เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สำนักข่าวไทย,ตาสว่าง
งานอะไรเอ่ย ใส่สูท ผูกไท งานสบาย เงินเดือน 6 หลัก พูดไปคงไม่มีใครเชื่อถ้าเราจะบอกว่า งานนั้นคือ "สัปเหร่อ" เพราะหากพูดถึง "สัปเหร่อ" คนต้องนึกภาพชายแก่ ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ขาดๆ มอมๆ ปอนๆ ในมือถือขวดเหล้าใช่ไหมคะ? แต่ลืมภาพเหล่านั้นไปได้เลย ถ้าได้รู้จัก "สัปเหร่อไฮโซ" คนนี้ เขาชื่อ เนรมิต ศรีเมือง นั่นเอง วันนี้ไปรู้จัก เนรมิต ศรีเมือง ชายผู้พลิกวงการสัปเหร่อกันดีกว่าค่ะ
เนรมิต ศรีเมือง ชายวัยกลางคน อายุ 38 ปี ถ้าไม่มีใครบอกก็คงไม่มีใครรู้ว่า เนรมิต ศรีเมือง คนนี้ทำงานอะไร เพราะทุกครั้งที่ชายผู้นี้จะออกไปทำงาน เขาจะแต่งตัวโก้หรู ใส่สูทราคาเรือนหมื่น ผูกเนกไท ราวกับเป็นนักธุรกิจ แต่จุดหมายที่ เนรมิต ศรีเมือง มุ่งหน้าไปกลับกลายเป็นวัดบัวขวัญ ที่ตั้งอยู่ที่ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
ที่วัดบัวขวัญพระอารามหลวงนี่เอง คือสถานที่ทำงานของ เนรมิต ศรีเมือง สัปเหร่อ หรือ คนเผาผี ที่คนละแวกนั้้นรู้จักกันดี โดย เนรมิต ศรีเมือง เล่าว่า สมัยเด็ก เขาเกิดมาในครอบครัวที่ไม่อบอุ่น พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ เนรมิต ศรีเมือง อายุ 5 ขวบ และเขาก็ใช้ชีวิตอยู่ในวัด วนเวียนไปมาถึง 9 แห่ง พร้อมๆ กับได้บวชเรียน และเรียนรู้พิธีกรรมต่างๆ จนเชี่ยวชาญ เรียกได้ว่า คุ้นเคยกับวัดเป็นอย่างดี จนเมื่อลาสิกขาบทก็ได้ประกอบอาชีพสัปเหร่อเลี้ยงชีพมาตลอด ก่อนที่พระครูสิริสุตาสังการ เจ้าอาวาสวัดบัวขวัญ จะชักชวนให้มาเป็นสัปเหร่อที่วัดเมื่อ 3 ปีก่อน
และสาเหตุที่ทำให้ เนรมิต ศรีเมือง พลิกวงการสัปเหร่อ ด้วยการสวมสูท ผูกเนกไททำงานนั้น ก็มาจากวันหนึ่งที่ เนรมิต ศรีเมือง ได้ประกอบอาชีพเป็นสัปเหร่อมาได้ประมาณ 1 ปีเศษ เริ่มทนไม่ได้ ที่คนทั่วไปทำท่าขยะแขยงเวลามองมาที่เขา ทั้งสวมเสื้อผ้าเก่าๆ คลุกคลีอยู่กับศพ นั่นเองคือความน้อยเนื้อต่ำใจที่ เนรมิต ศรีเมือง สัปเหร่อแห่งนนนทบุรีรู้สึก
จากนั้น เนรมิต ศรีเมือง จึงได้ลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง ด้วยการสวมสูท ผูกเนกไท เพื่อแสดงให้คนทั่วไปได้เห็นว่า แม้จะเป็นอาชีพสัปเหร่อ แต่ก็มีเกียรติ และสามารถแต่งกายภูมิฐานดูดีได้ ไม่ต่างจากนักธุรกิจหรือเศรษฐีคนอื่นๆ
