x close

รับมือคนแห่ขึ้น เขาใหญ่ ดู จระเข้เขาใหญ่



จระเข้เขาใหญ่



จระเข้เขาใหญ่


รับมือคนแห่ขึ้นเขาใหญ่ ดูจระเข้ยักษ์! (ข่าวสด)

           เขาใหญ่ระดมติดป้ายเตือนระวังจระเข้นับสิบจุด เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว อาจแตกตื่นข่าว จระเข้ แห่ไปชมช่วงเสาร์-อาทิตย์นี้ พร้อมให้มี จนท.คอยอารักขาเป็นผลัด ๆ ด้วย เผย เบื้องต้นยังไม่ตัดสินใจจับ จระเข้ ขึ้นจากน้ำ แต่ต้องพิสูจน์ให้แน่ชัดก่อนเป็นจระเข้พันธุ์ไทยแท้หรือไม่ หากใช่อาจปล่อยให้อยู่ในธรรมชาติที่เดิมต่อไป ถือเป็นของดีของ เขาใหญ่ แฉมีคนพิเรนทร์เอาสัตว์มาปล่อย เขาใหญ่ หลายอย่าง ขนาดตัวอีกัวน่าก็มีคนเจอตรงจุดที่พบ จระเข้เขาใหญ่ มาแล้ว แม้แต่ในลำตะคองก็มีปลานิลโผล่มาอยู่กลางป่า

           เมื่อวันที่ 4 ก.ย. นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามจระเข้ ที่นักท่องเที่ยวพบในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้จัดตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อติดตาม จระเข้ เรียบร้อยแล้ว โดยทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ และผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าของกรมอุทยานฯ ที่มีความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของสัตว์โดยเฉพาะ เพื่อให้การติดตามเป็นไปอย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยทั้งของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และตัวของจระเข้ดังกล่าวเอง ทั้งนี้ในการติดตามหาตัว จระเข้เขาใหญ่ จะใช้เรือยางล่องไปตามลำน้ำตลอดเส้นทางตั้งแต่ผากล้วยไม้ ไปจนถึงลำตะคอง รวมทั้งอาจจะต้องออกไปนอกพื้นที่เขาใหญ่ด้วย เพราะไม่รู้จุดที่จระเข้อยู่ที่แน่ชัด อย่างไรก็ตาม คาดว่าคงใช้เวลาไม่นานที่จะพบตัวจระเข้ได้ และถ้าโชคดีจระเข้ก็อาจจะขึ้นมาผึ่งแดด ซึ่งจะทำให้เป็นการง่ายขึ้น

           อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า ในระหว่างนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มป้ายเตือนในบริเวณใกล้เคียงที่เคยพบจระเข้ให้มากขึ้น เพื่อเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวัง รวมทั้งยังให้เพิ่มเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลในจุดต่างๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่เชื่อว่าสัปดาห์นี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มากเป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งอาจจะมีความสนใจที่จะเข้าไปรอดูจระเข้ในธรรมชาติด้วย ดังนั้นจึงขอให้หัวหน้าอุทยานฯ เขาใหญ่ เตรียมการให้พร้อม และในระหว่างการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ก็จำเป็นจะต้องปิดพื้นที่ชั่วคราวขอไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินทางลงไปเพื่อความคล่องตัวของเจ้าหน้าที่ แต่จะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสามารถติดตามเข้าไปตรวจสอบร่วมด้วยได้ ส่วนประชาชนที่อยากจะเห็นขั้นตอนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ขอให้ติดตามผ่านสื่อจะดีกว่า

           "สำหรับจุดที่เจ้าหน้าที่จะต้องใช้ปฏิบัติงานนั้น เราอาจจะต้องปิดชั่วคราวไว้ก่อน แม้ว่าบริเวณนั้นจะเป็นจุดท่องเที่ยวก็ตาม แต่ในส่วนอื่นๆ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ และบริเวณนั้นก็เป็นจุดที่สามารถขับรถผ่านได้อยู่แล้ว เพียงแต่เราขอให้อย่าเพิ่งเข้าไปในขณะที่เจ้าหน้าที่ทำงาน ทั้งนี้เพื่อความสะดวกของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน รวมทั้งเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวด้วย ส่วนระยะเวลานั้นคงบอกไม่ได้ว่าจะเจอเมื่อไหร่ แต่คาดว่าคงไม่นาน 3-4 วันก็อาจจะพบตัวแล้ว จากนั้นจะทำอย่างไรค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง เพราะต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าด้วย" นายเกษมสันต์กล่าว

           ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เคยพบจระเข้แล้ว ทำไมจึงไม่จับขึ้นมา นายเกษมสันต์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เคยพบ แต่ไม่ได้พบซึ่ง ๆ หน้า จึงได้แต่พยายามติดตามดูพฤติกรรมอยู่ และการที่นักท่องเที่ยวพบก็เป็นการพบโดยบังเอิญ แต่เพื่อความสบายใจและความปลอดภัย รวมทั้งพิสูจน์ว่า เป็นจระเข้พันธุ์ไทยแท้จริงหรือไม่ ก็คงจะต้องนำมาพิสูจน์ในครั้งนี้ 

           "สำหรับการติดตาม จระเข้เขาใหญ่ ครั้งนี้ กรมอุทยานฯ จะอนุญาตเฉพาะเจ้าหน้าที่ของกรม ในการดำเนินการเท่านั้น จะไม่มีการอนุญาตให้กลุ่มคน หรือ หน่วยงานอื่นๆ เข้าร่วมในการดำเนินการติดตามโดยเด็ดขาด หากพบว่ามีผู้ใดออกติด ตามโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือเข้าจับจระเข้เอง จะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย" นายเกษมสันต์กล่าว

           ด้านนายมาโนช การพนักงาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับสั่งการจากนายเกษมสันต์ อธิบดีกรมอุทยานฯ เพื่อให้เตรียมการจัดทีมเฉพาะกิจเพื่อติดตามพฤติกรรมของจระเข้แล้ว รอเพียงเรือยางที่จะ ส่งมาถึงเพื่อล่องไปตามลำน้ำเท่านั้น หากเรือมา ก็จะสามารถดำเนินการได้ทันที อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้เป็นช่วงที่ในลำน้ำมีน้ำค่อนข้างสูง เพราะมีฝนตกลงมาเยอะ ตามที่ได้รับนโยบายของนายเกษมสันต์ คือขอให้ติดตามดูพฤติกรรมของจระเข้ไปก่อน อาจจะยังไม่จับขึ้นมาจนกว่าน้ำจะลดปริมาณลง อาจจะเป็นในช่วงเดือน พ.ย. จึงจะสามารถจับขึ้นมาได้ ในส่วนของการเตรียมการในพื้นที่นั้น ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้นำป้ายไปติดบริเวณต่างๆ เพื่อเตือนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลแนะนำ แม้ว่าจะมีการปิดพื้นที่ชั่วคราวบางจุด แต่ในจุดท่องเที่ยวสำคัญ ๆ เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติ จะยังคงเปิดให้บริการตามปกติ นักท่องเที่ยวสามารถใช้เส้นทางได้ 

           "ตอนนี้ได้รับนโยบายจากท่านอธิบดีให้ใช้เรือติดตามดูพฤติกรรมของจระเข้ตัวนี้ เพราะช่วงนี้เป็นฤดูที่น้ำเยอะ ถ้าจะจับขึ้นมาอาจจะต้องเป็นในช่วงเดือน พ.ย. ที่น้ำลดลงแล้ว อย่างไรตามที่ผ่านมา ยังไม่พบว่าจระเข้จะทำร้ายมนุษย์ จึงมีเปอร์เซ็นต์สูงว่าจระเข้ 2 ตัวนี้อาจจะเป็นจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยแท้ เช่นเดียวกับที่ปางสีดาและแก่งกระจาน เพราะที่แก่งกระจานซึ่งมีอยู่ 1 คู่ ก็ไม่เคยมีประวัติว่ามันเคยทำร้ายคนมาก่อน แม้กระทั่งคนจับปลาหาปลาก็สามารถไปทำงานได้ตามปกติ ดังนั้นช่วงระยะนี้อาจจะยังไม่จับขึ้นมา แต่ถ้าเป็นนโยบาย หรือมีคำสั่งจากท่านอธิบดีให้จับขึ้นมา เจ้าหน้าที่ก็จะได้ดำเนินการทันที" นายมาโนชกล่าว

