สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ใกล้จะรู้ผลแล้วว่าใครจะสามารถคว้าถ้วย "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก" หลังจากแข่งขันกันมาถึงรอบรองชนะเลิศ 4 ทีมสุดท้าย ได้แก่ อาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และบาร์เซโลน่า โดยการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ คู่แรก นัดแรก คืนนี้ (28 เมษายน) จะเป็นการดวลแข้งระหว่าง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี รองแชมป์เก่าจาก อังกฤษ กับ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า จ่าฝูงสแปนิช ลาลีกา สเปน) สำหรับคอลูกหนังชาวไทยสามารถชมการถ่ายทอดสดได้ทางช่อง 7 เวลา 01.45 น.
ผลงานรอบที่ผ่านมาของ "บาร์เซโลนา" และ "เชลซี"
บาร์เซโลนา
รอบก่อนรองชนะเลิศ : เสมอ บาเยิร์น 1-1 (เยือน), ชนะ บาเยิร์น 4-0 (เหย้า)
รอบ 16 ทีมสุดท้าย : เสมอ ลียง 1-1 (เยือน), ชนะ ลียง 5-2 (เหย้า)
รอบแบ่งกลุ่ม : แชมป์กลุ่ม ซี
- แพ้ ชัคเตอร์ 2-3 (เหย้า)
- ชนะ สปอร์ติง ลิสบอน 5-2 (เยือน)
- เสมอ บาเซิล 1-1 (เหย้า)
- ชนะ บาเซิล 5-0 (เยือน)
- ชนะ ชัคเตอร์ 2-1 (เยือน)
- ชนะ สปอร์ติง ลิสบอน 3-1 (เหย้า)
เชลซี
รอบก่อนรองชนะเลิศ : เสมอ ลิเวอร์พูล 4-4 (เหย้า), ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 (เยือน)
รอบ 16 ทีมสุดท้าย : เสมอ ยูเวนตุส 2-2 (เยือน), ชนะ ยูเวนตุส 1-0 (เหย้า)
รอบแบ่งกลุ่ม : รองแชมป์กลุ่ม เอ
- ชนะ คลูจ์ 2-1 (เหย้า)
- เสมอ บอร์กโดซ์ 1-1 (เยือน)
- แพ้ โรม่า 1-3 (เยือน)
- ชนะ โรม่า 1-0 (เหย้า)
- เสมอ คลูจ์ 0-0 (เยือน)
- ชนะ บอร์กโดซ์ 4-0 (เหย้า)
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนี่ยล อัลเวส, เคราร์ด ปีเก้, ราฟาเอล มาร์เกซ, เอริก อบิดัล - ชาบี เอร์นานเดซ (กัปตันทีม), ยาย่า ตูเร่, อันเดรส อิเนียสต้า - ลีโอเนล เมสซี่, ซามูแอล เอโต้, เธียร์รี่ อองรี
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิซ, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่ (กัปตันทีม), โชเซ่ โบซิงวา - มิชาเอล บัลลัค, มิชาแอล เอสเซียง - นิโกล่าส์ อเนลก้า, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูด้า - ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
ผู้ตัดสิน : โวล์ฟกัง สต๊าร์ค (เยอรมัน)
เทียบฟอร์ม
นับตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม บาร์เซโลนา จ่าฝูงสแปนิช ลาลีกา ลงเล่น 10 เกม ชนะ 6 เสมอ 3 แพ้ 1 ได้ 29 เสีย 12 โดยเกมเดียวที่แพ้คือนัดสุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่ง "บาร์ซ่า" รู้ผลเข้ารอบน็อกเอาท์เหย้า-เยือน ตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว และตั้งแต่ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม ลูกทีมของ เป็ป กวาร์ดิโอลา ยังไร้พ่าย เมื่อชนะ 2 เกมเหย้า เสมอ 2 เกมเยือน โดยหากนับเฉพาะ 5 เกมเหย้า ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 15 เสีย 6 โดย 2 เกมเหย้าในรอบน็อกเอาท์ ชนะรวด แถมยิงนัดละไม่ต่ำกว่า 4 ประตูอีกด้วย ทว่าเกมเหย้าทั้ง 5 เกม มีไม่เสียประตูเพียงนัดเดียวเท่านั้น
ขณะที่ เชลซี รองแชมป์เก่าจากอังกฤษ ลงเล่น 10 เกม ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ 5 เสมอ 4 แพ้ 2 ได้ 19 เสีย 13 โดย 2 เกมที่พ่าย เป็นการแพ้ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี ในรอบแบ่งกลุ่ม เพราะตั้งแต่เข้ารอบน็อกเอาท์เหย้า-เยือน ภายใต้การคุมทีมของ กุส ฮิดดิงค์ "สิงโตน้ำเงินคราม" ยังไร้พ่าย เมื่อชนะ 2 เสมอ 2 และหากนับเฉพาะ 5 เกมเยือน ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 1 ได้ 7 เสีย 7 โดยเกมเยือนในรอบแบ่งกลุ่ม ของ "บิ๊กฟิล" ไม่เคยชนะ ทว่า 2 นัดของ ฮิดดิงค์ ในรอบน็อกเอาท์ ชนะ 1 เสมอ 1 ยังไร้พ่า
คืนนี้คงต้องรอลุ้นว่า "เชลซี" หรือ "บาร์เซโลน่า" ใครจะสามารถผ่านเข้าไปรอชิงชนะเลิศ เพื่อชูถ้วย "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก"
เกาะติดข่าวฟุตบอล ผลฟุตบอล ทายผลฟุตบอล วิเคราะห์บอล ทั้งหมดคลิกเลยค่ะ