โอ๊ค-เอม-อุ๊งอิ๊ง เปิดตัวหนังสือ (ไทยรัฐ)
วานนี้ (4 เมษายน) เวลา 14.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ "โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร" "เอม-น.ส.พินทองทา ชินวัตร" และ "อุ๊งอิ๊ง-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" ลูกทั้ง 3 คน ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมกันเปิดตัวหนังสือชื่อ "คนอื่นเรียกนายกฯ แต่เราเรียก...พ่อ" พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ ฏ ปฏัก เขียนโดย "สมบูรณ์ อิชยาวรกุล" และ "ม.ล.เฉลิมกิติ จักรพันธุ์" หนังสือดังกล่าวใช้ภาพถ่ายของ 3 คนพี่น้องเป็นปกหนังสือพื้นขาว บรรจุเนื้อหาและภาพประกอบรวม 208 หน้า พิมพ์ด้วยกระดาษกรีนรีด หรือกระดาษถนอมสายตาอย่างดี จำหน่ายราคา 195 บาท รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายหนังสือจะมอบให้เป็นสาธารณกุศล
งานเปิดตัวครั้งนี้มีนายเฉลิมชัย หรือกึ้ง มหากิจศิริ เพื่อนสนิทนายพานทองแท้เป็นพิธีกรรับเชิญ ทำหน้าที่ ซักถามที่มาที่ไปของการออกหนังสือ และคอยสัมภาษณ์ พูดคุยอย่างเป็นกันเอง โดยมีญาติสนิทและอดีตนักการเมืองมาร่วมให้กำลังใจ อาทิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ พล.ต.ท.นพ.พีระพงศ์ ดามาพงศ์ พี่ชายของคุณหญิงพจมาน นายประยุทธ มหากิจศิริ น.ต. ศิธา ทิวารี รวมทั้งกลุ่มเพื่อนๆในแวดวงบันเทิงและแวดวงไฮโซ ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่ให้การสนับสนุน พ.ต.ท. ทักษิณมาร่วมเชียร์เป็นจำนวนมาก ทั้งยังรุมกวาดซื้อหนังสือที่บูธขายของสำนักพิมพ์จนหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เพื่อมารอต่อคิวให้ทั้ง 3 คนเซ็นชื่อให้
หลังจากเปิดตัวหนังสือเสร็จแล้ว ทั้ง 3 คนให้ สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงช่วงเวลาการเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งมีข่าวว่าจะเดินทางกลับในเร็วๆนี้ โดยนายพานทองแท้กล่าวว่า เป็นการพูดกันเอง อย่างถ้าถามตนว่า อยากให้พ่อกลับเมื่อไหร่ ก็อยากจะให้กลับวันนี้เลย ทุกคนก็อยากให้พ่อกลับเร็ว และพ่อคงอยากกลับเร็วเช่นกัน แต่ยังไม่มีการพูดกันว่าจะกลับเมื่อไหร่แน่ เมื่อถามถึงกรณีที่มีการวิจารณ์เกี่ยวกับช่วงเวลาในการออกหนังสือ ตรงกับช่วงเวลาที่กลุ่มเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวใหญ่ นายพานทองแท้ตอบว่า พวกเรามองว่าเป็นช่วงงานสัปดาห์หนังสือมากกว่าที่จะมองเรื่องการชุมนุม
น.ส.พินทองทากล่าวเสริมว่า เราทำกันมานาน 3-4 เดือนแล้ว ตั้งใจทำโดยไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่บังเอิญว่าสัปดาห์หนังสือคือช่วงนี้พอดี ก็เลยออกมาแบบนี้ อย่างไรก็ตาม อยากให้คนทุกเสื้อทุกสีได้อ่านกันในฐานะที่พวกคุณมีลูก มีกลุ่มเพื่อน แล้วโดนแบบนี้จะรู้สึกอย่างไร เป็นอีกมุมหนึ่งที่แชร์ความรู้สึก นายพานทองแท้กล่าวต่อว่า เรื่องที่เขียนในหนังสือเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นวงใน เราไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นครอบครัวของนักการเมือง และอยากให้คนแยกแยะให้ออกว่าการเป็นคนในครอบครัวนักการเมือง แต่โดนการเมืองเล่น มันเป็นเรื่องกดดันขนาดไหน ทั้งหมดไม่ได้เชียร์ เพียงแต่อยากบอกว่าอะไรเกิดขึ้นกับเรา อาจจะมีหลายเรื่องที่ไม่เคยทราบ เป็นประสบการณ์ที่พวกเราได้เจอมา
ต่อข้อถามว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณออกมายืนยันจะไม่เจรจากับรัฐบาล ในฐานะลูกมองเรื่องนี้อย่างไร นายพานทองแท้กล่าวว่า พ่อคงอยากตามหาความยุติธรรม เราก็อยากให้กำลังใจพ่อในทุกอย่างที่ทำ แต่ทุกอย่างในวันนี้ไม่ได้มีความคิดที่จะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือว่าช่วยส่งเสริม ส่วนที่จะมีคนวิพากษ์วิจารณ์อะไร เราชินแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรก็โดนกันหมด โดนอีกสักเรื่องก็เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นลูกของ พ.ต.ท. ทักษิณ อยากจะบอกอะไรกับคนอื่นบ้าง น.ส.