x close

เคอิโงะ ออกทีวีตามหาพ่อ - บัวแก้วประสานทูตยุ่นช่วย


สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด


        จากกรณี ด.ช.เคอิโงะ ซาโต อายุ 9 ขวบ ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เดินโชว์ภาพชายชาวญี่ปุ่น นายคัทซูมิ ซาโต พ่อผู้ให้กำเนิด สอบถามนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือชาวเอเชีย ที่เดินทางมากราบไหว้หลวงพ่อเพชรพระศักดิ์สิทธิ์ ภายในวัดท่าหลวง พระอารามหลวง อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร ว่า รู้จักพ่อหนูหรือไม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

        ล่าสุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ด้วยการมอบเครื่องอุปโภค บริโภค ทุนการศึกษา ขณะที่ประชาชนก็ให้ความสนใจกับข่าวดังกล่าว และช่วยน้องเคอิโงะตามหาพ่ออีกทางหนึ่ง และทางด้านกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้เตรียมประสานสถานทูตญี่ปุ่น ช่วยหนูน้อยตามหาพ่อด้วย

        อย่างไรก็ตาม นางทรรศนีย์ สอนสุด ครูโรงเรียนเมืองท่าหลวงสงเคราะห์ ครูประจำชั้น ด.ช. เคอิโงะ ได้กล่าวถึง ด.ช.เคอิโงะ ว่า เป็นเด็กตั้งใจเรียน ผลการเรียนอยู่ในระดับดีถึงดีมาก แต่นิสัยค่อนข้างเซื่องซึม มีความเสียสละสูง บางครั้งได้อาหารที่เป็นขนมมาจากทางวัดที่พระท่านเมตตาให้มาก็จะเอามาแบ่งเพื่อนๆ กิน จึงเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมชั้นเรียน และหลังเลิกเรียนหรือเสาร์อาทิตย์ก็จะออกมาขายอาหารเลี้ยงปลาหน้าวัดและถือรูปภาพตามหาพ่ออย่างที่เป็นข่าว ตนขอวิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือ หลวงพ่อเพชรดลบันดาลให้ฝันของหนูน้อยได้พบพ่อสมปรารถนา 

        ขณะที่ รายการ "สยามทูเดย์" นำด.ช.เคอิโงะ พร้อมนางปัทมา ป้าแท้ๆ ออกอากาศให้สัมภาษณ์ ทางช่อง 5 โดยนางปัทมา กล่าวว่า เลี้ยงดูเคอิโงะ ตั้งแต่อายุ 3-4 ขวบ เนื่องจากเป็นลูกของน้องสาวแท้ๆ คือ นางทิพย์มณฑา ซึ่งหนีออกจากบ้านไปตั้งแต่อายุ 15-16 ปี ไม่รู้ว่าไปคบกับพ่อของน้องเคอิโงะได้อย่างไร จนท้องอ่อนๆ กลับมาบ้าน มาบอกพ่อว่าท้องกับสามีชาวญี่ปุ่น ซึ่งวันนั้นพ่อน้องเคอิโงะก็เดินทางมาด้วย แต่ไม่ค่อยได้พูดคุยกัน เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง ต่างคนต่างอยู่บ้านของตน 

        หลังน้องเคอิโงะคลอด พ่อของตนเป็นคนดูแล จนกระทั่งป่วยเป็นอัมพาตตนจึงรับมาดูแลเอง ส่วนน้องสาวกลับไปทำงานต่อในกรุงเทพฯ และกลับมาบ้านบ้างครั้งละ 10 วัน พร้อมสามีชาวญี่ปุ่น ซึ่งทราบว่าไปๆ มาๆ กรุงเทพฯ กับญี่ปุ่น และทุกครั้งที่มาพิจิตร น้องสาวตนกับสามีมักจะพากันไปนั่งที่วัดท่าหลวง ต่อมาน้องสาวบอกว่าจะเลิกกับสามี แต่ตนไม่ได้สนใจ 

