวลามีข่าวเกิดขึ้น แพนก็จะไม่ปิดบัง พยายามที่จะตอบให้อยู่ในพื้นฐานความเป็นจริง
เวลามีข่าวไม่ดีที่พัวพันกับเวียร์ ตรงนี้ตั้งรับอย่างไร
แพนเค้ก : เราก็ตอบตามความเป็นจริง ว่ามันคือะไร ตอบได้มากน้อยแค่ไหน ก็ว่ากันไป อย่างที่บอกว่าพยายามให้ทุกคนคุ้นกับภาพที่เราสนิทกันมาตั้งแต่แรก ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เวลาเราไปไหนมาไหนด้วยกัน คนก็จะเห็นเป็นภาพคุ้นตา ฉะนั้นคนก็จะรู้สึกเหมือนที่แพนรู้สึกว่าเราไปกันจริงๆ เรามีความรู้สึกดีๆ ให้กัน ไม่เคยปิดบัง อย่างไป จังหวัดขอนแก่น ก็จะบอกว่าเราไปกันจริงๆ ไปกินข้าวกัน
อย่างกรณีข่าวเกาเหลากับขวัญ มองการตอบคำถามเรื่องนี้อย่างไร
แพนเค้ก : ก็ตอบตามความรู้สึก แพนเลือกที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองสบายใจมากกว่า คือแพนไม่เคยคิดที่จะมีปัญหากับใคร ไม่เคยคิดที่จะทะเลาะกับใคร ไม่เคยอยู่ในความคิดเลย แต่แพนก็ห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้ นี่เป็นความคิดของแต่ละคนถูกไหม ฉะนั้นแพนก็เลือกอยู่ในจุดที่แพนสบายใจดีกว่า เซฟตัวเราเองด้วย
เคยคิดไหม ว่าทำไมมีข่าวนี้ออกมาเรื่อยๆ เพราะความดังที่เบียดกันมาด้วยหรือเปล่า
แพนเค้ก : เรื่องแบบนี้คงเกิดขึ้นได้เสมอ เหตุผลของแต่ละคนก็คงไม่เหมือนกัน แล้วถ้าถามว่าทำไมเรื่องมันถึงไม่จบสักที แพนก็บอกว่าเรื่องมันไม่ได้มีอะไรนี่ แพนไม่ได้อะไรต่อ แพนอยู่เฉยๆ
เห็นคุณแดง (สุรางค์ เปรมปรีดิ์) บอกว่าเรียกแต่ละคนไปคุย ได้เข้าไปหรือเปล่า
แพนเค้ก : มี ก็เจอกันบ้าง ได้เข้าไปคุยกัน แต่ไม่ได้คุยเรื่องนี้นะ เป็นเรื่องละครมากกว่า คุณแดงก็มองในมุมของผู้ใหญ่ที่อยู่ในวงการนี้มานาน เห็นทุกอย่างเป็นเจเนอเรชั่นไป ก็จะบอกว่าเรื่องแบบนี้ เมื่อก่อนมันก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เป็นเรื่องแบบนี้มาก่อน สอนแบบเป็นข้อคิดให้เรา
ที่ผ่านมาเซ็งกับข่าวไหนที่สุด
แพนเค้ก : ข่าวที่ไม่มีมูลเหตุจริงๆ มั้ง แต่บางครั้งก็สนุกนะ ข่าวไม่จริง ก็จะคิดว่า เออ...เขาคิดได้นะ อย่างเช่น มีข่าวหนึ่งมาถามแพนว่า มีเศรษฐีคนหนึ่งพาแพนไปล่องเรือที่ทะเล มันเกินความจริงมากๆ แพนก็ตอบไป โอ้โห...มีเศรษฐีพาแพนไปด้วย
เป็นคนเครียดกับข่าวไหม
แพนเค้ก : ไม่นะ น้อย นอกจากบางข่าวจริงๆ ที่ไม่จบสักที แต่พี่ๆ นักข่าวก็จะน่ารัก วันไหนหน้าตาดูไม่ดีเลย ก็จะทัก จะบอกให้สู้นะ ก็ถือว่าโอเค