พินทองทากล่าวว่า อยากจะบอกในฐานะลูกๆว่าพวกเราถูกเลี้ยงมาให้เป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่นักการเมือง แต่เราเกิดมาเป็นครอบครัวนักการเมือง และทุกวันนี้ที่เราถูกการเมืองเล่นก็คิดว่าไม่ค่อยแฟร์เท่าไร เลยอยากออกมาแชร์ว่ามีเรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกเราอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดหวังว่าจะมีคนเข้าใจมากน้อยแค่ไหน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า แค่มีคนเข้าใจเพิ่มขึ้น 1 คน ก็ดีใจมากแล้ว และขอบคุณมาก เมื่อถามว่า การที่ต้องพบสถานการณ์เช่นนี้อะไรทำให้ทุกคนมีกำลังใจ น.ส.แพทองธารตอบว่า เรื่องนี้ชัดเจนมากคือครอบครัว เรามีครอบครัวที่เข้มแข็ง ขณะที่นายพานทองแท้กล่าวว่า นอกจากนี้ ก็มีประชาชนที่เข้าใจในหนังสือเขียนว่าตนจะไปเดินเพื่อเติมพลังในหลายที่เช่นภาคอีสาน จ.เชียงใหม่ ตลอดเวลา เพื่อให้เห็นว่ายังมีคนที่เขารักและเข้าใจครอบครัวเรา เป็นกำลังใจให้พ่อและครอบครัวเราอยู่มาจนถึงวันนี้ ส่วน น.ส.พินทองทากล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจพวกเรามาตลอด ไม่ว่าพ่อจะอยู่ในฐานะอะไร ถึงวันนี้ไม่ได้ เป็นนายกฯแล้ว แต่ก็ยังสู้ เมื่อถามอีกว่า อยากจะส่งหนังสือเล่มนี้ไปให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนไหนบ้างหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ถ้าผู้ใหญ่ท่านใดอยากทำบุญ เราก็ยินดีให้มาร่วมทำบุญด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหนังสือดังกล่าวแบ่งเป็น 31 บท มีเนื้อหาที่สะท้อนความคิด ความรู้สึก เรื่องราวของคนในครอบครัวชินวัตร นับตั้งแต่คืนวันรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 และเริ่มต้นบทแรกชื่อ "จำพราก จากแผ่นดิน" จากนั้นไล่เรียงเหตุการณ์สำคัญๆภายหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เช่น เหตุการณ์ที่ พ.ต.ท. ทักษิณเดินทางกลับประเทศไทยเป็นครั้งแรกหลังถูกยึดอำนาจ ก้มลงกราบแผ่นดิน ที่ทำให้ลูกโดยเฉพาะนายพานทองแท้เล่าถึงความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ช่วงเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปพักอยู่ที่อังกฤษ โดยมีน.ส.พินทองทาทำหน้าที่ดูแลความรู้สึกของพ่อ กับสิ่งที่เธอต้องเผชิญ ขณะที่นายพานทองแท้และ น.ส.แพทองธารเล่าถึงเหตุการณ์ระทึกในคืนที่ถูกรัฐประหาร ซึ่งทุกคนต้องกระจัดกระจายหลบหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ขนาดนายพานทองแท้ต้องหนีไปขออาศัยนอนใต้ถุนบ้านเพื่อน ในเล่มยังเล่าถึงเหตุการณ์ที่ทั้ง 3 คน ไม่ได้รับความยุติธรรม โดนแรงกดดันจากสังคมเพื่อนฝูง และปิดท้ายด้วยความหวังของพวกเขากับการกลับเมืองไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ด้าน ร.ท.หญิง สุนิสา เลิศภควัต หรือหมวดเจี๊ยบ นายทหารประจำสำนักงานเลขานุการกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงผลกระทบหลังเขียนหนังสือ "ทักษิณ Are you O.K." ว่า มีคนถามมากว่าเป็นเสื้อแดงหรือไม่ และเหตุใดจึงเขียนหนังสือเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเรามองในแง่การทำงาน สิ่งสำคัญคือขณะนี้สังคมอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน การที่ประชาชนต้องตัดสินใจควรจะมีข้อมูลครบรอบด้าน ข้อมูลจาก พ.ต.ท.ทักษิณมีคุณค่าต่อผู้อ่าน เป็นการนำเสนอข้อมูลอีกด้านหนึ่ง อยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจเชื่อหรือไม่ เมื่อถามถึงกรณีที่กองทัพบกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ร.ท.หญิง สุนิสาตอบว่า เข้าใจเหตุผลว่าผู้ใหญ่ในกองทัพต้องดำเนินการทางวินัยกับตน แต่เชื่อมั่นว่าถ้าได้เข้าไปชี้แจงแล้วท่านจะเปิดใจกว้างและรับฟังเหตุผลที่ตัดสินใจทำหนังสือเล่มนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจทำหนังสือก็คิดแล้วว่าพร้อมจะรับผิดชอบในสิ่งที่ทำไป รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นทหาร แต่หากวันหนึ่งกองทัพไม่ต้องการเราพร้อมที่จะยอมรับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์