
เปิดใจ แม่ดาริกา กับรักที่ให้ ลูกสะใภ้คนรอง (คมชัดลึก)
เมื่อหญิงสาวถึงคราวออกเรือน ดูเหมือนใครต่อใครก็มักจะจับจ้องเรื่องราวระหว่าง "แม่ผัว" กับ "ลูกสะใภ้" แทบทุกครา ก็ดูอย่างคุณแม่ ดาริกา ปุณณกันต์ ที่ครองตำแหน่ง "แม่ไม่ปลื้ม" อยู่นานสองนาน ด้วยก่อนหน้าที่ลูกสะใภ้คนรองอย่าง "กบ" สุวนันท์ คงยิ่ง จะก้าวเท้าเข้ามาดองกับลูกชายคนที่สองอย่าง "บรู๊ค" ดนุพร ปุณณกันต์ ก็มีข่าวไม่ปลื้มนักระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้ ตีพิมพ์ลงหน้า 1 หนังสือพิมพ์ไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้หลายฝ่ายที่รู้จักมักจี่ของทั้งสองฝั่งพากันละเหี่ยใจ
กระทั่งสะใภ้คนล่าสุดยอมถือพวงมาลัยแสนสวย พร้อมก้มลงกราบขอโทษคุณแม่สามี ถึงเรื่องราวเข้าใจผิดที่ผ่านมาอย่างอ่อนน้อม ก่อนเข้าสู่ประตูวิวาห์อย่างเป็นทางการ สบโอกาสเหมาะให้คุณแม่สามีเทศนากัณฑ์ใหญ่อยู่หลายชั่วโมง ด้วยความรักและเอ็นดูกับลูกสะใภ้ที่จะเข้ามาใช้นามสกุลเดียวกัน หลังจากพิธีวิวาห์แสนเรียบง่ายจบลง ดูเหมือนข่าวค(ร)าวของแม่ผัวและลูกสะใภ้คู่นี้ก็ดูจะจางลงไปด้วย
แม้เพิ่งจะผ่านพ้นวันแห่งความรักมาหมาดๆ "คม ชัด ลึก" เลยขอนัดแนะคุณแม่ดาริกา เพื่อมาเปิดใจถึงความรักของเธอที่มีให้แก่ลูกสะใภ้คนล่าสุด ท่ามกลางบรรยากาศแสนสุขในบ้านพักย่านราชครู แม่ดาเกริ่นให้ฟังว่า ด้วยความที่ลูกสะใภ้คือคนที่มาจากครอบครัวอื่น การอบรมสั่งสอนของแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน ถ้าไม่รู้จักปรับตัวก็จะเกิดช่องว่างขึ้น ดังนั้นเมื่อมีคนนอกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว การจะพูดหรือบอกอะไรจึงต้องคอยระวัง ไม่เหมือนกับลูกที่เลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออก ที่สามารถบอกกล่าวกันได้แบบตรงไปตรงมา
"ไม่ว่าจะเป็นลูกสะใภ้หรือลูกเขยก็ต้องมีอะไรที่ทำให้เราไม่ถูกใจกันบ้าง บางครั้งก็เลี่ยงที่จะไม่พูดให้เป็นการหักหามน้ำใจ แต่ก็จะคอยหาจังหวะ เวลา และโอกาสที่เหมาะๆ บอกและสอนเขา อย่างเวลาที่เราหอมลูกซึ่งเราทำแบบนี้กันมาตลอด คนนอกอาจจะดูแปลกๆ ว่าทำไมโตป่านนี้แล้วยังให้แม่หอมอีก นี่อาจจะเป็นเพราะครอบครัวเขาไม่ค่อยได้ทำแบบนี้ ก็เลยไม่ชินกับภาพที่เราทำกันเป็นประจำ ถ้าเราไม่ทำสิลูกๆ ก็จะว่าแม่เป็นอะไร แต่กับลูกเขยลูกสะใภ้ก็มีบ้างเหมือนกัน อย่างเวลาเขามาลาจะไปต่างประเทศ เราก็กอดเขาหรือครั้งไหนที่ไม่ได้เจอกันนานๆ เราก็กอดกันหอมกัน คือ การแสดงออกถึงความรักที่มีให้กับลูกเขยและลูกสะใภ้จะเป็นในโอกาสพิเศษๆ มากกว่า เพราะเรากลัวว่าเขาจะไม่ชินกับการปฏิบัติของเรา แต่กับลูกเราก็จะทำแบบนี้กับเขาทุกครั้งเป็นปกติ" แม่ดาแจกแจง
ส่วนความรักที่มีให้แก่ลูกสะใภ้แม่ดาเผยว่า พยายามที่จะให้ความรักกับเขาเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้เขารู้สึกว่าเขาโดดเดี่ยวในครอบครัวของเรา เนื่องจากลูกสะใภ้เข้ามาอยู่ในครอบครัวเพียงคนเดียว ดังนั้นหากเกิดปัญหาขึ้นระหว่างลูกสะใภ้กับลูกชาย แม่ดาก็เลือกที่จะเข้าข้างลูกสะใภ้ก่อนเป็นอันดับแรก แม้ว่าปัญหาเหล่านั้นลูกสะใภ้จะเป็นฝ่ายผิด ก็จะเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงเพราะไม่ต้องการให้ลูกสะใภ้รู้สึกว่าถูกรุมหรือโดดเดี่ยว
"อย่างของกบ เขาแต่งงานแล้วแต่ไม่ได้อยู่บ้านนี้ก็จริง ก็จะมีสอนเขาบ้างยิ่งเพิ่งเข้ามาใหม่ ยิ่งต้องรีบสอนให้เขารู้ถึงการปฏิบัติของครอบครัวเรา อย่างอะไรที่เราไม่ชอบ ก็จะหาโอกาสเหมาะๆ ค่อยๆ พูดบอกเขา เพราะเราหวังดีไม่อยากให้ใครมาว่าคนในครอบครัวของเรา แต่ก็ไม่ใช่การตำหนิจะเป็นในทำนองการสอนและแนะนำมากกว่า ยิ่งตอนนี้เขาเป็นภรรยาส.ส.ด้วย การวางตัวของเขายิ่งต้องระวังมากขึ้น จะมากระโดดโลดเต้นมากไปก็ดูไม่ดี เรื่องแบบนี้แม่ก็จะบอกเขา อะไรที่มากไปก็จะคอยพูดคอยเตือน เพราะเขาเป็นคนของประชาชน ซึ่งมีทั้งคนรักและคนชัง" แม่ดาริกากล่าว
จากเรื่องราว "แม่ไม่ปลื้ม" ที่ผ่านมา แม่ดาวิเคราะห์ว่าดูจะส่งผลเสียต่อตัวกบมากพอสมควร เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากความเข้าใจผิด การไม่เข้าหาผู้ใหญ่ และการไม่พยายามชี้แจงเหตุผลของลูกสะใภ้ ทำให้ใครหลายคนมองว่า กบอวดดีเป็นดาราดังแล้วแน่ผู้ใหญ่ไม่จำเป็นต้องเข้าหาแทน
"ตอนที่เขาเข้ามากราบขอโทษ เราก็สอนเขาไปเยอะ บอกเขาว่าแม่เลี้ยงลูกมาด้วยมือของแม่ มีอะไรเราให้ลูกหมด ฉะนั้นลูกจะทำอะไรต้องเกรงใจพ่อแม่ ครอบครัวนี้เป็นแบบนี้ แต่ของกบเป็นคนหาเลี้ยงพ่อแม่ หนูจะกดพ่อแม่ให้ยอมหนูเหมือนครอบครัวหนูไม่ได้ ต้องระลึกเอาไว้เสมอว่าพ่อแม่จะหาใครมาแทนไม่ได้ ไม่เหมือนแฟนที่ไม่พอใจก็เปลี่ยนใหม่ พ่อแม่ก็คือพ่อแม่ลูกจะไม่เคารพพ่อแม่ไม่ได้ ยอมรับเลยว่าการกระทำของเขาที่ผ่านมา ทั้งความไม่สนใจความอวดดีของเขา ยอมรับไม่ได้จริงๆ แต่ก็ดีที่เขามาขอโทษก่อนแต่งงาน ไม่งั้นก็คงจะไม่ไปงานเขา
