หลวงพ่อคูณ
หมอห้ามพ่อคูณ เคาะหัว ระวังติดเชื้อหวัด (ไทยรัฐ)
หลวงพ่อคูณ เทศน์มีในหลวงองค์เดียวกัน คนไทยไม่แตกแยก ด้านแพทย์ ยืนยัน หายป่วยกว่า 90% ให้หยุดเคาะหัว 1 เดือน ผลตรวจไม่ป่วยด้วยไข้หวัด 2009 ย้ำให้กลับวัด 20 ส.ค. ...
เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (18 ส.ค.) ที่ห้อง 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ภายหลังพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ซึ่งพักรักษาอาการอาพาธเป็นวันที่ 6 ได้ฉันภัตตาหารเช้าเหมือนเช่นทุกวัน มีสีหน้าเย็นชา ไม่ค่อยพูด นิ่งเฉย สงบเงียบ ต่อมา 07.00 น. ได้บอกให้ลูกศิษย์พยุงออกจากห้องพัก เนื่องจาก อยากเปลี่ยนอิริยาบถ และออกกำลังกาย พร้อมกับเดินยืนชมความสวยงามของดอกไม้พระราชทานด้วยความปลื้มปีติ
ต่อมาเวลา 09.30 น. นายแพทย์กวี ไชยศิริ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมหาราช นายแพทย์วีระศักดิ์ เกียรติผดุงกุล รองผู้อำนวยโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และ นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด เข้าตรวจความคืบหน้าของอาการอาพาธ หลังให้ยาโอเซลทามิเวียร์ และ ยาซาทามิเวียร์เป็นวันสุดท้าย และได้หยุดให้ยาแล้ว โดยคณะแพทย์ได้หารือกันสรุปผลเรื่องอาการอาพาธอยู่ภายในห้องก่อนประมาณ 10 นาที หลังจากที่หลวงพ่อคูณหายป่วย ทางโรงพยาบาล และคณะแพทย์จะต้องทำหนังสือให้ทางสำนักพระราชวังทราบ
หลวงพ่อคูณ กล่าวว่า เมื่อคืนหลับสบาย หมอยังไม่บอกว่าจะให้กลับวันไหน ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อกลับไปวัด แล้วหมอห้ามออกเคาะหัวญาติโยม 1 - 2 วันเพื่อให้พักผ่อนมากๆ ได้หรือไม่ หลวงพ่อคูณ ตอบว่า ได้
ด้าน นายแพทย์พินิศจัย กล่าวว่า อาการโดยรวมดีขึ้นมาก ส่วนที่คณะแพทย์วางแผนจะให้กลับวัด วันที่ 20 ส.ค. เพื่อให้แน่ใจวันนี้ ได้หยุดยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ และยาซาทามิเวียร์ และดูว่าจะมีปัญหาแทรกซ้อนหรือจะมีไข้ขึ้นหรือไม่ และถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจะอนุญาตกลับวัดได้วันที่ 20 ส.ค.ตามกำหนดเดิม จากการตรวจแล้วไม่มีอะไรแทรกซ้อน หายแล้วกว่า 90% ผลการตรวจไวรัสทั้งหมดที่เราเช็คดูแล้ว สรุปไม่เจอเชื้อไวรัส รวมทั้งผลจาก รพ.จุฬาฯ ไม่เจอเช่นเดียวกัน ฉะนั้นสิ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นไข้หวัด 2009 ข้อมูลตรงนี้ทำให้คิดถึงภาวะนี้น้อยลง แต่อาจจะเป็นไวรัสตัวอื่นก็ได้
ซึ่งตอบสนองกับตัวยาโอเซลทามิเวียร์ และยาซาทามิเวียร์เหมือนกัน แต่มีโอกาสที่จะป่วยไข้หวัด 2009 แต่น้อยลงมาก อย่างไรก็ตาม ควรจะต้องงดออกเคาะหัวญาติโยมก่อนประมาณ 1 -2 วัน แต่ทางดีที่ให้พักผ่อนมากๆ หยุดเคาะหัวอย่างน้อย 1 เดือน เพราะช่วงภูมิต้านทานลดลง มีโอกาสจะติดเชื้อใหม่มีสูง นอกจากนี้ญาติโยมที่จะไปกราบมนัสการที่วัด โดยเฉพาะวันเกิดที่จะถึงนี้ คณะแพทย์ฝากว่า ถ้ารักหลวงพ่อคูณ เข้าไปกราบควรจะไม่เข้าใกล้เกิน 1 เมตร เพราะญาติโยมอาจจะเป็นพาหะนำเชื้อโรคอื่นไปหา
นอกจากนี้ หลวงพ่อคูณ กล่าวถึงเหตุการณ์ปาหิน และ ใช้ลูกเหล็กยิงกระจกรถของพี่น้องประชาชนที่ใช้รถ ใช้ถนนจนบางรายเสียชีวิต และหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัส สร้างความเดือดร้อนและสร้างความหวาดกลัวกับผู้ใช้รถใช้ถนนนั้น ว่า เรื่องนี้จัดการทำไม่ยาก ส่วนจะทำอย่างไรก็คือ ปืน ยิงเลย ต่อข้อถามถึง ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นที่คึกคะนองก่อเหตุนี้ จะทำอย่างไร หลวงพ่อคูณ กล่าวว่า วัยรุ่น วายร้าย ยิงเลย
ต่อข้อถามถึง อยากจะบิณฑบาตคนพวกนี้หรือเปล่า หลวงพ่อคูณ ตอบว่า จะไปบิณฑบาตทำไม ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้ประเทศไทยแตกแยกกันไปทั่ว หลายฝ่ายอยากให้เกิดความรักความสามัคคีกันจะได้หรือไม่ หลวงพ่อคูณ กล่าวว่า คนไทยไม่แตกแยก เอาแต่ว่ามันจะแตกไปยังไงเถอะ ก็มีพระเจ้าแผ่นดินองค์เดียวกัน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
