มณฑล สายทัศน์ คนเปิดกรรม

อ.หม่อม มณฑล สายทัศน์ คนเปิดกรรม

อ.หม่อม มณฑล สายทัศน์ คนเปิดกรรม

อ.หม่อม มณฑล สายทัศน์ คนเปิดกรรม

อ.หม่อม มณฑล สายทัศน์ คนเปิดกรรม

อ.หม่อม มณฑล สายทัศน์ คนเปิดกรรม




อ.หม่อม มณฑล สายทัศน์ คนเปิดกรรม

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com , รายการวีไอพี

         คุณเชื่อไหมว่ามีผู้ชายคนหนึ่ง แค่มองหน้าก็สามารถมองเห็นกรรมได้...?

         เชื่อว่าหลายๆ คนคงส่ายหน้า พร้อมๆ กับเปล่งเสียงตามมาว่า "บ้าหรือเปล่า" แต่จริงๆ แล้วมีบุคคลหนึ่งที่บอกว่าตัวเองทำได้ นั่นก็คือ คนเปิดกรรม หรือ หม่อม มณฑล สายทัศน์ ที่ปรึกษาทางธรรม คนเห็นกรรม ที่หลายๆ คนคาดไม่ถึงว่า หม่อม มณฑล สายทัศน์ จะ เปิดกรรม ด้วยการมองหน้าเท่านั้น! วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปรู้จักกับผู้ชายนามว่า มณฑล สายทัศน์หรือที่หลายคนรู้จักในนาม อ.หม่อม คนเปิดกรรม ...

         หม่อม คนเปิดกรรม หรือ หม่อม มณฑล สายทัศน์ เป็นลูกคนที่ 5 ของครอบครัวคนจีน ในจังหวัดอ่างทอง ก่อนที่ มณฑล สายทัศน์ จะถูกส่งมาเรียนต่อในกรุงเทพมหานครจนจบปริญญาตรีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และยึดอาชีพคนเบื้องหลังทำงานในวงการบันเทิงอยู่ระยะหนึ่ง 

         สำหรับชีวิตส่วนตัวของ อ.หม่อม มณฑล สายทัศน์ ก็เหมือนวัยรุ่นคนอื่นๆ ทั่วไป แต่อาจจะติดตรงที่อ.หม่อม เป็นหนุ่มเจ้าสำราญ ชอบเที่ยว เจ้าชู้ ใช้เงินเก่ง จนในที่สุดต้องมาผิดหวังเรื่องความรัก มีปัญหาเรื่องงาน มีหนี้สิ้นล้นพ้นตัว ทุกปัญหารุมเร้า จนถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย แต่ดีที่พี่สาวช่วยชีวิตไว้ได้ ทำให้ มณฑล สายทัศน์ พลิกชีวิตและหันหน้าสู่การปฎิบัติธรรม และกลายเป็น คนเห็นกรรม ในที่สุด...นั่นคือเรื่องราวของ อ.หม่อม มณฑล สายทัศน์ คนเปิดกรรม

         โดย อ.หม่อม มณฑล สายทัศน์ คนเปิดกรรม เล่าถึงภาพที่เขามองเห็นในการ เปิดกรรม คือภาพเหมือนการดูโทรทัศน์ ที่มันสไลด์ผ่านไปเรื่อยๆ บางครั้งก็เป็นสีหรือขาวดำ มันจะเป็นภาพซ้อนขึ้นมา แต่ อ.หม่อม บอกว่าเขาไม่สามารถมองได้เห็นทุกคน มันขึ้นอยู่กับเจ้ากรรมนายเวรของคนนั้นๆ และเขาสามารถสื่อถึงกันได้ไหม 