"ผมเคยแต่งตัวธรรมดา ถูกเจ้าภาพงานศพดูถูกเอา ข้าวก็ไม่ยอมเรียกผมกิน แม้แต่พูดก็ไม่พูดดีด้วย ทำท่าขยะแขยง เขาคงคิดว่าผมทำงานกับศพคงสกปรก ก็เลยน้อยใจ ด้วยเหตุนี้จึงคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะดูดีและสุภาพ เลยใส่สูทผูกเนกไท เพื่อให้พวกเขาเห็นว่าสัปเหร่อไม่ได้น่ารังเกียจอย่างที่พวกเขาคิด" เนรมิตร ศรีเมือง เล่าให้ฟัง
หลังจาก เนรมิต ศรีเมือง เปลี่ยนตัวเองหันมาสวมสูท ผูกเนกไททำงานแล้ว เขาก็ได้รับการยอมรับจากคนทั่วไปมากขึ้น เรียกว่า จากหน้ามือเป็นหลังมือ และ เนรมิต ศรีเมือง ยังได้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเอง เวลาว่างไปเล่นกอล์ฟกับเพื่อนร่วมก๊วน ไปเดินช้อปปิ้งตามห้างสรรพสินค้า และยังทำธุรกิจประดับยนต์ รับจัดงานทุกประเภทที่มีพิธีกรรมทางศาสนาเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างครบวงจร
ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่วัดบัวขาว เนรมิต ศรีเมือง เผาศพไปแล้วกว่า 5,000 ศพ แต่หากรวมทั้ง 9 วัดที่เขาเคยอยู่มาด้วยกว่าหลายสิบปี ก็คงราวๆ หมื่นศพ ซึ่ง สัปเหร่อไฮโซ คนนี้บอกว่า อาชีพสัปเหร่อสามารถทำให้เขาเลี้ยงตัวเองได้ และมีรายได้ราวๆ 5-6 หลัก ต่อเดือนเลยทีเดียว ซึ่งบางครั้งที่ผู้มาเผาศพเป็นคนจน ไม่มีเงินจัดงาน เนรมิต ก็จะซื้อโลง และเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมให้ก็มี
"ผมเป็นสัปเหร่อไม่ได้หวังเงินทอง ถือเป็นการช่วยเหลือผู้เดือดร้อน และคิดอยู่เสมอว่า ถ้าไม่มีสัปเหร่อแล้วใครจะเป็นคนจัดการศพ" เนรมิต บอก
นอกจากนี้ เนรมิต ศรีเมือง ยังเป็นคนรักเสียงเพลง เขาจึงได้ลงทุนผลิตผลงานเพลงลูกทุ่งของตัวเอง ในอัลบั้ม "หัวใจไฮโซ" วางขายทั่วประเทศ และมีเพลงที่คอลูกทุ่งรู้จักหลายเพลง เช่น หัวใจไฮโซ, สำคัญที่ใจ, เรือนจำใจ, ถามหมาดูกตัญญูคืออะไร, ปั้นดินให้เป็นดาว ฯลฯ พร้อมกับแจกซีดีเพลงลูกทุ่ง ผลงานการร้องของเขาให้เจ้าภาพงานศพด้วย ซึ่งคนที่ได้ฟัง ต่างก็ยอมรับในคุณภาพของ สัปเหร่อไฮโซ คนนี้
แต่สุดท้าย เนรมิต ศรีเมือง ยังยืนยันว่า จะใส่สูท ผูกเนกไท ทำงานสัปเหร่อเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในวาระสุดท้ายของชีวิตต่อไป เพื่อแสดงให้คนเห็นว่า สัปเหร่อไม่ได้น่ารังเกียจอย่างที่หลายคนคิด และอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ เนรมิต ศรีเมือง บอกว่า เขาทำด้วยใจจริงๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
