พันตรีหญิง ชลรัศมี งาทวีสุข นักข่าวสาวสวยช่อง 5 ที่กำลังเป็นประเด็นมีชื่อเอี่ยวทริปบินฮาวาย กับ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาดูประวัติ ชลรัศมี งาทวีสุข กันได้เลย
ตกเป็นที่จับตาและกลายมาเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ในชั่วข้ามคืน สำหรับ ชลรัศมี งาทวีสุข พิธีกรข่าวช่อง ททบ.5 ซึ่งถูกสังคมตั้งคำถามว่าเป็นหนึ่งในคณะเดินทาง 38 คน ของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือไม่ ในการเช่าเหมาลำเครื่องบินการบินไทยไปประชุมที่ฮาวาย เดินทาง 4 วัน โดยมีค่าใช้จ่ายกว่า 20 ล้าน ซึ่งแม้ว่าเจ้าตัวจะออกมาปฏิเสธ ยืนยันว่าไม่ได้ร่วมเดินทาง แต่ก็ไม่วายถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง
จากเรื่องดังกล่าวทำให้หลายคนเกิดความสงสัย และสนใจในความเป็นมาของผู้ประกาศข่าวสาว ชลรัศมี งาทวีสุข อยากรู้ว่าเธอเป็นใคร และเคยฝากผลงานใดให้ได้ติดตามกันบ้าง กระปุกดอทคอมจึงได้ขอหยิบยก ประวัติ พันตรีหญิง ชลรัศมี งาทวีสุข แห่ง ททบ.5 มาฝากกันค่ะ
พันตรีหญิง ชลรัศมี งาทวีสุข หรือ ทิพย์ เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2524 ปัจจุบันอายุ 34 ปี เป็นบุตรสาวของ ชาญชัย งาทวีสุข ผู้จัดการภาคอาวุโส บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (AIA) และ มณฑารักษ์ งาทวีสุข
ด้วยความที่สนใจงานแวดวงสื่อสารมวลชนอยู่แล้ว ชลรัศมี จึงตัดสินใจสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเธอก็สามารถทำความฝันให้เป็นจริง เมื่อเรียนจนจบปริญญาตรี ในสาขาการสื่อสารมวลชน (วิทยุและโทรทัศน์) ได้สำเร็จ ในระหว่างที่ศึกษาอยู่ที่คณะนิเทศศาสตร์นั้น ชลรัศมี ก็จัดเป็นนักกิจกรรมตัวยงคนหนึ่ง เพราะความช่างพูด ช่างถามของเธอ จึงทำให้เธอได้รับหน้าที่เป็นพิธีกรงานฟุตบอลประเพณี เล่นละครเวทีประจำปีของคณะ หรือแม้กระทั่งการประกวดกุลธิดากาชาด ประจำปี 2543
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ ชลรัศมี ได้เข้ามาสู่แวดวงข่าวสารนั้น เริ่มตั้งแต่เมื่อครั้งที่เธอเรียนอยู่ปี 4 ที่เธอได้ลงไปทำข่าวภาคสนามรายงานการเลือกตั้งของประเทศให้สถานีวิทยุจุฬาฯ ทำให้เธอเกิดความประทับใจ ประกอบกับได้ไปฝึกงานที่สถานีโทรทัศน์ไอทีวี ยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่า อาชีพนี้แหละที่เธอปรารถนามากที่สุด และโอกาสก็มาถึงเมื่อทาง ช่อง 5 เปิดรับสมัครผู้ประกาศ ชลรัศมี จึงไม่รีรอที่จะยื่นใบสมัครแม้จะยังเรียนอยู่ก็ตาม
เมื่อ ชลรัศมี ได้รับการคัดเลือก เธอก็เริ่มต้นสายงานนี้ ด้วยการเป็นผู้สื่อข่าวประจำสายราชสำนักของรั้วสนามเป้าอยู่ประมาณ 1 ปี ก่อนที่จะย้ายไปทำหน้าที่เป็นผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจในรายการ "เข็มทิศเศรษฐกิจ" ซึ่งเธอก็ยอมรับว่าตัวเองไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจเลย แถมยังต้องทำเองทุกอย่าง ทั้งเขียนบท คิดประเด็น เชิญผู้ร่วมรายงาน แต่เธอตั้งใจว่าจะทำให้ดีที่สุด ด้วยความขัยนและอุตสาหะ ทำให้สุดท้ายผู้ชมต่างก็ยอมรับในความสามารถของเธอว่าเป็นคนที่มีลีลาอ่านข่าวน่าติดตาม และยังวิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจได้อย่างแม่นยำ ได้รับคำชมอย่างนี้จึงทำให้ชลรัศมีหายเหนื่อยไปเลย