ตัวตนนอกจอ
ถูกมองเป็นสาวเพอร์เฟกท์ จริงๆ แล้วเป็นแบบนั้นไหม
แพนเค้ก : ไม่ แล้วแต่คนเห็นมากกว่า ถ้าอยู่กับคนที่สนิทหน่อย ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง ไม่ได้ห่วงสวย หรือดูแลตัวเองมากมายขนาดที่คนอื่นคิด ธรรมดาๆ เรื่อยๆ เป็นคนเรื่อยๆ จริงๆ
อยู่มหาวิทยาลัยเพื่อนจะเห็นแพนเค้กแบบไหน
แพนเค้ก : ถ้าเพื่อนสนิทหน่อย จะเห็นแพนดูงงๆ เล่นๆ ขำๆ ไม่ใช่คนขำมาก แต่ก็ไม่ใช่สวย เริ่ด เชิ่ด หยิ่ง ส่วนคนไม่รู้จักแพนก็จะเฉยๆ แต่ก็จะมีคนขอลายเซ็น ถ่ายรูปบ้าง
เรื่องเรียนเป็นอย่างไรบ้าง
แพนเค้ก : ตอนนี้อยู่ปี 3 แล้วก็ไม่ได้เรียนเก่งอะไร พยายามประคับประคองไป เพราะเป็นคนไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก ไม่ได้วางแผนอะไร ตั้งแต่ ม.6 แล้วไม่รู้จะเรียนอะไร เลือกตามที่เขาลงกัน จนมาเรียนมนุษยศาสตร์ เอกอังกฤษ ซึ่งถ้าถามว่าเรียนแล้วอนาคตจะทำอะไร เรียนต่อไหม อันนี้ก็ตอบไม่ได้เหมือนเดิม
งานเยอะขนาดนี้ มีเวลาว่างให้ตัวเองบ้างไหม
แพนเค้ก : จริงๆ แล้วทุกคนมีเวลาแหละ อยู่ที่เราจะทำหรือเปล่าแค่นั้น บางวันงานแน่นทั้งวัน แต่ช่วงเวลาทั้งวันเราก็หาเวลาให้ความสุขตัวเองได้ อย่างแพนจะอยู่กับแม่ตลอด ถ้าว่างแป๊บหนึ่ง ก็อาจจะแวบไปช็อปปิ้ง ทำเล็บกัน หรือถ้ามีเวลาก็ไปต่างจังหวัดค้างคืนหนึ่งแล้วกลับมาทำงานใหม่
ทำงานเร็ว เสียดายช่วงเวลาวัยรุ่นที่หายไปหรือเปล่า
แพนเค้ก : ช่วงแรกๆ ก็เสียดายบ้าง หลังๆ ก็เริ่มเฉยๆ แล้ว เหมือนเราดูโตกว่าเพื่อนด้วย เริ่มคุยกันไม่รู้เรื่อง เพื่อนๆ เขาก็จะมีช่วงเวลาสนุกของเขาไปทำกิจกรรมร่วมกัน เราก็จะไม่รู้เรื่อง แต่โอเค ก็ยังคุยกันได้ เพื่อนก็น่ารักพยายามจะแบ่งปันข้อมูลช่วงเวลาดีๆ ให้กัน มันคงเป็นเรื่องได้อย่างเสียอย่าง เราคงทำทุกอย่างพร้อมกันไม่ได้ เราก็จะพยายามรักษาทุกอย่างไว้ให้ดีที่สุด
คิดว่า ได้อะไร เสียอะไร
แพนเค้ก : เสียก็คงเป็นเวลาส่วนตัว ซึ่งไม่ได้เยอะมาก เพราะแพนก็พยายามที่จะรักษาทุกอย่างให้เหมือนเดิม แต่สิ่งที่ได้เยอะกว่าเพราะตลอดเวลา 4 ปีที่ผ่านมา มันได้อะไรเยอะมากๆ เลย เป็นช่วงเวลาปรับตัว เรียนรู้ ดีใจ เสียใจ การแก้ไข เดินหน้า ต่อสู้ฝ่าฟันกันไป
หัวใจที่มีคนจอง
หนุ่มๆ อยากได้แฟนแบบแพนเค้ก