        "ช่วงแรกน้องเคอิโงะไม่รู้ว่าแม่ป่วยเป็นอะไร จนกระทั่งเพื่อนล้อ จึงรู้ว่าแม่ป่วยเป็นอะไร ตอนแม่เขาป่วยหนักก็เพ้อว่าเดี๋ยวพ่อก็มา เราก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ต้องปลอบใจน้องเคอิโงะว่า เดี๋ยวพ่อก็มา และที่แม่เขาบอกให้ไปรอที่วัด เพราะเวลาแม่เขากับพ่อเขามาหาก็จะพากันไปนั่งเล่นที่วัด" นางปัทมา กล่าว 

        นางปัทมา กล่าวเพิ่มเติมว่า น้องเคอิโงะเป็นเด็กดีมาก เข้มแข็ง เราสอนไปว่า เราไม่มีพ่อมีแม่ต้องเข้มแข็ง มีป้าอยู่ก็ไม่ต้องกลัว ป้าจะเลี้ยงดูให้เหมือนลูกป้า เขาช่วยขายอาหารปลา เขายังบอกว่าถ้าโตขึ้นจะไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อช่วยป้า ปีนี้น้องเคโงะเรียนอยู่ชั้น ป.4 เรียนได้เกรดเฉลี่ย 3.3 

        ด้าน ด.ช.เคอิโงะ เปิดใจว่า พ่อเคยซื้อรถไฟเด็กเล่น กับตัวต่อมาให้ เริ่มตามหาพ่อตั้งแต่แม่บอก เพราะตอนแม่ป่วยแม่บอกว่า ให้ไปรอพ่อที่โบสถ์เดี๋ยวพ่อก็กลับมา ตนจึงไปรอพ่อทุกวัน พกรูปพ่อไปด้วยแต่บางวันก็ลืมเอาไป แล้วเดินไปถามคนที่มาเที่ยวว่าเห็นพ่อหนูไหม เขาก็จะหยิบรูปไปดูแล้วบอกว่าไม่เห็น แต่มีความหวังทุกวัน ว่าพ่อจะมา ถ้าพ่อกลับมาจะดีใจมาก ถ้าเจอพ่อก็จะกอดพ่อและให้พ่อมาอยู่บ้าน อยากได้ความอบอุ่นจากพ่อ 

        "ถ้าพ่ออยู่ตอนนี้อยากบอกพ่อว่ารักพ่อ ถ้าพ่อได้ยินหนูพูดให้มาหาหนูที่วัด หนูรอพ่ออยู่ ตอนที่แม่ไม่สบายหนูจะป้อนข้าวแม่ ตอนเช้า กลางวัน เย็น ตอนแม่คุย แม่ก็ร้องไห้ตลอดบอกให้รอพ่อ ตอนนี้หนูคิดว่าพ่ออยู่ญี่ปุ่น ถ้าวันนี้ออกอากาศไปแล้ว ยังไม่เจอพ่อ หนูก็จะไปรอพ่อที่วัด ก่อนแม่เสีย แม่เจ็บท้องมาก บอกให้หนูเอามือกดไว้ เมื่อหนูเอามือกดแม่ก็บอกว่าหายปวด ตอนที่แม่เสียตอนกลางคืนหนูไม่ได้อยู่ด้วย" หนูน้อยเคอิโงะ กล่าว 

        อย่างไรก็ตาม ช่วงหนึ่งพิธีกรของรายการ ให้ ด.ช.เคอิโงะ พูดออกอากาศ หนูน้อยกล่าวว่า "หนูให้พี่ช่วยตามหาพ่อหนู ถ้าเจอพ่อหนู บอกให้มารอหน้าโบสถ์ หนูอยากกอดพ่อเป็นครั้งสุดท้าย และให้พ่อไปบ้านไปดูกระดูกแม่ ที่อยู่ในโกศ"


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เคอิโงะ ออกทีวีตามหาพ่อ - บัวแก้วประสานทูตยุ่นช่วย อัปเดตล่าสุด 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 10:45:45 45,116 อ่าน
TOP