ห่วงศก.โลกทรุดยาวส่งออกอ่วม สศค.-ทีดีอาร์ไอส่อลดเป้าจีดีพี (คมชัดลึก)
"กรณ์" รับเศรษฐกิจโลกทรุดยาว 2-3 ปี ฉุดไทยจีดีพีติดลบต่อกัน 3 ไตรมาส งบแสนล้านอาจรับมือไม่ไหว สศค.-ทีดีอาร์ไอ เล็งปรับลดเป้าจีดีพีปีนี้ใหม่ ชี้พึ่งส่งออกอย่างเดียวไม่ได้ เสี่ยงจีดีพีขยายตัวไม่ถึง 2%
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ไม่สามารถประเมินได้ว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวเมื่อไร โดยอาจลากยาวนาน 2-3 ปี หรือมากกว่านั้น ส่วนเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบขยายตัวติดลบมาตั้งแต่ไตรมาส 4 ต่อเนื่องไปอีกจนถึงไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งเดิมกระทรวงการคลังคาดว่าไตรมาส 2 การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) จะปรับตัวดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐผ่านงบกลางปีแสนล้านบาท
"งบแสนล้านบาทอาจไม่ส่งผลเพียงพอ แม้จะช่วยได้บ้างในระดับหนึ่ง จึงต้องติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก เงื่อนไขหลักอยู่ที่เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่น่าเป็นห่วงกว่าเรามาก เดิมเคยคาดว่าจะเป็นวีเชพ ถึงตอนนี้คงไม่มีใครเชื่อแล้ว เวลาฟื้นตัวคงยาวเป็น 3 ปี และจีดีพีจะติดลบต่อเนื่อง 3 ไตรมาส" นายกรณ์กล่าว
รมว.คลังกล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนส่งออกเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยรักษาระดับการส่งออกที่มีอยู่ให้ได้ แต่จากการรับฟังผู้ส่งออก พบว่าเอกชนผู้ส่งออกได้ปรับตัวรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดีมากและไม่มีการแบมือขอเงินจากรัฐ แต่จะมีอุตสาหกรรมที่แย่คือ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งยอมรับว่าเป็นไปตามเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม การที่อุตสาหกรรมทั้งสองชนิดยอดขายตกต่ำมาก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรวมของประเทศ เพราะมูลค่าส่งออกมีสัดส่วนสูง
ด้าน ดร.สมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ในเดือนมีนาคมนี้ สศค.จะปรับประมาณการจีดีพีปี 2552 อีกรอบ โดยพิจารณาจากสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่าจะปรับลดลง จากประมาณการเดิมที่ 0-2% นอกจากนี้ จะปรับประมาณการการส่งออกปีนี้ใหม่ด้วย เดิมคาดว่ามูลค่าการส่งออกจะติดลบ 2.7% และปริมาณการส่งออกจะติดลบ 2.8% แต่หากตัวเลขยังเป็นเหมือนปัจจุบันก็อาจทำให้ทั้งปีการส่งออกจะติดลบไม่เกิน 10%
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หนักใจกับสถานการณ์เศรษฐกิจ เพราะในภาวะเช่นนี้แต่ละประเทศต่างพยายามหาตลาดใหม่ ทำให้เกิดการแข่งขันสูง สิ่งที่ทำได้คือเร่งสร้างกำลังซื้อภายในประเทศขึ้นมารองรับ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าเศรษฐกิจในปี 2552 จะกลับมาอยู่ในแดนบวกได้แน่นอน
ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ทีดีอาร์ไอเตรียมประเมินการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยใหม่อีกครั้ง หลังจากการส่งออกในเดือนมกราคม ขยายตัวติดลบมากเป็นประวัติการณ์ถึง 26.5% ซึ่งในไตรมาสแรกและไตรมาสสองของปีนี้ ไทยจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจมากที่สุด และหากไทยยังพึ่งพาเศรษฐกิจคู่ค้า เช่น จีน แต่เพียงอย่างเดียว อาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 2% แน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
