สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
อภิสิทธิ์ ย้ายสถานที่แถลงนโยบายรัฐบาลไปที่กระทรวงการต่างประเทศ หวังหลีกเลี่ยงการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจ ด้านฝ่ายค้านลั่นไม่ถูกต้อง ไม่เข้าร่วมประชุมด้วย
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีตัดสินใจแถลงนโยบายที่กระทรวงการต่างประเทศขณะนี้ได้นัดพรรคร่วมรัฐบาลมาเรียบร้อยแล้ว และรัฐบาลแสดงเจตจำนงว่าจะเข้าประชุมสภา แต่มีการขัดขวางจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงสถานที่ โดยตรวจสอบจากรัฐธรรมนูญและข้อบังคับของรัฐสภา ซึ่งได้รับการยืนยันจากสภาว่าสามารถทำได้ และได้แจ้งไปยังพรรคร่วมรัฐบาลและส.ว.แล้ว ว่าการที่มาแถลงที่นี่เป็นเหตุสุดวิสัย เหตุการณ์ไม่ปกติ และจะแถลงทันทีที่พร้อม ซึ่งการย้ายมาที่นี่ถึงแม้ว่ากลุ่มเสื้อแดงจะตามมาก็เป็นสิทธิ์ทำได้ แต่ประเทศต้องเดินหน้าถ้ายังไม่แถลงก็ไม่สามารถทำงานได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าองค์ประชุมครบแน่ โดยนัดหมายเวลา 09.40 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่บรรยากาศที่กระทรวงการต่างประเทศ มีทั้งส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อแผ่นดิน รวมถึง ส.ว.ได้เดินทางมาสมทบ ต่างจับมือทักทายพูดคุยกัน โดยนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขานายกฯ กล่าวว่า เป็นประสบการณ์ชีวิตที่หาไม่ได้แล้ว ขณะที่นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.ประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปี 35/1 ว่าเหนื่อยแล้ว ปีนี้เหนื่อยกว่า ส่วนนายนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน บอกว่าหลายแผนเหลือเกิน
นายวิทยา บูรณศิริ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่าไม่ไปร่วมประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศ เพราะตามข้อบังคับทำไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของสภา แต่รัฐบาลกำลังจะบอกว่าไม่แถลงนโยบายที่สภา ทั้งๆ ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีจะต้องแถลงที่สภาเท่านั้น ไม่ใช่จะทำอะไรก็ทำ การจะเปลี่ยนสถานที่ต้องมาขอสภาก่อน
"การแถลงนโยบายนอกสภาไม่เคยมี อย่างน้อยประธานต้องนั่งบนบัลลังก์ หรือประธานต้องแจ้ง ไม่ใช่นึกจะทำตามรัฐบาล อำนาจนิติบัญญัติกำลังถูกฝ่ายบริหารครอบงำ ผมไม่ยอมรับการติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ วุฒิสมาชิกเป็นนิติบัญญัติต้องมีศักดิ์ศรี" นายวิทยา กล่าว
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องแถลงนโยบายที่สภาก็ได้ เพียงแต่ต้องให้ครบองค์ประชุม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการปะทะกันจนบาดเจ็บและเสียชีวิต
นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ตอนนี้เข้าสภาไม่ได้ ก็วุ่นวาย ดังนั้นเปลี่ยนสถานที่เพื่อให้แถลงนโบบายของรัฐบาลได้ก็ไม่เป็นไร ซึ่งมีส.ว.บางท่านไม่เห็นด้วยก็มี โดยบอกว่าไม่ควรเปลี่ยนสถานที่ ควรใช้รัฐสภา แต่ยอมรับว่ามีความไม่สง่างาม แต่เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ก็ต้องเปลี่ยนสถานที่
นายพิฑูรย์ พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้รับการประสานจากประธานสภาในการเปลี่ยนสถานที่ ส่วนจะเหมาะสมหรือไม่ ถือเป็นความเห็นซึ่งประธานก็เคยสอบถามมาว่าทำได้หรือไม่ ฝ่ายหนึ่งบอกว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีเลย อีกฝ่ายบอกว่าถ้ามีความจำเป็นสามารถทำได้ ไม่ใช่เรื่องถูกผิด
ถามว่าสภาคืออะไร คืออาคารรัฐสภา เพียงแต่เป็นประเพณีที่ผ่านมาถ้าเลือกได้ก็อาคารรัฐสภา ขณะที่องค์ประชุมต้องไม่น้อยกว่า 292 จึงสามารถเปิดประชุมสภาได้ ซึ่งดูแล้วจำนวนส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และส.ว.ก็เพียงพอ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่งเติมว่า ห้องประชุมของกระทรวงการต่างประเทศ สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้ถึง 500 คน โดยองค์ประชุมที่สามารถเปิดประชุมสภาได้คือ 291 คน
ขณะที่บริเวณโดยรอบกระทรวงการต่างประเทศมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยรอบ รวมทั้งขอกำลังเสริมจากสารวัตรทหาร ในการที่เข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับ ส.ส. และส.ว.ที่เข้าร่วมประชุมด้วย ขณะที่ กลุ่ม นปช. หลังทราบข่าวว่ามีการย้ายสถานที่แถลงนโยบาย ก็ได้เริ่มเคลื่อนขบวน มายังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อกดดันฝ่ายรัฐบาลทันที
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.10 น. นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้เปิดการประชุมสภาเพื่อแถลงนโยบายรัฐบาล โดยนายชัย กล่าวว่า ขณะนี้องค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่งแล้ว ซึ่งมีเสียง 310 เสียง และเนื่องจากเหตุการณ์หลายอย่างที่ทุกคนทราบดี จึงขอให้ที่ประชุมอนุมัติย้ายสถานที่จากรัฐสภามายัง กระทรวงการต่างประเทศ เพราะขณะนี้รัฐบาลถูกล้อมไม่สามารถเข้าถึงได้ จึงขอมติที่ประชุมให้มีการย้ายสถานที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมไม่มีใครคัดค้าน และเห็นด้วย จากนั้นได้มีการอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้าเป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมต่อไป ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่เป็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ว. โดยไม่มี ส.ส.ฝ่ายค้านเข้าร่วมแต่อย่างใด
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
