สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก และหนังสือพิมไทยรัฐ
วันนี้ (19 เมษายน) นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" กล่าวในรายการตอนหนึ่งถึงสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศในวันที่ 12 - 13 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นแล้ว รัฐบาลได้มีการชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อสื่อต่างประเทศ และพี่น้องประชาชนโดยผ่านเครือข่ายทีวีร่วมองค์การเฉพาะกิจมาเป็นระยะๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมา รวมทั้งได้เชิญทูตจากประเทศต่างๆ ได้รับถึงการดำเนินการของรัฐบาลในช่วงเวลาที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา ตนได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษขึ้นมา รวมทั้งการปรึกษาหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล
"สิ่งที่ตนอยากย้ำว่าหลังจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีฝ่ายชนะหรือฝ่ายใดได้รับการพ่ายแพ้ แต่สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการไปนั้นก็เพื่อให้บ้านเมืองกลับมาสู่ความสุขสงบ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน และที่สำคัญเพื่อให้รัฐบาลสามารถทำงานต่อไปได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าว ส่วนตัวตนเห็นว่าการปฎิบัติที่ผ่านมาย่อมทำให้เกิดอารมณ์ และความเกลียดชัง ความหงุดหงิดเกิดขึ้นได้ รวมทั้งมีความอึดอัด เรื่องนี้ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านี้ และที่ผ่านมามีหลายคนได้ถามตนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ตนมีความรู้สึกอย่างไร ตนยอมรับในเรื่องที่เกิดขึ้น ตนก็เป็นเพียงแค่คนหนึ่งๆ เป็นมนุษย์ธรรมดา เรื่องของความรู้สึกก็ต้องมี ใครที่ผ่านมาเหตุการณ์ในช่วงสองสัปดาห์ถ้าเป็นใครก็ย่อมเกิดความรู้สึก แต่สิ่งที่ตนนำมาใช้ในหการทำหน้าที่คือ
"ผมต้องแยกความรู้สึกนั้นออกมา และสวมหมวกเพียงแค่มีตำแหน่ง และการทำหน้าที่ในการดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเสมอภาค เพื่อต้องการให้บ้านเมืองเกิดความสุขสงบ และสามารถเดินต่อไปข้างหน้าได้ส่วนพี่น้องประชาชนถ้าจะมีความคิดอ่านอย่างไรทางการเมือง หรือจะอยู่ฝ่ายใดสามารถทำได้อย่างนี้ ตนเชื่อว่าประเทศชาติจะต้องมีความสุขสงบได้อย่างแท้จจริง" อภิสิทธิ์ ระบุ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษเมื่อที่ 17 เมษายน ว่า เพื่อหาแนวทางแก้ไขบ้านเมือง โดยคณะรัฐมนตรีมีมติช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากการชุมนุม และจะฟื้นฟูการท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ ส่วนการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น รัฐบาลยังจำเป็นต้องคงต่อไป พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ รัฐบาลรับฟังข้อเรียกร้องของทุกฝ่าย แต่ใครที่ยังมีความพยายามสร้างความวุ่นวาย กลุ่มนี้ถือว่ากำลังทำลายประเทศชาติ
สำหรับการลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คดีนี้จะได้รับการสะสางอย่างดีที่สุด รัฐบาลจะเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และจะนำกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมยืนยันการทำงานของรัฐบาลไม่ได้เป็นสองมาตรฐาน ทหารไม่มีการเลือกข้างตามที่หลายฝ่ายได้ตั้งข้อสังเกต พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ให้เร่งรัดคดีทุกคดีโดยเร็ว
"มีการเปรียบเทียบการชุมนุมปีนี้กับปีที่แล้ว ผมอยากให้ประชาชนเข้าใจว่า เราไม่มีสองมาตรฐาน แต่ว่าเราจะแก้ไขสิ่งที่ยังค้างคาใจของพี่น้องประชาชน บางเรื่องผมคงต้องอธิบาย เช่น มีการพูดว่า การที่กองทัพเข้ามาร่วมในการปฏิบัติการภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ผมประกาศใช้ไปนั้น เป็นการบ่งบอกว่าทหารเลือกข้าง เพราะปีที่แล้วมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.แต่ทหารไม่เข้าดำเนินการ ผมขอยืนยันทหารไม่มีข้างทางการเมือง และทหารตำรวจก็ไม่ควรมีข้างทางการเมือง ต้องทำหน้าที่ตามกฎหมาย ตามที่ได้รับมอบหมายและนโยบาย ยึดประโยชน์ส่วนรวม เห็นประชาชนทุกกลุ่มเป็นมิตร หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า การทำงานของรัฐบาลไม่มีวาระซ่อนเร้น ส่วนหากยุบสภาแล้วก็ไม่ทำให้ปัญหาต่างๆ จบลงได้ อีกทั้งยังเชิญชวนทุกฝ่ายเร่งสร้างความสงบและปฏิรูปการเมืองในประเด็นที่ไม่เป็นประชาธิปไตย รัฐบาลยึดหลักในการดูแลประชาชนทุกคนด้วยความเสมอภาค เพื่อนำความสงบสุขคืนสู่บ้านเมือง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