แพนเค้ก : (หัวเราะ) จริงๆ แฟนแบบแพนเค้กไม่ได้ดีเสมอไปนะ มีง่องแง่ง เงอะงะ เอาแต่ใจตัวเอง แล้วแพนเป็นคนค่อนข้างยึดติดกับการอยู่กับครอบครัว ในที่ของตัวเองมากกว่า ถ้าให้เลือกก็จะชอบให้คนอื่นเข้ามาอยู่ในครอบครัวของเรามากกว่า แพนอาจจะใช้ชีวิตอยู่กับคุณแม่ด้วยแหละ คนที่จะรู้จักกับเราก็จะต้องรู้ไลฟ์สไตล์ของเราด้วยว่าเราเป็นแบบนี้นะ
เป็นสาวฮอตขนาดนี้ แต่กลับเปิดเรื่องของหัวใจที่มีเจ้าของตั้งแต่แรก
แพนเค้ก : แพนว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วนะ ที่จะมาบอกว่าเปล่า ไม่มี ไม่ได้รัก แพนจะบอกความรู้สึกส่วนหนึ่งที่บอกได้ไป ทุกวันนี้ทุกอย่างมันค่อนข้างเปิดเผยมากขึ้น เราเองก็อยู่ในขอบเขตที่ดี เรื่องของผู้ชายผู้หญิงก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายเสมอไป เราทำสิ่งที่ดีได้ ทำงานด้วยกันเป็นที่รักของประชาชนก็ยังทำอะไรเพื่อสังคมได้อีกมาก
มีงานเยอะทั้งคู่กลัวเรื่องความห่างหรือไม่
แพนเค้ก : ไม่ค่อย ค่อนข้างเจอกันบ่อยอยู่แล้ว อยู่ช่องเดียวกัน ด้วยไลฟ์สไตล์ปกติที่คล้ายกัน ก็จะได้มาเจอกันที่บ้านแพนบ่อยๆ ไม่เจอแพน เขาก็จะไปทำกิจกรรมกับคุณพ่อ หรือน้องแพน เขาค่อนข้างเข้ากับทุกคนได้ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องมาพะวงอะไร
ต่างคนต่างสวย หล่อ แล้วอยู่ในวงการก็ต้องมาเจอแต่คนสวย หล่ออีก กังวลเรื่องหวั่นไหวไหม
แพนเค้ก : ก็ถ้าเราอยู่ในจุดที่พอดีแล้ว พี่เวียร์เป็นคนที่สนิทที่สุด แล้วแพนก็ไม่ใช่คนที่เปลี่ยนแฟนเยอะ หรือวิ่งเข้าไปหาใคร แพนรู้สึกว่าถ้าในชีวิตแพนจะมีความรักสักครั้ง ขอมั่นคงและระยะยาวดีกว่า
จริงจังแค่ไหนกับรักครั้งนี้
แพนเค้ก : ไม่ถึงกับจริงจัง แต่ได้เรียนรู้อะไรร่วมกันมากกว่า อย่างพี่เวียร์ซึ่งแพนไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร ยังไงนะ เราเริ่มมาพร้อมกัน จากคนที่ไม่มีคนรู้จักเยอะ เราได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของกันและกันมาก่อนที่จะมีชื่อเสียง ทำให้ยอมรับในสิ่งที่เป็นตัวของตัวเองตั้งแต่แรกทุกอย่าง ไม่เฟกแน่นอน แล้ววันนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นไม่ได้เปลี่ยนไป
คำว่า รัก สำหรับแพนเค้กหมายถึงอะไร
แพนเค้ก : หมายถึงความรู้สึกดีๆ สิ่งที่ทำให้เรามีกำลังใจ มีสิ่งที่เราศรัทธาอยู่ในหัวใจ และจะทำให้เรามีชีวิตต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
