เสธ.แดงฟันธง มวยล้ม ดีเอสไอเด้งหนี (ไทยรัฐ)
"เสธ.แดง" เชื่อรถกระบะวีโก้ในคดียิง "สนธิ" ที่ ตำรวจยึดมาไม่ใช่ของจริง หากคดีไปถึงศาลก็ยกฟ้อง ชี้แกนนำ พธม. รู้ดีว่าใครยิง ด้านบิ๊กดีเอสไอแจง "ส.ต.ท.วรวุฒิ" ไม่เคยเบิกใช้รถยนต์-อุปกรณ์
วันนี้ (21 ก.ค.) พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอตรวจสอบการใช้รถยนต์ หมายเลขทะบียน สษ 1785 กรุงเทพมหานคร ที่มีข่าวว่า ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีดังกล่าว เคยนำไปใช้งานว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ ไม่เคยทำเรื่องเบิกอาวุธปืน รถยนต์ หรือ อุปกรณ์สืบสวนพิเศษของดีเอสไอไปใช้แต่อย่างใด
โดยวันที่ 23 ก.ค.นี้ สำนักคดีเทคโนโลยีและการตรวจสอบ จะนำตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรถเลขทะเบียน สษ 1785 ไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ ยังประสานโดยตรงไปยัง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ว่า ดีเอสไอ พร้อมให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนในการหาข้อเท็จจริง
"ขณะนี้ตำรวจไม่ได้ระบุชัดเจนว่า รถยนต์ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไรกับคดียิง นายสนธิ เนื่องจากไม่ใช่รถยนต์ที่ใช่ก่อเหตุ ในเบื้องต้นจึงเป็นการประสาน เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับการใช้รถยนต์คันดังกล่าว" รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าว และว่า ในส่วนการเบิกใช้อาวุธปืน และอุปกรณ์สืบสวนพิเศษดีเอสไอ ยืนยันได้ว่า มีระเบียบควบคุมการเบิกใช้อุปกรณ์พิเศษอย่างเข้มงวด และมีกฎหมายดูแลการใช้งานอย่างรัดกุม โดยก่อนเบิกใช้อุปกรณ์พิเศษ จะต้องได้รับการอนุมัติจากศาลก่อนทุกครั้ง มิเช่นนั้นจะมีความผิดทางอาญา
วันเดียวกัน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวถึงคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า เรื่องนี้ตนยืนยันว่า เมื่อหากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบของกลางเมื่อไหร่จึงจะพบผู้กระทำความผิด ของกลาง คือ รถวีโก้ สีเปลือกมังคุด ซึ่งเป็นรถที่ใช้ก่อเหตุ แต่รถที่จับกุมได้เป็นคนละคันกัน ซึ่งเป็นการสร้างหลักฐานขึ้นมา
พล.ต.ขัตติยะ ยังเชื่อว่า สุดท้ายคดีนี้จะเป็นมวยล้มต้มคนดู เพราะมีพยานกว่า 50 คน แต่สอบสวนยังไปไม่ถึงไหน พล.ต.อ.ธานี ก็ต้องเกษียณอายุราชการไป ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ส่วนระบบการกล่าวหา ผู้บังคับบัญชาแต่ละระดับชั้นต้องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะขณะนี้ตำรวจไม่ได้เกรงกลัวทหารเหมือนเมื่อก่อน ดังนั้นการที่ตำรวจจะมาขอตัวผู้ใต้บังคับบัญชาไปดำเนินคดี ก็ต้องขอดูเอกสารหลักฐานให้แน่ชัดว่า มีความผิดอะไร จึงควบคุมตัวได้ ไม่ใช่ปล่อยให้ถูกควบคุมตัวไป
"สุดท้ายคดีนี้ก็จับใครไม่ได้ เมื่อคดีถึงศาล ศาลก็ยกฟ้อง เนื่องจากรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าหากอะไรที่ก้ำกึ่งก็ต้องยกฟ้อง เรื่องนี้นายสนธิ ย่อมรู้ดีว่าใครเป็นคนยิง และรู้ดีว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวมานั้นไม่ใช่ของจริง" พล.ต.ขัตติยะ กล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