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมาโนชสั่งการให้เจ้าหน้าที่เขาใหญ่จัดทำป้ายเตือนนักท่องเที่ยว เช่น ห้ามลงเล่นน้ำ และระวังจระเข้ เพื่อไปติดตั้งบริเวณที่พบจระเข้ โดยในเบื้องต้นได้ติดตั้งจำนวน 10 จุด และในวันที่ 5 ก.ย. ทางกรมอุทยานแห่งชาติ จะได้ส่งเรือยางติดเครื่องยนต์จากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเสม็ด จำนวน 1 ลำ เพื่อใช้ติดตามพฤติกรรมของจระเข้ที่พบ โดยในเบื้องต้นจะไม่มีการจับตัวแต่อย่างใด แต่ในวันข้างหน้า จะต้องมีการพิสูจน์ให้แน่นอนว่าจระเข้ตัวที่พบนี้เป็นพันธุ์น้ำจืดแท้หรือไม่ ถ้าเป็นพันธุ์แท้และเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่เจอในแก่งกระจาน และปางสีดา นับว่าเป็นเรื่องที่ดีของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่พบสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ เพราะปัจจุบันจระเข้พันธุ์นี้เกือบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว ขณะที่แก่งกระจาน และปางสีดา ก็มีจระเข้น้อยลงไปทุกที โดยจะใช้เจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญเป็นพิเศษมาตรวจสอบดีเอ็นเอ หากเป็นพันธุ์เดียวกันก็ต้องมาคิดกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เช่น จะปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติเขาใหญ่อย่างเดิม หรือจะนำตัวไปปล่อยที่อื่น

           "จากการที่ค้นพบจระเข้บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในครั้งนี้ หลายฝ่ายกลับมองเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะมีนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาดูจระเข้ที่พบเป็นจำนวนมาก จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ไปในตัว และจะส่งผลให้ผู้ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหารต่างรอบๆ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ซบเซามานาน อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงเป็นห่วงในเรื่องนักท่องเที่ยวที่อาจขึ้นไปดู จะมีจำนวนมากจนเกินไป จะเป็นการรบกวนและอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบริเวณนั้นด้วย"

           ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสัมภาษณ์นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ทราบว่ามีการพบจระเข้บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จากสื่อต่าง ๆ บ้างแล้ว ส่วนใหญ่ไม่มีความรู้สึกกลัว โดยให้เหตุผลว่าเป็นธรรมชาติของป่าอยู่แล้วที่จะมีสัตว์ป่าหลากหลายชนิด จึงอยากที่จะเข้าไปดูใกล้ๆ แต่ในวันนี้ต้องผิดหวังเพราะสภาพอากาศไม่อำนวย เนื่องจากครึมฟ้าครึมฝน ไม่มีแดด และระดับน้ำในลำตะคองขึ้นสูง

           ส่วนเรื่องการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ทางด้านอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ จัดทำป้ายเตือนนักท่องเที่ยว เช่น ห้ามลงเล่นน้ำ และระวังจระเข้ และนำไปติดตั้งตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติระหว่างเส้นทางกางเต็นท์ผากล้วยไม้ ไปยังน้ำตกเหวสุวัต โดยเฉพาะบริเวณ ที่จุดพบจระเข้ นอกจากนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอีกวันละ 2 ชุด ชุดละ 2 คน โดยชุดแรกจะให้ความปลอดภัยในช่วงเวลา 06.00 น. จนถึงเวลา 14.00 น. ชุดที่สองจะให้ความปลอดภัยในช่วงเวลา 14.00 น. จนถึงเวลา 18.00 น. จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