พอตอนนี้แต่งงานกันแล้ว เขาก็ต้องค่อยๆ ปรับตัว ซึ่งที่ผ่านมาเขาก็รู้ว่าสิ่งที่เขาทำมีแต่ผลลบ ยิ่งระยะหลังเริ่มมีแต่ข่าวลบมากขึ้น แต่ก็อาศัยหนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน เราจะบอกลูกๆ และลูกสะใภ้เสมอว่า ยิ่งดังยิ่งต้องก้มหัวให้ต่ำใครเห็นใครก็รัก อย่าเชิดใส่ให้เขามองว่าเราหยิ่งยโสแบบนั้นจะมีแต่คนชัง" แม่ดาแนะการประพฤติตัวในสังคม
ใช่เพียงเธอจะมีความรักให้แก่ลูกทั้ง 4 คน และลูกสะใภ้เท่านั้น แต่ความรักของเธอยังแจกจ่ายให้แก่หลานๆ ตัวกระจ้อยอย่างหลานชาย "ปุณณ์" ปุณณ์ ปุณณกันต์ และหลานสาว "แอล" บุณฑรีก์ พรธิติ เธอเล่าว่า ด้วยความที่ตอนลูกยังเด็กจะถูกเธอเข้มงวดมากในทุกๆ เรื่อง กระทั่งพวกเขามีลูกของตัวเอง สิ่งที่เธอพร่ำสอนและเข้มงวดมาโดยตลอด จึงถูกถ่ายทอดมาสู่หลานๆ ด้วยเช่นกัน
"หลานๆ จะถูกพ่อแม่ดูแลอย่างใกล้ชิดและเข้มงวดมาก แต่อย่างบี (พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์) เขาก็จะบอกว่าเราตามใจหลาน จริงๆ แล้วที่เราตามใจเพราะเรารู้ว่าสิ่งที่เราจะให้เขา ไม่ได้เสียหายอะไร อย่างถ้าเกิดเขาอยากได้ของเล่นอะไรที่เล่นแล้วเกิดประโยชน์กับเขา เป็นการช่วยพัฒนาสมองของเขา เราก็ยอมที่จะเสียเงินให้ ถึงแม้พ่อเขาจะบอกว่าแพงเกินไป แต่ทุกอย่างที่เขาขอและเราให้ต้องมีเหตุผลด้วยกันทั้งนั้น อย่างสมมติว่าพ่อเขาไม่ให้เขาก็จะมากระซิบบอกเราว่าเขาอยากได้แต่พ่อไม่ให้ เราก็จะถามเหตุผลว่าทำไมพ่อถึงไม่ให้ หรือถ้าเกิดเราเพิ่งจะซื้อให้เขาแล้วเขาเกิดอยากได้อีก ก็จะมีข้อต่อรองกันเล็กน้อย อีกอย่างเราอายุขนาดนี้จะอยู่อีกกี่ปีก็ไม่รู้ อะไรที่ให้เขาได้ก็จะให้ แต่ไม่ได้ตามใจไปหมดทุกอย่างจะต้องใช้เหตุผลตลอด ซึ่งการเลี้ยงเด็กด้วยเหตุผลแบบนี้ จะทำให้เขารู้จักคิด คือ เรามองว่าการเลี้ยงแบบนี้เหมาะมากสำหรับเด็กยุคปัจจุบัน ที่โลกพัฒนาไปอย่างรวดเร็วด้วย" แม่ดากล่าวปิดท้าย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก![]()