         "เริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีความพิเศษกว่าคนอื่นๆ เมื่อตอนอายุ 5 ขวบ ตอนนั้นผมกำลังจะลงไปเข้าห้องน้ำข้างล่างตอนกลางดึก แต่อยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนมากระซิบข้างๆ หูว่า อย่าลงไป 3 ครั้ง ผมเลยไม่ลง พอผ่านไปสักพักก็ได้ยินเสียงโวยวาย แล้วพ่อกับแม่ก็ร้องไห้ ผมถึงรู้ว่ามีโจรเข้ามาขโมยของในบ้านไปจนหมดเลย นั่นคือครั้งแรกในที่ผมรู้สึกว่าตัวเองมีสัมผัสพิเศษ แต่ที่ทำให้ผมสามารถเป็น คนเห็นกรรม ได้มากที่สุดคือตอนที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัย พอดีแฟนผมบอกเลิกเพราะไปมีคนอื่น ทำให้ผมเสียใจมาก แล้ววันหนึ่งอยู่ดีๆ ผมก็ชวนเพื่อนไปห้างๆ หนึ่ง เพราะผมรู้สึกว่าเขาอยู่กับคนแฟนใหม่ที่นี่ พอไปถึงก็เจอทั้งคู่กำลังจูงมือเดินกันอยู่ พอผมเห็นแบบนั้นน้ำตาล่วงเลย เสียใจมากๆ ประกอบกับช่วงนั้นผมโดนปัญหาต่างๆ รุมเข้ามาเยอะมาก จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย แต่พอดีพี่สาวเข้ามาช่วยชีวิตได้ทัน 

         จนอยู่มาวันหนึ่งผมได้ดูโทรทัศน์ แล้วมีรายการหนึ่งที่มี แม่ชีทัศนีย์ ศรีบุศย์ดี มาออกรายการ ผมเลยไปหาท่าน แล้วถามว่าแม่ครับผมมีกรรมอะไรไหม ท่านก็บอกผมว่าไม่มีค่ะ ผมก็ไปถามท่านอยู่หลายครั้ง ไปนอนเฝ้าหน้ากุฏิท่าน ซึ่งแต่ละครั้งแม่ชีก็จะตอบกลับมาว่าให้ผมเห็นได้ด้วยตัวเอง ผมเลยไปนั่งสมาธิเอง จนอยู่มาวันหนึ่งผมกำลังนั่งหลับตาเจริญสมาธิอยู่ ผมก็ร้องไห้ขึ้นมา แล้วก็คิดในใจว่า "เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติหรือชาตินี้ ผมเสียใจ ผมไม่รู้ว่าเกิดเป็นใคร ทำอะไรไว้ ขอให้ผมได้งานทำ เพราะผมอยากตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ ผู้มีพระคุณ" จากนั้นก็ค่อยๆ มีภาพปรากฎขึ้นมาคือ มีคนถือสามง่ามเดินนำหน้า นุ่งสวมผ้าต่วนสีแดง แล้วมีคนชุดขาวอยู่ 5 คน ใส่โซ่ตรวน แล้วมีคนสวมผ้าต่วนสีแดงอีก 1 คน ยืนถือหอกคอยไล่แทงให้เดิน พอพวกเขาเดินผ่านหน้าผมก็เอื้อมมือออกมาแล้วพูดว่า "ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย" คนสวมผ้าต่วนสีแดงก็พูดขึ้นว่า "ไป อย่าไปยุ่งกับเขา" แล้วก็คนสวมผ้าต่วนอีกที่คอยเดินตามอยู่ข้างหลังก็พูดขึ้นว่า "ไอ้นี่ทำกรรมไว้กับพ่อแม่ต้องไปตกนรก ส่วนไอ้นี่กรรมไว้กับทรัพย์ของแผ่นดินก็ต้องไปตกนรกขุมนี้" ผมก็ตกใจแล้วลืมตาขึ้นแล้วถามตัวเองในใจว่าเราบ้าหรือเปล่า

         จากนั้นก็ตัดสินใจไปเช็คกับหมอ ซึ่งหมอก็ระบุว่าไม่เป็นอะไร ปกติ ผมเลยเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คนที่บ้านฟัง ซึ่งก็ไม่มีใครเชื่อเลย พี่สาวหรือพ่อแม่ก็หาว่าผมบ้า จนก่อนจะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นกับที่บ้าน ผมก็จะบอกเตือนไว้ล่วงหน้า แล้วมันก็เกิดขึ้นจริง ทำให้ที่บ้านเริ่มเชื่อแล้ว หลังจากนั้นผมก็ตัดสินใจนุ่งขาวห่มขาว เข้าวัดปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิภาวนา

         ส่วนมาเริ่ม เปิดกรรม ให้กับคนอื่นๆ นั้น เริ่มแรกเมื่อปี 2547 ผมมีโอกาสบวช ตอนช่วงที่บวชมีอยู่คืนหนึ่งผมไปนอนปักกรดอยู่แล้ว ผมก็เห็นวิญญาณเด็กอยู่หน้ากรดพระรูปหนึ่ง ผมเลยถามท่านว่าท่านเคยพาแฟนหรือใครไปทำแท้งมาหรือเปล่า พระรูปนั้นก็บอกว่าท่านรู้ได้ยังไง ผมเลยบอกไปว่าผมเห็นลูกท่านมายืนรอท่านอยู่ ผมเลยบอกวิธีแก้กรรมให้ท่านไป ซึ่งนั่นคือครั้งแรกที่ผมเป็น คนเปิดกรรม ให้คนอื่น จนมาถึงตอนนี้ก็ประมาณ 5 ปีแล้ว และส่วนใหญ่คนที่มาขอให้ผมเปิดกรรมให้จะดูว่าเป็นโรคอะไร ทำไมรักษาไม่หาย หรือทำดีมาตลอดแต่ทำไมถึงโดนโกง ฯลฯ ก็เป็นเรื่องราวของการดำเนินชีวิต 

         แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งพี่คนหนึ่งเขามาหาผม แล้วเล่าว่าครอบครัวญาติพี่น้องค่อยๆ เสียชีวิตไปทีละคนๆ ซึ่งจริงๆ แล้วตั้งแต่เจอหน้าเขา ผมก็เห็นเจ้ากรรมนายเวรของพี่เขาตามติดมาด้วย แล้วเขาก็บอกว่าเมื่อชาติพี่เขาเคยทำตระกูลเขาทั้งตระกูลต้องเสียชีวิต เขาเลยจะมาเอาชีวิตตระกูลพี่เขาคืนบ้าง ผมเลยบอกให้เขาไปทำบุญหรือถือศีล 8 ไม่งั้นบ้านพี่อาจเสียชีวิตทั้งครอบครัว ซึ่งพี่เขาก็ไปทำและทุกวันนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่" อ.หม่อม เปิดกรรม เปิดใจถึงการเป็นคนเปิดกรรม

         อ.หม่อม มณฑล สายทัศน์ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่เขาบอกให้ทำ ถ้าทำตามก็อาจทุเลาเบาบางลงได้ ส่วนใหญ่เขาก็จะให้ทำบุญทำทาน ปฎิบัติธรรมอุทิศส่วนกุศล แต่ทุกวันนี้เขาจะสามารถรับเปิดกรรมให้คนอื่นได้แค่ประมาณ 10 คน เพราะ อ.หม่อม บอกว่า เขาจะใช้กรรมฐานในการดู ทำให้เหนื่อย และก็ป่วยบ่อยมาก 

         อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ อ.หม่อม  เปิดกรรม ให้คนอื่นนั้น มันก็จะส่งผลต่อ อ.หม่อม ด้วย เพราะมันเหมือนรับส่วนหนึ่งของคนนั้นมาแล้ว ทำให้ต้องมีทางระบายออก อ.หม่อม จึงต้องนำเอาดอกไม้ธูปเทียนทุกดอกที่มีคนนำมาให้ ไปแผ่เมตตาและลอยพระแม่คงคา หรือเอาไปไว้ตามวัดต่างๆ เพื่อให้คนที่มาไว้พระไว้ใช้ เพราะเป็นการไถ่กรรมที่ต้องทำไปยุ่งกับเจ้ากรรมนายเวรของผู้คนที่ให้ อ.หม่อม เปิดกรรม ให้ โดยถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็อยู่ไม่ได้

         "แต่คนที่ผม เปิดกรรม ให้ไม่ได้เลยคือ คนที่ไม่ได้ทำบุญมาเลย ชอบโกหกหลอกลวงคนที่มีพระคุณ ซึ่งทำให้ผม เปิดกรรม เขาไม่ได้ เพราะเจ้ากรรมนายเวรไม่อยากให้บอกเขา และสิ่งที่ผมทำทุกวันนี้ สิ่งที่ผมได้รับกลับคืนมาคือความสุข ความสุขที่ได้ช่วยให้ผู้คนพ้นทุกข์ และทำให้พ่อแม่มีความสุข มีอาชีพที่มั่นคงให้พ่อแม่ภูมิใจ" อ.หม่อม มณฑล สายทัศน์ กล่าว

         และนี่คือเรื่องราวของ มณฑล สายทัศน์ หรือ คนเปิดกรรม คนเห็นกรรม 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- youtube.com , รายการวีไอพี