แนะกัมพูชาฟ้องเรียกค่าเสียหายจากไทย (คมชัดลึก)
ในกัมพูชาทำหนังสือร้องรัฐบาลยื่นเรียกร้องขอค่าชดเชยเหตุสู้รบกันเมื่อต้นเดือน 300 ล้าน อ้างจรวดไทยตกใส่บ้านชาวบ้านไหม้วอดวายหลายหลัง มีสติแตกเป็นบ้าเข้าโรงพยาบาลก็มี กระทรวงต่างประเทศเขมรรับลูก เตรียมหาลู่ทางดำเนินการหลังได้รับคำร้อง "ฝ่ายความมั่นคง" จ.ศรีสะเกษปัดยังไม่รู้เรื่อง "บัวแก้ว" งงหวั่นเป็นประเด็นขัดแย้งในอนาคต
หนังสือพิมพ์คอมเมอร์เชียล นิวส์ ของกัมพูชา รายงานอ้างการเปิดเผยของกองทุนอารยธรรมเขมร (เคซีเอฟ) ที่กล่าวว่า ครอบครัวชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณพรมแดนติดกับไทย ควรเรียกร้องค่าชดเชยจากไทยเป็นเงิน 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 315 ล้านบาท) เพื่อเป็นค่าชดเชยที่การสู้รบระหว่างทหารไทยและกัมพูชาทำให้บ้านเรือนและตลาดเสียหาย
นายเมือง สอน ประธานเคซีเอฟ กล่าวว่า แม้การประเมินความเสียหายโดยตรงจะอยู่ที่ราว 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 42 ล้านบาท) แต่ไทยควรจ่ายค่าเสียหายทั้งด้านทรัพย์สิน ด้านธุรกิจ และด้านจิตใจเป็นจำนวนเงิน 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเคซีเอฟและกลุ่มเอ็นจีโอกลุ่มต่างๆ เข้าไปเยี่ยมเยียนชาวบ้านในพื้นที่เพื่อประเมินความเสียหาย และได้เขียนรายงานไปถึงบรรดาผู้นำประเทศและข้าราชการในหลายระดับ ทั้งสมเด็จเจ้านโรดม สีหมุนี เจ้านโรดม สีหนุ นายกรัฐมนตรีฮุน เซน และกระทรวงต่างประเทศ เพื่อให้เดินเรื่องเรียกร้องค่าเสียหาย
นายเมือง สอน กล่าวว่า เหยื่อที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหายหลายคนยังได้รับผลกระทบทางจิตใจจากการปะทะกัน โดยเหยื่อซึ่งเป็นหญิงคนหนึ่งถึงกับควบคุมสติไม่ได้ หลังจากบ้านของตัวเองถูกเผาวอดจากจรวดของทหารไทยตกใส่ ขณะนี้กำลังป่วยหนักและรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลในจังหวัดพระตะบอง
อย่างไรก็ดี นายคอย ควง โฆษกกระทรวงต่างประเทศเผยต่อหนังสือพิมพ์พนมเปญ โพสต์ว่า กระทรวงยังไม่ได้รับคำร้องเรียน และจะพิจารณาการดำเนินการต่อไปหากได้รับคำร้องเรียนแล้ว
ก่อนหน้านี้ กลุ่มเคซีเอฟเผยว่ามีชาวบ้าน 147 ครอบครัวใกล้เขาพระวิหาร ร้องขอให้ไทยจ่ายค่าเสียหายของทรัพย์สินของตัวเอง โดยมีบ้านเรือนหลายหลังถูกเผาวอดจากการยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา
รายงานข่าวอ้างว่า การเผชิญหน้ากันเมื่อวันที่ 3 เมษายน เกิดจากการที่ทหารไทยรุกล้ำเข้าไปยังดินแดนกัมพูชา โดยกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ว่า รู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่งที่ทหารไทยยังคงรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่เดิมครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งการละเมิดนี้ทำให้ทหารกัมพูชาใช้สิทธิปกป้องตัวเองและอธิปไตยของประเทศ
"ฝ่ายความมั่นคง" จ.ศรีสะเกษปัดไม่รู้เรื่อง
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ในขณะนี้ยังไม่ได้รับทราบข่าวถึงกรณีที่รัฐบาลกัมพูชาได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายจำนวนเกือบสามร้อยล้านบาท กรณีที่กองทัพทหารกัมพูชากับกองทัพทหารไทยที่มีการปะทะกันตามบริเวณชายแดนในพื้นที่เขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ แต่หากมีการเรียกร้องมาจริงคงจะไม่ผ่านมาทางกองทัพ แต่คงอาจจะมีการทำหนังสือเรียกร้องมาทางรัฐบาลหรือกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งในขณะนี้กองทัพยังไม่ทราบในรายละเอียด อย่างไรก็ตามเห็นว่ารัฐบาลกัมพูชาไม่สามารถมาเรียกร้องค่าเสียหายได้ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างฝ่ายต่างปะทะกัน และได้รับความเสียหายเช่นกัน อีกทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นการปะทะกันเพื่อรักษาอาณาธิปไตยของกันและกัน ซึ่งเมื่อมีการปะทะกันก็ย่อมการเกิดสูญเสีย ดังนั้นทางทหารไม่น่าจะมีการทำหนังสือเรียกร้องค่าเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 27 - 28 เมษายน พล.อ.ประวิตร วงษ์สถุรรณ รมว.กลาโหม พร้อมด้วยผู้บัญชาการเหล่าทัพ จะเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชา เพื่อประชุมหารือในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทกรณีเขาพระวิหาร ในขณะที่คณะกรรมการระดับรัฐมนตรีกลาโหม โดยจะมีหารือกับพล.อ.เตียว บัน รมว.กลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพของประเทศกัมพูชา เพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหาบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะการตรึงกำลังของกำลังทหารของทั้งสองกองทัพในบริเวณเขาพระวิหาร
"บัวแก้ว" งงหวั่นเป็นประเด็นขัดแย้งในอนาคต
แหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจที่ทางการกัมพูชาเล่นบทนี้ ที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า ความเสียหายทั้งหมดเกิดจากการกระทำของฝ่ายไทย และเกรงว่า จะส่งผลให้เกิดความขัดแย้งกันไม่จบสิ้น โดยยืนยันว่า ไทยไม่ได้ฝ่ายเริ่มยิงก่อน ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าว ได้ส่งผลให้ทหารไทยเสียชีวิต 2 นาย และมีทหารสูญเสียขานั้น จะเรียกเก็บค่าเสียหาย และค่ารักษาพยาบาลกับฝ่ายกัมพูชาได้อย่างไร หากคิดในทางกลับกัน
ขอขอบคุุณข้อมูลและภาพประกอบจาก