           ด้านนายสุรพล ดวงแข นักวิชาการด้านสัตว์ป่า กล่าวถึงกรณีการพบจระเข้ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ว่า ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่า มีผู้นำจระเข้พันธุ์ผสมในฟาร์มไปปล่อยในป่าเขาใหญ่อยู่เหมือนกัน แต่ที่ผ่านมาย้อนอดีตไป 10-20 ปี ก็ไม่เคยพบว่ามีจระเข้ในป่าผืนนี้ ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ก็มีนักวิชาการเคยลงสำรวจเช่นกัน แต่ก็ไม่พบ การพบจระเข้ครั้งนี้จึงอาจจะเป็นไปได้ว่าจระเข้ถูกนำมาปล่อยตามที่เคยมีข่าวลือจริง หรืออาจจะเป็นจระเข้ป่าตามธรรมชาติก็ได้ ซึ่งคงต้องพิสูจน์ให้ได้ ตนคิดว่าสิ่งที่กรมอุทยานฯ ควรจะทำเป็นอันดับแรกก็คือการเปิดแถลงข่าวเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของจระเข้ รวมถึงจระเข้ในสายพันธุ์ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนทราบและเข้าใจ โดยกันพื้นที่บริเวณนั้นไว้ก่อน เพื่อเปิดพื้นที่ให้กับสัตว์ป่า ในกรณีนี้หากยัง ไม่ทราบว่าเป็นจระเข้พันธุ์ใด ก็ควรที่จะตั้งข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นจระเข้ป่าตามธรรมชาติ และควรที่จะกันคนออกจากพื้นที่ก่อน เพราะโดยปกติแล้ว จระเข้จะชอบความเงียบสงบ จากนั้นจึงให้นักวิชาการด้านสัตว์ป่าเข้าไปตรวจสอบให้ชัดเจนเสียก่อน หากพบว่าเป็นจระเข้ ป่าจริงตามที่สันนิษฐาน ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่อุทยานฯ จะต้องปรับเปลี่ยนใหม่วิธีการเที่ยวอุทยานฯของนักท่องเที่ยวใหม่ ไม่ใช่ปล่อยให้มนุษย์เข้าไปแย่งพื้นที่ของสัตว์ป่า

           "ตามหลักการของการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ ก็คือการดูแลพื้นที่ป่าเอาไว้เพื่อให้เป็นบ้านของสัตว์ป่า และธรรมชาติได้ฟื้นฟูตัวเอง ไม่ใช่การจัดพื้นที่เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของมนุษย์ ดังนั้นหากพบว่า บริเวณป่าเกิดมีสัตว์ป่าที่เป็นเจ้าของพื้นที่ของเขามาแล้ว สิ่งที่ควรทำก็คือคืนพื้นที่บริเวณนี้ให้กับสัตว์ป่าไป ไม่ใช่จับเอาสัตว์ป่าออก เพื่อเก็บไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของมนุษย์ ในกรณีของจระเข้ตัวนี้ ถ้าหากทำการ ศึกษา สำรวจแล้ว เป็นจระเข้ที่อยู่ในธรรมชาตินี้มานานแล้ว อุทยานฯ ก็ต้องเอานักท่องเที่ยวออก หรือหาแนวทางใหม่เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปรบกวนสัตว์ ผมว่าการที่บอกว่า ถ้าพบเป็นจระเข้ป่า แล้วจะจับมันออกไปอยู่ที่ปางสีดา หรือแก่งกระจาน ในหลักการมันไม่ถูกต้องอยู่แล้ว เพราะคุณรู้ได้อย่างไรว่า พวกมันจะอยู่ด้วยกันได้" นายสุรพลกล่าว และว่า แต่ถ้าหากพบว่ามันเป็นจระเข้ที่ถูกนำมาปล่อย ก็สามารถที่จะจับออกมาได้ แต่ทางที่ดีควรจะส่งนักวิชาการลงไปสำรวจให้แน่ชัดก่อนดีกว่า 

