สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจากนิตยสารสุดสัปดาห์ มติชนออนไลน์ และหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
การแข่งขันฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 65 ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ที่สนามศุภชลาศัย ซึ่งปีนี้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นเจ้าภาพจัดงาน ภายใต้แนวคิดหลักร่วมกันในชื่อ Theme ของงานคือ "สานต่อ ก่อความคิด สร้างจิตสาธารณะ" เพื่อแสดงให้เห็นว่า แม้นิสิตนักศึกษาทั้ง 2 สถาบันจะอยู่ต่างสถาบัน แต่ก็มีความรักสามัคคี ที่จะรวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคม โดยเฉพาะการร่วมบรรเทาปัญหาความแตกแยกของสังคม ในปัจจุบัน ทั้งเหตุการณ์ความไม่ สงบในภาคใต้ และการแบ่งฝ่ายของประชาชนชาวไทยที่มีความคิดแตก ต่างทางการเมือง
ทั้งนี้ การแข่งขันฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬา ปีนี้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นเจ้าภาพ ต้อนรับการมาเยือนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมหาวิทยาลัธรรมศาสตร์ถูกยกให้เป็นต่อ ด้วยขุมกำลังนักเตะดีกรีทีมชาติอย่าง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว จอมทัพทีมชาติไทยเป็นตัวชูโรง พร้อมด้วยนักเตะดาวดังในไทยลีก ทั้ง ชาคริต บัวทอง, อภิเชษฐ์ พุฒตาล, อภิภู สุนทรพนาเวศ
รวมทั้ง ไอ้กระยางดำ-โชคทวี พรหมรัตน์ ปราการหลังจอมเก๋าที่จะสวมปลอกแขนกัปตันทีมนำทัพทีมลูกแม่โดม ในฟุตบอลประเพณีเป็นครั้งสุดท้ายก่อนอำลาสนาม หลังจากรับใช้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาอย่างต่อเนื่องถึง 14 ปีเต็ม มี เชิดศักดิ์ ชัยบุตร เป็นโค้ช ขณะฝั่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมี ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นโค้ช ได้นักเตะพลังหนุ่มอย่าง วุฒิชัย ทางทอง, กิตติพล ปาภูงา, อดิศักดิ์ กานู ร่วมทัพ
โดยเกมในครึ่งเวลาแรกสองฝ่ายต่างผลัดกันรุกและรับ จนนาทีที่ 39 ไกรเกียรติ เบียดตะคุ โหม่งทำประตูให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขึ้นนำ 1-0 ในครึ่งเวลาหลัง ลูกแม่โดมได้เฮอีกครั้ง รชานนท์ ศรีนอก หัวหอกดาวรุ่งคนใหม่จากทีมเยาวชน 19 ปี ซัดทำประตูขึ้นนำเป็น 2-0 จบการแข่งขันมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ชนะไป 2-0
สำหรับสถิติของศึกฟุตบอลประเพณี ทั้ง 64 ครั้งที่ผ่านมา ปรากฏว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เหนือกว่า เพราะเป็นฝ่ายชนะไป 21 ครั้ง ขณะที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยชนะ 13 ครั้ง และเสมอกันไป 30 ครั้ง โดยล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว ทั้ง 2 ทีมเสมอกันไป 0-0 ได้ครองถ้วยประเพณีร่วมกันไป
ส่วนบรรยากาศภายในงานเรียกได้ว่าคึกคักสุดๆ มีบรรดาศิษย์ลูกแม่โดมและจามจุรีเดินทางมาร่วมงานอย่างเนื่องแน่น โดยเริ่มด้วยขบวนพาเหรดของนิสิต-นักศึกษา ทั้ง 2 สถาบัน พร้อมด้วยสีสันของกองเชียร์ เชียร์ลีดเดอร์ รวมถึงการแปรอักษร
นอกจากนี้ ยังมีสีสันจากขบวนพาเหรดล้อเลียนการเมืองของทั้งสองมหาวิทยาลัย เริ่มจากขบวนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อัญเชิญพระเกี้ยว ขบวนนกกะเรียนสันติภาพ ต่อด้วยขบวนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขบวนธรรมจักร ขบวนเชิดชูเกียรติท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ ภริยา นายปรีดี พนมยงค์ อดีตนายกรัฐมนตรี ปิดท้ายด้วยขบวนล้อการเมือง เข้ามาในสนาม ก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันฟุตบอล
สำหรับริ้วขบวนล้อการเมือง ประกอบด้วย หุ่นล้อเลียน 5 ตัว ได้แก่ หุ่นตัวที่ชื่อ "Deva or Zatan" ล้อเลียนนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยืนอยู่บนลูกโลก ร่างกายถูกแบ่งเป็นสองด้าน คือ ด้านดีและด้านเลว
หุ่นตัวที่ 2 ชื่อ "ตีนติดแอก แบกเบอร์เกอร์" ล้อเลียน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีลักษณะกำลังยกน้ำหนักแบกรับภาระ "วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์"
หุ่นตัวที่ 3 ชื่อ "ปิ๊งรักสลับขั้ว" ล้อเลียนนายอภิสิทธิ์ และนายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน โดยหุ่นทั้งสองสวมชุดนักมวยจับมือและโอบไหล่กัน ใบหน้ามีบาดแผลพร้อมกับรอยยิ้ม โดยหุ่นนายอภิสิทธิ์ สวมกางเกงเขียนว่า "ศิษย์ เทพประทาน" คล้องเข็มขัดแชมป์ ส่วนหุ่นนายเนวินสวมกางเกงเขียนว่า "ยี่ห้อยต่อยหักเหลี่ยม" ด้านหลังพกมีดสปาร์ตา
หุ่นตัวที่ 4 ชื่อ "สื่อ สาร มาร ชน" หุ่นล้อเลียนการทำงานของสื่อมวลชน โดยมีลักษณะเป็น หุ่นปีศาจโทรทัศน์ เป็นสัญลักษณ์แทนสื่อมวลชนที่ไร้จรรยาบรรณ มุ่งแต่จะหาผลประโยชน์แก่ผู้รับสื่อ มือของปีศาจกำลังชักใยหุ่นควายทั้งสองตัว ทำท่าจะให้ชนกัน แสดงให้เห็นภาพผู้รับสื่อที่ขาดความรู้เท่าทันและวิจารณญาณที่พอเพียง จนกลายเป็นหุ่นเชิดที่ต้องเดินตามเกมของสื่อ สาร มาร ชน
หุ่นตัวที่ 5 ชื่อ "สายลมแรง แสงแดดจัด 2552" ล้อเลียนนิสิต นักศึกษา ที่แสดงออกถึงความสุขหลงไปกับสิ่งยั่วยุมัวเมา เช่น การใช้ของแบรนด์เนม เดินห้างดัง, เล่นเกม, แช็ตออนไลน์, และเฮฮาไปกับสุราและสิ่งเสพติด ขณะที่แผ่นดินไทยลุกเป็นไฟจากปัญหาที่ถาโถม
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