จากนั้นชลรัศมีก็หายหน้าหายตาไปจากจอโทรทัศน์อยู่ประมาณ 2 ปี เพราะบินลัดฟ้าไปเรียนต่อปริญญาโท ก่อนจะกลับมาพร้อม ๆ กับการคว้าเกียรตินิยม สาขา International Journalism จากมหาวิทยาลัยลีดส์ ประเทศอังกฤษ มาได้อีก 1 ใบด้วย เรียกได้ว่า ชลรัศมี มีสายเลือดนักข่าวอยู่เต็มตัวจริง ๆ
ทั้งนี้ ชลรัศมี ก็มีมุมมองต่อข่าวสารที่น่าสนใจว่า "ทิพย์เชื่อว่างานข่าวไม่หยุดนิ่งและไม่มีวันหมด เราจึงต้องหมั่นเพิ่มคุณความรู้ เหมือนน้ำที่ไม่เต็มแก้วเสมอ เพราะไม่อย่างนั้นการทำงานข่าวจะตาย ในขณะที่โลกเปลี่ยนไปทุกวัน อย่างสึนามิสมัยก่อนตำราเรียนบอกว่าไม่เคยเกิดในประเทศไทย แต่ปัจจุบันนี้เกิดขึ้นแล้ว ดังนั้น สิ่งที่ทิพย์พยายามทำเพื่อรักษาคุณภาพงานตรงนี้ คือจะไม่หยุดยั้งกับการเรียนรู้มีความเป็นเด็กซึ่งอยากรู้อยากเห็นตลอดเวลา แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีความเป็นผู้ใหญ่และเป็นมืออาชีพในเวลาทำงานด้วย"
เพราะความคิดนี้เองที่ทำให้ ชลรัศมี จัดเป็นนักข่าวฝีมือดีคนหนึ่งที่มีแฟน ๆ คอข่าวให้ความสนใจ ติดตามการอ่านข่าวของเธออยู่เสมอ อีกทั้งยังมีเสียงสนับสนุนจากหนุ่ม ๆ ว่า ด้วยหน้าตาน่ารักชวนมอง บวกกับรอยยิ้มที่สดใส เลยพลอยเพิ่มความรื่นรมย์ สบายตาสบายใจ ไปกับการอ่านข่าวของเธออีกยกกำลังสอง
ทั้งนี้ ในช่วงที่ ชลรัศมี ทำงานข่าวอยู่ที่ช่อง 5 ในยุคก่อนที่จะไปศึกษาต่อที่อังกฤษนั้น ก็บังเอิญเป็นช่วงที่ผู้บัญชาทหารบกขณะนั้นชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นผบ.ทบ. อยู่พอดี
กระทั่งกลับจากอังกฤษ ก็กลับเข้ามาทำงานอีกที่ ททบ.5 ในฐานะผู้ประกาศประจำรายการสนามเป้าเล่าข่าว และเจาะประเด็นข่าวร้อน
ในห้วงเวลานี้เอง ชลรัศมีเคยให้สัมภาษณ์ไทยรัฐว่า มี "ผู้ใหญ่ที่เคารพคนหนึ่ง" ได้บอกให้ทาง ผอ.ช่อง 5 มาสอบถามกับกับตนว่าสนใจมาสมัครเป็นทหารเพื่อช่วยทำประโยชน์ให้กับกองทัพหรือไม่ เพราะมีความรู้ความสามารถ ซึ่งผลก็คือการ "ตอบรับ"
พิธีกรข่าวสาวคนนี้ จึงเริ่มต้นชีวิตราชการทหารสังกัดกองทัพบก ติดยศร้อยตรี ปี 2551 และผ่านการปรับยศมาเรื่อยๆ จนล่าสุด ปี 2558 ขึ้นเป็น "พันตรี(หญิง)" หรือ ผู้พันทิพย์เช่นปัจจุบัน
นอกจากนั้น ก็ยังทำธุรกิจส่วนตัวเปิดบริษัท "งาทวีสุข" และ "สื่อสายรุ้ง" ควบคู่ไปด้วย รับงานจ้างวางสื่อโฆษณาและวางแผนภาพลักษณ์
อย่างไรก็ตาม ชื่อของ พันตรีหญิง ชลรัศมี งาทวีสุข ได้กลายมาเป็นประเด็นสังคมครั้งใหญ่ หลังปรากฏว่ามีชื่อของเธอ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมเดินทางไปรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา กับคณะทำงานฝ่ายความมั่นคงของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อร่วมการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน และรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 29 กันยายน-2 ตุลาคม 2559 ซึ่งต่อมา ชลรัศมี ก็ได้ออกมายืนยันผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเธอไม่ได้เดินทางไปด้วย ยังอ่านข่าวอยู่หน้าจอช่อง 5 พร้อมบอกไปถึงคนที่จับผิดว่า อย่ามโนเยอะ !
ทั้งนี้สำหรับแฟนข่าวที่อยากติดตามผลงานของ ชลรัศมี พบกับเธอได้ในรายการ เช้านี้ประเทศไทย, คุยยกบ้าน และ ชลรัศมีกับวีไอพี ทางช่อง ททบ.5
***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 11.19 น. วันที่ 6 ตุลาคม 2559
ภาพจาก
เฟซบุ๊ก Tippy Leeds,
เฟซบุ๊ก ชลรัศมีกับวีไอพี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
-
นิตยสารสกุลไทย