           ส่วนนายสัตวแพทย์ปานเทพ รัตนากร คณบดีคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า มั่นใจว่า จระเข้ท้งสองตัวนี้เป็นจระเข้ที่เลี้ยงในฟาร์มและถูกนำไปปล่อยอย่างแน่นอน จากการตรวจสอบย้อนอดีตไปไม่เคยพบว่ามีจระเข้น้ำจืดในธรรมชาติบริเวณป่าเขาใหญ่มาก่อน แต่ใครจะเป็นคนนำมาปล่อยนั้น เป็นหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ที่จะต้องดูแล และเข้าข่ายการนำสัตว์ต่างถิ่นเข้าไปอยู่ในถิ่นอาศัยตามธรรมชาติ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศได้ในอนาคต รวมทั้งอาจเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยว หากบังเอิญว่าจระเข้คู่ดังกล่าวเกิดเป็นตัวผู้และตัวเมีย มีการออกลูกแพร่พันธุ์เพิ่มจำนวนมากๆ ขอเสนอให้กรมอุทยานฯ หาทางจับจระเข้ทั้งคู่และนำออกจากพื้นที่โดยเร็วจะดีกว่า

           นายอำนวย อินทรักษ์ ผอ.ศูนย์ฝึกอบรมที่ 2 เขาใหญ่ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ซึ่งอยู่บนเขาใหญ่มานานถึง 13 ปี เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนพบจระเข้บนเขาใหญ่ 2 ตัว บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติผากล้วยไม้-เหวสุวัต เป็น จุดที่อยู่ห่างจากเหวสุวัตประมาณ 1 ก.ม. จะเห็นได้ง่ายในช่วงที่มีแดดออก เพราะมัน จะมาผึ่งแดด ซึ่งก่อนหน้านี้มีคนเห็นเป็นประจำ ครั้งแรกเมื่อ ปี 2546 จำนวน 1 ตัว สีดำ ตัวโตยาวประมาณ 2 เมตร ส่วนตัวเล็กสีออกไปทางสีขาวหรือเทา ลำตัวยาวประมาณ 1 เมตรเศษ และมีคนนำทางพาฝรั่งเข้าไปเที่ยวป่าบอกว่าเห็นลูกมัน แต่ตนยังไม่เชื่อ คาดว่าน่าจะเป็นตัวเหี้ยมากกว่า และทุกคนบนเขาใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่หรือไกด์ที่นำฝรั่งเที่ยว สันนิษฐาน กันว่าจระเข้ที่พบน่าจะมีคนเอามาปล่อยทิ้งไว้ จนตัวโต ไม่ใช่สัตว์ที่มีอยู่ดั้งเดิมของเขาใหญ่ เพราะเคยถามเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าคนเก่าคนแก่ที่อยู่มาก่อน ก็ไม่มีใครเคยพบ เพิ่งจะมาพบครั้งแรกเมื่อปี 2546

           ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีจระเข้ตามธรรมชาติ เหมือนอุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว เพราะมีสภาพพื้นที่คล้ายกัน และเป็นป่าที่ต่อเนื่องกัน นายอำนวยกล่าวว่า เป็นไปได้ และตัวที่มีคนเคยเห็นก็กินปลาช่อนตัวใหญ่เข้าไป กินลิง กินงูเหลือม และเจ้าหน้าที่บอก ว่ามีเสียงร้องคล้ายเสียงช้าง เหมือนเป็นเสียงครวญคราง

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ที่มาของจระเข้ตัวนี้ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นจระเข้ที่มีคนนำมาปล่อย หรือว่าจระเข้ป่า แต่มีการพบสัตว์ต่างถิ่น หรือเอเลียนสปีชีส์ ในบริเวณลำตะคองจุดที่พบจระเข้แล้วหลายชนิด
เช่น ปลานิลที่โรงแรมเขาใหญ่เมื่อหลายสิบปีก่อนนำมาเลี้ยงไว้ ก็หลุดไปแพร่พันธุ์ในลำตะคองมากมายจนทุกวันนี้ รวมถึงไม่นานมานี้ ก็มีคนพบตัวอีกัวน่าขนาดใหญ่ ถูกคนนำมาปล่อยข้างวังจระเข้ด้วย




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รับมือคนแห่ขึ้น เขาใหญ่ ดู จระเข้เขาใหญ่ อัปเดตล่าสุด 5 กันยายน 2552 เวลา 14:41:59 40,206 อ่าน
TOP